×

ชัยธวัชเรียกร้องสภาฯ นิรโทษกรรมคดี ม. 112 แบบมีเงื่อนไข หรืออย่างน้อยสงวนพิจารณาคดี ม. 112 กับเยาวชน

โดย THE STANDARD TEAM
21.10.2025
  • LOADING...
ชัยธวัชเรียกร้อง สภาฯ นิรโทษกรรมคดี ม. 112 แบบมีเงื่อนไข หรืออย่างน้อยสงวนพิจารณาคดี ม. 112 กับเยาวชน

วันนี้ (21 ตุลาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. … หรือร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมคดีการเมือง ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

 

ชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะกรรมาธิการผู้สงวนความเห็นในมาตรา 3 ได้อภิปรายว่า คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากมีนัยสำคัญเพียงประเด็นเดียว คือขอให้กำหนดข้อยกเว้นไม่นิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดมาตรา 112 เฉพาะคนที่ไม่ยอมรับมาตรการการกระทำผิดซ้ำและให้อำนาจคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข

 

“ผมได้เสนอให้ พ.ร.บ. ฉบับนี้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 อย่างมีเงื่อนไข เพราะได้พูดคุยกับหลายฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่างกันกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และบุคคลที่มาแสดงออกทางการเมืองแต่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 ผมไม่ปฏิเสธว่าจะมีการปรองดองกันสร้างเสริมสังคมสันติสุข ให้อภัยต่อกันด้วยการนิรโทษคดี 112 เพียงแต่มีความกังวลว่า ถ้านิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 แล้วนั้น เมื่อออกมาแล้วจะกลับมาแสดงออกทางการเมืองในสิ่งที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยอีกหรือไม่
จึงเป็นที่มาของการนิรโทษกรรมคดี 112 แบบมีเงื่อนไข ซึ่งเชื่อว่ามาตรการแบบนี้เป็นมาตรการที่พยายามหาจุดตรงกลาง เข้าใจทุกฝ่าย เข้าใจฝ่ายที่กังวลและฝ่ายที่ถูกดำเนินคดี เพื่อให้การนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้บรรลุเป้าหมายสูงสุดได้อย่างแท้จริง” ชัยธวัชกล่าว

 

ชัยธวัชยังเชื่อว่า ถ้าการนิรโทษกรรมครั้งนี้มีการขีดเส้นความขัดแย้งข้อต่างๆ ของกลุ่มการเมืองในอดีต แต่กีดกันการดำเนินคดีทางการเมืองที่มีนัยที่สุดในปัจจุบันและอนาคต เราจะไม่สามารถบรรลุสิ่งที่เราบอกว่าสร้างเสริมสังคมสันติสุขได้ แต่อาจเป็นการบ่มบาดแผลและความขัดแย้งในสังคมไทยปัจจุบันเอาไว้ให้บาดลึกมากยิ่งขึ้น และอาจกดดันให้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทยในอนาคต

 

ชัยธวัชย้ำว่า ถ้าเราพยายามทำความเข้าใจการแสดงออกของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และมาตราอื่นๆ นั้น เป็นเพียงปลายเหตุ เป็นเพียงผลสะท้อนของความไม่พอใจของพวกเขาต่อสิ่งที่คนรุ่นเก่า ที่เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่ ได้สร้างไว้ให้กับการเมือง และส่งมอบเป็นมรดกให้กับพวกเขา

 

ดังนั้น ทางออกเพื่อให้เกิดการยุติการแสดงออกทางการเมือง เป็นภาระของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันทำให้การเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้ารูปเข้ารอยอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่หาทางออกด้วยการลงทัณฑ์คนรุ่นใหม่ที่รับเอามรดกบาปไป แล้วแสดงความรู้สึกออกมา

 

ช่วงท้ายชัยธวัชยังได้หยิบยกคำพูดของ เบญจา อะปัญ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกคดี 112 ว่า “พวกเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้แต่พวกเราร่วมกันเปลี่ยนอนาคตได้” ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมเปลี่ยนอนาคตร่วมสร้างสรรค์สังคมสันติสุขภายใต้ชื่อ พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้ ด้วยการทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้ แม้มีความเห็นแตกต่างกัน จึงขอเสนอให้พิจารณานิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 อย่างมีเงื่อนไข หรืออย่างน้อย เห็นด้วยกับการสงวนให้พิจารณานิรโทษกรรมคดี 112 ให้แก่เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising