×

Shine the series การเมือง และเรื่องรักของ ‘ชาย’ ในยุคเปลี่ยนผ่าน

20.08.2025
  • LOADING...
shine-series-political-gay-drama

HIGHLIGHTS

  • บอกตรงๆ ว่า Shine The Series อีพีแรกชงออกมาอย่างเข้มข้นด้วยบรรยากาศทางการเมืองและสังคมจนแอบหวั่นๆ ว่าถ้าตึงไปแบบนี้ตลอดทั้งเรื่องคนดูน่าจะไม่ไหว แต่ก็พอจะเข้าใจว่าคือการปูพื้นตัวละครแต่ละตัวที่แตกต่างกันทั้งบทบาทและอุดมการณ์ ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อสื่อสารความตั้งใจของผู้สร้างตั้งแต่การตั้งชื่อ Shine แปลความหมายตรงตัวคือเปล่งประกาย และยังพ้องเสียงกับภาษาไทยว่า ‘ชาย’ กับการตั้งคำถามถึงความเป็นชายผ่านบทบาทของตัวละครเกินครึ่งว่านิยามคำนี้ไว้อย่างไร

 

  • ต้องยอมรับในความกล้าของ Be On Cloud ที่หยิบเอาช่วงเวลาสร้างสารตั้งต้นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ของไทยมาเล่า (การก้าวขึ้นมามีอำนาจของจอมพลถนอม กิตติขจรนำไปสู่เหตุการณ์ 14 และ 16 ตุลาฯ) ก้าวข้ามอาหาร ขนม ผ้า หรือนานาสรรพสิ่งไทยแท้ที่กลายเป็นนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ จนไม่มีพื้นที่ให้ความเป็นไทยร่วมสมัยได้ Shine ในแบบที่ควรจะเป็น แม้จะเป็นความจริงที่เจ็บปวด แต่ก็คือสร้างตัวตนและสะท้อนความเป็นไทยที่ไม่สมบูรณ์แบบและยังวนลูปซ้ำไปซ้ำมาจนถึงปัจจุบัน

ความวุ่นวายทางการเมืองของไทย และปัญหาชายแดนกัมพูชา ทำให้เราแทบจะลืมโปรเจกต์ดีๆ ในช่วงฮันนีมูนของรัฐบาลชุดนี้ในการผลักดันซีรีส์วายและยูริของไทยไปเลย อย่างเมื่อปลายปีที่แล้วก็มี ปิ่นภักดิ์ ซีรีส์ยูริที่ประสบความสำเร็จไปพอสมควร มาปีนี้ก็ถึงเวลาของซีรีส์ฟอร์มใหญ่ Shine The Series ที่ทำออกมาค่อนข้างเซอร์ไพรส์เพราะได้ก้าวข้ามความเป็นซีรีส์วายสู่ซีรีส์เกย์ที่ใส่มิติทางการเมือง วัฒนธรรม และตัวตนของความเป็นไทยร่วมสมัยในยุคเปลี่ยนผ่าน เมื่อมนุษย์ขึ้นเหยียบดวงจันทร์ แต่บนโลกใบเดิม สังคมในประเทศเล็กๆ อย่างเมืองไทยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

 

ซีรีส์วาย Shine The Series

 

Shine The Series พาเราเข้าไปทำความรู้จักชีวิตของชายหนุ่ม 4 คนในยุคเปลี่ยนผ่านตอนที่นีล อาร์มสตรองเพิ่งเหยียบดวงจันทร์ในปี 1969 ขณะเดียวกันประเทศไทยก็เพิ่งมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และผ่านการเลือกตั้งปี พ. ศ. 2512 มาหมาดๆ

 

ตฤณ (อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) ดอกเตอร์หนุ่มด้านเศรษฐศาสตร์ที่เพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เขากลับมาพร้อมกับปมในใจที่ปล่อยให้แฟนสาวต้องตายเพราะออกไปประท้วงทวงความยุติธรรมให้สังคม ตฤณพกความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคม โดยกำลังจะรับตำแหน่งระดับสูงในแวดวงราชการ พร้อมๆ กับถูกตั้งคำถามจากฝ่ายคัดค้านโครงการใหญ่ของกองทัพ จนเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังทำคือความถูกต้องหรือเปล่า เขาได้พบกับ ธันวา (มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง) นักร้องหนุ่มฮิปปี้ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง แต่มีความบาดหมางกับพ่ออย่างรุนแรง ธันวาฝากรอยจูบไว้กับตฤณจนเขาเริ่มสงสัยในความเป็นชายของตัวเอง

 

ขณะที่ ณรัน (ยูโร-ยศวรรธน์ ทะวาปี) นักข่าวสายลุยกำลังพยายามเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลโครงการของรัฐบาล ทำให้เขาได้เข้าไปพัวพันกับ ไกรเลิศ (สน-ยุกต์ ส่งไพศาล) นายทหารระดับสูงผู้ต้องเก็บซ่อนรสนิยมทางเพศของตัวเองเอาไว้ ชีวิตอีกด้านหนึ่งของเขาคือคอลัมนิสต์ที่ใช้นามแฝงว่าใกล้รุ่ง และกำลังโต้คารมผ่านปลายปากกากับสรัสวดีซึ่งก็นามแฝงของณรัน ทั้งคู่นัดเจอกัน และแล้วความพุ่งพล่านของอารมณ์ก็ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึง

 

เรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มทั้ง 4 คนท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรมและยุคสมัยจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตาม

 

ซีรีส์วาย Shine The Series

ซีรีส์วาย Shine The Series

 

บอกตรงๆ ว่า Shine The Series อีพีแรกชงออกมาอย่างเข้มข้นด้วยบรรยากาศทางการเมืองและสังคมจนแอบหวั่นๆ ว่าถ้าตึงไปแบบนี้ตลอดทั้งเรื่องคนดูน่าจะไม่ไหว แต่ก็พอจะเข้าใจว่าคือการปูพื้นตัวละครแต่ละตัวที่แตกต่างกันทั้งบทบาทและอุดมการณ์ ทั้งยังเป็นลายเซ็นของค่ายนี้ที่มักกำกับอารมณ์คนดูผ่าน Mood & Tone น่าค้นหา และดาร์กดำพอประมาณ

 

แต่ละตัวละครถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อสื่อสารความตั้งใจของผู้สร้างตั้งแต่การตั้งชื่อ Shine แปลความหมายตรงตัวคือเปล่งประกาย และยังพ้องเสียงกับภาษาไทยว่า ‘ชาย’ กับการตั้งคำถามถึงความเป็นชายผ่านบทบาทของตัวละครเกินครึ่งว่านิยามคำนี้ไว้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นตฤณที่ใช้ชีวิตจริงจัง อยู่ในกรอบและผ่านความสัมพันธ์กับผู้หญิงมาตลอดแต่หวั่นไหวกับฮิปปี้หนุ่มอย่างธันวา ที่น่าสนใจคือทั้งคู่ยืนอยู่คนละฟากแนวคิดและการใช้ชีวิต ขณะที่ไกรเลิศคือตัวละครที่มีมิติและสะท้อนแก่นหลักของเรื่องไว้มากที่สุดทั้งหน้าที่การงานที่ต้องรับใช้ชาติ และชีวิตส่วนตัวในฐานะสามีผู้ไม่มีใจให้ภรรยาเพราะรสนิยมทางเพศ ไหนจะความขัดแย้งเรื่องอุดมการณ์ในงานที่ทำ เรียกว่าไกรเลิศคือเดอะแบกตัวจริงของยุค 2512 ส่วน ณรัน นักข่าวผู้มีอุดมการณ์ผู้ไม่เคยตั้งคำถามกับความแหนงหน่ายต่อแฟนสาวลูกคุณหนูอย่างดาว (ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) แต่กลับถูกดึงดูดโดยศัตรูที่เขาตั้งใจจะเปิดโปงอย่างไกรเลิศ กลายเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างความรักและหน้าที่ที่น่าจะทวีความเข้มข้นในตอนต่อ ๆ ไป

 

ซีรีส์วาย Shine The Series

 

การวางคาแรกเตอร์ให้สองคู่หลักของเรื่องอยู่คนละฟากทางความคิดกลายเป็นเรื่องโรแมนติกแบบหวานๆ ขมๆ ที่มีเสน่ห์ในอีพีต่อมา ทั้งความรักโรแมนติก (ที่ยัง) ใสๆ ระหว่างตฤณและธันวา โดยมี วิคเตอร์ (ปีเตอร์ เดอร์รี่) นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเริ่มก้าวเข้ามาในความสัมพันธ์ครั้งนี้ ขณะที่ฟากไกรเลิศกับณรันออกไปแนวดุดันไม่เกรงใจใครแต่ก็ได้อารมณ์โรแมนติกแบบวินเทจในยุคที่โลกนี้ยังไม่มีทินเดอร์ หวนให้คิดถึงเสน่ห์ของการเขียนและความตื่นเต้นที่ไม่รู้ว่าคู่สนทนาผ่านปลายปากกาหน้าตาเป็นอย่างไร ที่สำคัญเคมีของนักแสดงอย่างสนและยูโรก็คือโดนใจแบบสุดๆ เรียกว่าได้ว่าเราสนใจ Shine The Series เพราะพลังดาราของมาย-อาโป แต่กลับหลงเสน่ห์สน-ยูโรแบบไม่ทันตั้งตัว

 

อย่างไรก็ตามความท้าทายของ Shine The Series คือจะสร้างสมดุลอย่างไรให้สารเครียด ๆ เรื่องการเมืองสอดรับไปกับเรื่องรักโรแมนติกจนตรึงผู้ชมให้ติดตามกระทั่งตอนจบ ต้องรอติดตาม…

 

ต้องยอมรับในความกล้าของ Be On Cloud ที่หยิบเอาช่วงเวลาสร้างสารตั้งต้นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ของไทยมาเล่า (การก้าวขึ้นมามีอำนาจของจอมพลถนอม กิตติขจรนำไปสู่เหตุการณ์ 14 และ 16 ตุลาฯ) ก้าวข้ามอาหาร ขนม ผ้า หรือนานาสรรพสิ่งไทยแท้ที่กลายเป็นนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ จนไม่มีพื้นที่ให้ความเป็นไทยร่วมสมัยได้ Shine ในแบบที่ควรจะเป็น แม้จะเป็นความจริงที่เจ็บปวด แต่ก็คือสร้างตัวตนและสะท้อนความเป็นไทยที่ไม่สมบูรณ์แบบและยังวนลูปซ้ำไปซ้ำมาจนถึงปัจจุบัน

 

ซีรีส์วาย Shine The Series

ซีรีส์วาย Shine The Series

 

นอกจากนี้ยังได้เห็นพลังสร้างสรรค์ผ่านโปรดักชันชั้นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการจัดแสงเพื่อช่วยสื่อสารทั้งความขัดแย้งในโลกของตฤณที่ดูเคร่งขรึมตลอดเวลา ขณะที่โลกของธันวาเต็มไปด้วยสีสันสว่างไสว หรือการให้แสงแสดงความแตกต่างของชนชั้นอย่างฉากในโรงแรมแกรนด์ พาราดิโซที่ส่องให้เห็นตัวละครทุกคน ขณะที่แสงไฟส่องสว่างบนถนนกับวับแวมแทบไม่เห็นชนชั้นล่างจนเหมือนพวกเขาไร้ตัวตน รวมถึงเพลง Far Side of the Moon ของ Slot Machine ที่ใช้ประกอบได้อย่างลงตัวทั้งคุณภาพทางดนตรีและความหมาย จนพูดได้ว่าโปรดักชันไทยคุณภาพดีไม่อายใครก็ว่าได้

 

Shine The Series ทุกวันเสาร์ เวลา 22:00 น. ทางแอปพลิเคชัน WeTV และช่อง 7HD

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising