วันนี้ (26 กันยายน) เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญหรือ Con for All นำโดย บารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน เดินทางมาด้านหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ฉบับเต็มโดยเร็วที่สุด และหากคำวินิจฉัยฉบับเต็มไม่อาจให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง จะดำเนินการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยปฎิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจเกินหน้าที่หรือไม่
เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยฉบับย่อ ในวันที่ 10 กันยายน ซึ่งมีคำวินิจฉัยตอนหนึ่งที่ระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง” เราไม่อาจให้ตัวแทนที่มาจากการตัดทอนอำนาจของประชาชนเข้าไปร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชน สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเท่านั้น
ด้าน ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนเครือข่าย กล่าวว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและยังสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อหลักการประชาธิปไตยอันมีอำนาจอธิปไตย และเป็นการสร้างข้อจำกัดใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา รวมถึงข้อจำกัดนี้ยังไม่ได้อยู่ในคำถามของรัฐสภาอีกด้วย
ขณะที่ นันทวัฒน์ ศักดิ์สกุลคุณากร ตัวแทนเครือข่าย กล่าวเพิ่มเติมว่า หากคำวินิจฉัยฉบับเต็มมีเนื้อหาในลักษณะที่ประชาชนไม่สามารถเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 2 และมาตรา 3 ประกอบกับคำวินิจฉัยที่ 4/2564 ซึ่งยืนยันหลักการว่า ประชาชนมีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 กันยายน มีลักษณะเป็นการจำกัดอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยปราศจากบทบัญญัติทางกฎหมายที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งยังเป็นการพิพากษาเกินคำขอของรัฐสภา และสร้างความเสียหายต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง