×

Huawei เปิดหน้าสู้! ประกาศโรดแมปชิป AI ถึงปี 2028 ท้าชน Nvidia โดยตรง หวังพึ่งพาตนเองท่ามกลางแรงคว่ำบาตร

18.09.2025
  • LOADING...
Huawei

Huawei Technologies ได้เปิดเผยโรดแมปการพัฒนาชิป AI ถึงปี 2028 เป็นครั้งแรกสู่สาธารณะ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการท้าชิงความเป็นผู้นำของ Nvidia ในตลาดปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การประกาศครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดของจีนในการสร้างความสามารถในการ ‘พึ่งพาตนเอง’ ทางเทคโนโลยีท่ามกลางแรงกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

 

ไฮไลท์สำคัญของงานในครั้งนี้ คือการเปิดตัวสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์คลัสเตอร์ที่เรียกว่า SuperPod ซึ่ง เอริก สวี่ ประธานหมุนเวียนของบริษัทระบุว่า จะสามารถเชื่อมต่อหน่วยประมวลผล AI ของ Huawei ที่ชื่อว่า Ascend ได้มากถึง 15,488 ตัว เพื่อทำงานร่วมกันเป็นระบบเดียวที่ทรงพลัง

 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาชิปซีรีส์ Ascend อย่างละเอียด โดยจะเริ่มจากรุ่น Ascend 950 ในปีหน้า ซึ่งจะมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory) ที่ Huawei พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก ตามมาด้วยรุ่น Ascend 960 ในช่วงปลายปี 2027 และรุ่น 970 ในช่วงปลายปี 2028

 

เอริก สวี่ ได้กล่าวอ้างว่าระบบ Atlas 950 SuperPod ที่กำลังจะเปิดตัว จะมีพลังการประมวลผลสูงกว่าระบบ NVL144 ที่กำลังจะมาถึงของ Nvidia ถึง 6.7 เท่า และบริษัทยังมีแผนที่จะสร้างซูเปอร์คลัสเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่อการ์ดกราฟิกได้นับล้านตัวในอนาคตอีกด้วย

 

การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นภายใต้บริบทที่รัฐบาลปักกิ่งได้เริ่มกดดันให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของตนเองเลิกใช้ฮาร์ดแวร์ของ Nvidia โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ์ดจอ RTX Pro 6000D รวมถึงชิป H20 ที่ออกแบบมาเพื่อตลาดจีนโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการเปิดทางและส่งเสริมให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี

 

หัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของ Huawei คือการยอมรับความจริงซึ่ง เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทเคยกล่าวไว้ว่า ประสิทธิภาพของชิปเดี่ยวๆ ของจีนยังคงตามหลังสหรัฐฯ อยู่ แต่บริษัท “สามารถชดเชยด้วยการคำนวณแบบคลัสเตอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ” ซึ่งเป็นแนวทางในการเอาชนะข้อจำกัดด้านการผลิตที่เกิดจากมาตรการคว่ำบาตร

 

และกลยุทธ์การสร้างคลัสเตอร์นี้ก็ได้ถูกนำไปใช้งานจริงแล้ว โดยสวี่เปิดเผยว่า Huawei ได้ส่งมอบระบบ CloudMatrix 384 ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโปรเซสเซอร์ Ascend AI จำนวน 384 ตัวเข้าด้วยกัน ไปให้กับลูกค้ากว่า 20 รายแล้ว เป็นจำนวนมากกว่า 300 ระบบ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน

 

ชาร์ลี ไต้ รองประธานของ Forrester Research กล่าวว่า “นี่คือหมุดหมายที่สำคัญอย่างยิ่งในการเดินทางอันยาวไกลของอุตสาหกรรมชิป AI ของจีน” และยังสะท้อนถึงความก้าวหน้าอย่างยิ่งยวดทั้งในด้านการออกแบบระบบ, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และความสามารถในการผลิตภายในประเทศ

 

ทิลลี จาง นักวิเคราะห์จาก Gavekal Dragonomics มองว่านี่คือ “ช่วงเวลาที่ดีที่จีนจะแสดงความแข็งแกร่งและสร้างอำนาจต่อรอง” ในการเจรจา และยังชี้ว่า “การผลิตชิปขั้นสูงของจีนอาจมาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว ที่พร้อมจะแข่งขันในตลาดอย่างเปิดเผยแทนที่จะเป็นเพียงโครงการลับๆ”

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อมั่นในแผนการของ Huawei โดยสิ้นเชิง พอล ทริโอโล นักวิเคราะห์จาก Albright Stonebridge Group แนะนำว่าควรจะต้อง ‘ฟังหูไว้หู’ กับแผนการที่ประกาศออกมา เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนสูงในกระบวนการผลิตจำนวนมาก

 

จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดในแผนการของ Huawei คือการที่เดิมพันทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสามารถของ SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน ว่าจะสามารถผลิตชิปที่ซับข้อนเหล่านี้ในปริมาณมากได้จริงหรือไม่ ท่ามกลางข้อจำกัดในการเข้าถึงเครื่องจักรที่ทันสมัยจากชาติตะวันตก

 

ถึงกระนั้น ทริโอโลก็ยอมรับว่า Huawei มีศักยภาพที่จะทำสำเร็จได้ “หากจะมีบริษัทใดที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ในการผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่ใกล้เคียงกับผู้นำชาติตะวันตกได้ ก็คงจะเป็น Huawei ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา”

 

สถานการณ์ปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชิปในประเทศอย่าง Huawei เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดจีนได้มากขึ้น ทว่าเจนเซน หวง ซีอีโอของ Nvidia ได้ออกมาแสดงความผิดหวังต่อนโยบายใหม่นี้ของจีน โดยกล่าวว่า “ผมผิดหวังกับสิ่งที่เห็น แต่ทั้งสองประเทศมีประเด็นใหญ่ที่ต้องหารือกัน และผมจะอดทนรอ”

 

โจ เฟย นักวิเคราะห์จาก LongBridge Securities มองว่า ผลิตภัณฑ์ของ Huawei มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดจีนอยู่แล้ว และด้วยกระแสการใช้เทคโนโลยีในประเทศ ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้จึงมีโอกาสชนะใจลูกค้าได้มากขึ้น


ภาพ: Saulo Ferreira Angelo / Shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising