Apple เขย่าวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว ชิป M5 ซึ่งเป็นชิปตระกูล Apple Silicon เจเนอเรชันล่าสุด ชูจุดเด่นประสิทธิภาพด้าน AI แบบก้าวกระโดด โดยจะนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ระดับโปรโฉมถถใหม่ MacBook Pro 14 นิ้ว, iPad Pro และ Apple Vision Pro
ถือเป็นอีกครั้งที่ Apple เลือกจะเปิดตัวแบบเงียบๆ ผ่านเว็บไซต์ ไม่ได้จัดงานเปิดตัวแต่อย่างใด ท่ามกลางข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ในสัปดาห์นี้
หัวใจสำคัญของการเปิดตัวครั้งนี้อยู่ที่การเผยโฉมชิป M5, M5 Pro และ M5 Max ซึ่ง Apple ยกให้เป็นการ ‘ก้าวกระโดดครั้งสำคัญทางด้าน AI’ เพราะชิปนี้สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 3 พร้อมกับสถาปัตยกรรม GPU แบบ 10-core เจเนอเรชั่นถัดไปที่มาพร้อม Neural Accelerator ในแต่ละคอร์
Apple บอกว่า ชิป M5 มีประสิทธิภาพการประมวลผลในระดับสูงสุดด้วย GPU เหนือกว่าชิป M4 เกิน 4 เท่า และ GPU มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับ M4
ชิปตระกูลใหม่นี้ยังมาพร้อม Neural Engine ที่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล Machine Learning ให้เร็วขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์อัจฉริยะต่างๆ ที่จะถูกรวมอยู่ใน macOS Tahoe ระบบปฏิบัติการใหม่ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว
แน่นอนเมื่อมีชิปใหม่ย่อมถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยผลิตภัณฑ์แรกที่ถูกระบุว่าจะได้ใช้ชิป M5 คือ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว
“ชิป M5 เป็นก้าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในด้าน AI สำหรับ Mac และยังเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ในด้านประสิทธิภาพกราฟิก ช่วยเร่งความเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์ที่ต้องประมวลผลหนักๆ สำหรับทุกคน” John Ternus รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าว
นอกจากความแรงจากชิปใหม่แล้ว Apple บอกว่า MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วใหม่ มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง รวมถึงกล้อง 12MP Center Stage, ระบบเสียง 6 ลำโพง, พอร์ตหลากหลายประเภท, ความสามารถของ Apple Intelligence (ที่คนไทยอาจจะยังไม่ได้ใช้ประโยชน์มากนัก)
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วใหม่ ยังมีSSD ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 2 เท่า โดย Apple บอกว่าผู้ใช้สามารถเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้สูงสุด 4TB
Apple ยังได้เทียบความแตกต่างสำหรับผู้ที่อัปเกรดจากชิป M1 และ Intel โดยเทียบกับระบบที่มีโปรเซสเซอร์ Intel แล้ว รุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพด้าน AI เร็วขึ้นสูงสุด 86 เท่า, GPU เร็วขึ้นสูงสุด 30 เท่า พร้อมด้วยเรย์เทรซซิ่ง และ CPU เร็วขึ้นสูงสุด 5.5 เท่า ส่วนผู้ที่อัปเกรดมาจากชิป M1 จะได้สัมผัสกับประสิทธิภาพด้าน AI ที่เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า, GPU เร็วขึ้นสูงสุด 6.8 เท่า พร้อมด้วยเรย์เทรซซิ่ง และ CPU เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มสูงขึ้นมากโดยใช้งานได้นานขึ้นอีกสูงสุด 14 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่อัปเกรดจากโปรเซสเซอร์ Intel และเพิ่มขึ้นอีกสูงสุด 4 ชั่วโมงสำหรับผู้ที่อัปเกรดจากชิป M1 รวมเป็นสูงสุด 24 ชั่วโมง
เบื้องต้นจะวางขายใน 30 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงในสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทยได้ระบุราคาเริ่มต้นที่ 54,900 บาท โดยมีให้เลือกทั้งสีดำสเปซแบล็คและสีเงิน แต่ยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่จะวางขายแต่อย่างใด
iPad Pro ชิป M5
ขณะเดียวกันยังได้เปิดตัว iPad Pro ใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป M5 โดยชิป M5 ได้ปลดล็อค “ประสบการณ์การใช้งาน iPad ที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยพลังมหาศาลและประสิทธิภาพด้าน AI ที่อัดแน่นอยู่ในดีไซน์ที่พกพาสะดวกสุดๆ” Apple บอกไว้แบบนั้น
Apple บอกอีกว่า iPad Pro ใหม่มีประสิทธิภาพด้าน AI สูงสุด 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M41 และเร็วขึ้นสูงสุด 5.6 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M1
ตัว iPad Pro สามารถเรนเดอร์ 3D ด้วยเรย์เทรซซิ่งได้เร็วขึ้นสูงสุด 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้า และเร็วกว่า iPad Pro พร้อมชิป M1 สูงสุด 6.7 เท่า ขณะที่ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่เร็วขึ้นถึง 2 เท่า และมาพร้อมหน่วยความจำแบบรวมเริ่มต้นที่ 12GB ในรุ่น 256GB และ 512GB ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 50%
นอกจากนี้ iPad Pro ยังรองรับการชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ภายในเวลาประมาณ 30 นาที เมื่อใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 70 วัตต์ของ Apple
iPad Pro ใหม่มาพร้อม N1 ชิปเครือข่ายไร้สายที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread โดยชิป N1 จะมอบประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5GHz พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรโดยรวมของคุณสมบัติอย่างฮอตสปอตส่วนบุคคลและ AirDrop ให้ดียิ่งขึ้น
ในแง่ของการดีไซน์นั้นมีทั้งความบางและเบา โดยมีให้เลือกทั้งสีดำสเปซแบล็คและสีเงินในรุ่น 11 นิ้วที่มีความบาง 5.3 มม. และรุ่น 13 นิ้วที่บางยิ่งกว่าที่ 5.1 มม. ซึ่ง iPad Pro ใหม่ยังรองรับการเชื่อมต่อจอภาพภายนอกได้สูงสุด 120Hz อีกด้วย
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 42,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 54,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular โดยที่ยังไม่ได้ระบุถึงเวลาที่จะว่างจำหน่ายในไทยแต่อย่างใด
Apple Vision Pro (รุ่นอัปเกรด)
แม้จะไม่มีวางขายในไทย แต่ครั้งนี้ Apple ยังได้ประกาศเวอร์ชันใหม่ของ Apple Vision Pro ด้วยการนำชิปประมวลผลเจเนอเรชันล่าสุด ‘M5’ มาใช้เป็นขุมพลังหลัก พร้อมเปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ ‘Dual Knit Band’ แบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อความสบายในการสวมใส่ที่ยาวนานขึ้น
การอัปเกรดมาใช้ ชิป M5 พร้อม Neural Engine ที่ทรงพลังขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ Apple Vision Pro สามารถประมวลผลข้อมูลเซ็นเซอร์และกล้องจำนวนมหาศาลได้แบบ เรียลไทม์ และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
Hand and Eye Tracking ที่แม่นยำและตอบสนองได้ฉับไว จะมอบประสบการณ์ AR/VR ที่สมจริงและไร้รอย
นอกจากการอัปเกรดภายใน Apple ยังใส่ใจประสบการณ์การสวมใส่ ด้วยการเปิดตัว Dual Knit Band (สายรัดศีรษะแบบถักคู่) ดีไซน์ใหม่ สายรัดนี้เป็นอีกทางเลือกที่ออกแบบมาเพื่อ กระจายน้ำหนัก ของอุปกรณ์ให้สมดุลยิ่งขึ้น มอบความกระชับและความสบายแม้ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน
อ้างอิง:
- https://www.apple.com/newsroom/2025/10/apple-unleashes-m5-the-next-big-leap-in-ai-performance-for-apple-silicon/
- https://www.apple.com/newsroom/2025/10/apple-unveils-new-14-inch-macbook-pro-powered-by-the-m5-chip/
- https://www.apple.com/newsroom/2025/10/apple-introduces-the-powerful-new-ipad-pro-with-the-m5-chip/
- https://www.apple.com/newsroom/2025/10/apple-vision-pro-upgraded-with-the-m5-chip-and-dual-knit-band/
- https://www.macrumors.com/2025/10/15/apple-announces-macbook-pro-with-m5-chip/
- https://appleinsider.com/articles/25/10/10/macos-tahoe-itself-has-leaked-2025-and-2026-mac-release-timelines