×

กกต.โต้ข่าว จ่อเสนอฟ้อง 229 ราย ผู้เกี่ยวข้องคดีฮั้วเลือก สว. ยืนยันไม่เป็นความจริง ชี้สำนวนคดีอยู่แค่ขั้นตอนแรก

โดย THE STANDARD TEAM
13.07.2025
  • LOADING...
เอกสารข่าวชี้แจงจากสำนักงาน กกต. เรื่องคดีฮั้วเลือกตั้ง ส.ว.

วันนี้ (13 กรกฎาคม) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีสื่อมวลชนและผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ รายงานข่าวว่า ‘คณะอนุกรรมการสืบสวน และไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 เตรียมเสนอสำนวนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหญ่ เพื่อฟ้องผู้เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 229 ราย ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568’ นั้น

 

สำนักงานกกต.ขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยสำนวน ดังกล่าวขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ที่อยู่ระหว่าง รวบรวมพยานหลักฐาน และระยะเวลาที่ขยาย ซึ่งจะครบกำหนดการขอขยายระยะเวลาในวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 สำนวนดังกล่าวจึงยังไม่ได้เสนอที่ประชุมกกต.ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

 

การพิจารณาสำนวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 มีขั้นตอนการพิจารณาออกเป็น 4 ชั้น ดังนี้ 

 

ชั้นที่ 1 เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้รับสำนวนแล้ว ให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน และจัดทำความเห็น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้จัดส่งสำนวนไปยังสำนักงานกกต.(ส่วนกลาง) โดยเร็ว

 

ชั้นที่ 2 สำนักงานกกต. ได้รับสำนวนแล้วให้พนักงานสืบสวน และไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวนดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก และเลขาธิการกกต.(รองเลขาธิการ คณะกรรมการกกต.ที่ได้รับมอบหมาย)

 

ชั้นที่ 3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหา หรือข้อโต้แย้ง เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด ปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็น และสำนักงาน กกต. เสนอสำนวนให้คณะกรรมการกกต.พิจารณา

 

ชั้นที่ 4 คณะกรรมการกกต. เมื่อคณะกรรมการกกต.ได้รับสำนวน จากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ต้องพิจารณาชี้ขาดหรือสั่งการโดยเร็ว

 

ทั้งนี้ เมื่อคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ต้องเสนอสำนักงานกกต. เพื่อดำเนินการต่อไป (ชั้นที่ 2) 

 

อย่างไรก็ตามสำนักงาน กกต.ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ก่อนเผยแพร่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising