วันนี้ (26 มิถุนายน) ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวและมอบของกลางที่ยึดได้ในคดีวัดไร่ขิง คืนให้กับรักษาการเจ้าอาวาสคนใหม่ เพื่อให้วัดเก็บรักษาของกลางระหว่างดำเนินคดี
ของกลางที่ส่งมอบคืน ประกอบด้วย รถตู้ รถเก๋ง และรถกระบะ รวม 10 คัน, วัตถุมงคล, เครื่องประดับ, โฉนดที่ดิน, สมุดบัญชีธนาคาร, สัญญาซื้อขาย และของกลางอื่นๆ รวม 17 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 58,670,000 บาท โดยของกลางเหล่านี้ยังคงเป็นของกลางในคดี และวัดไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องฝากเก็บรักษาไว้ภายใต้การดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันความทรุดโทรมและการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินตรวจสอบเชิงรุกคดีทุจริตพุทธพาณิชย์ทั่วประเทศ
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ตำรวจได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบวัดอื่นๆ เพิ่มเติมทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตในลักษณะพุทธพาณิชย์
สำหรับกลุ่มผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมจากการเข้าตรวจค้น 4 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย มุกดาหาร และขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา พบเอกสารและทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ในชื่อของ พชรพร หรือ เตย และญาติพี่น้อง รวมถึงโฉนดที่ดินในชื่อของแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และทรัพย์สินของอรัญวรรณ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ทั้งหมดกว่า 150 ล้านบาท ยังไม่รวมทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม เช่น บ้าน อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์อีกกว่า 10 คัน ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจยึดเพื่อนำคืนแก่วัดต่อไป
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยืนยันว่า จากการสืบสวนสอบสวน พบว่าทรัพย์สินทั้งหมดได้มาจากการโอนเงินจากแย้มให้กับอรัญวรรณ เพื่อนำไปซื้อทรัพย์สินและที่ดิน รวมถึงการนำเงินสดกว่า 60 ล้านบาทไปให้เตยและพันจ่าเอกฉัตรชัย เพื่อนำไปซื้อทรัพย์สิน แม้ผู้ต้องหาบางรายจะอ้างว่าทรัพย์สินได้มาจากการประกอบอาชีพ แต่การสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาไม่มีฐานานุรูปเพียงพอในการประกอบอาชีพ จึงเชื่อได้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดมาจากเงินของวัดอย่างแน่นอน
อินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการรักษาราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าอาวาสทุกวัดทั่วประเทศจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่วัด โดยมีความรู้ความเข้าใจในระบบ ระเบียบ และบัญชีของวัด จากเดิมที่ต้องส่งรายงานเงินวัดให้กับสำนักพุทธฯ ประจำจังหวัดทุก 9 เดือน จะเปลี่ยนเป็น 12 เดือน หากเจ้าอาวาสกระทำความผิด จะมีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์จนถึงพ้นจากตำแหน่ง และอาจถูกดำเนินคดีอาญาด้วย หลังจากนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบวัดทั่วประเทศที่มีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มผู้ต้องหา
ไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ป.ป.ช. เสริมว่า แย้ม หรือทิดแย้ม ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง ป.ป.ช. มีอำนาจตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติได้ และได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ป. ดำเนินคดี โดยพบว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินจำนวนมากไปให้บุคคลอื่น ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ
คณพศ หงสาวรางกูร ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 3 ตัวแทน สตง. กล่าวว่า สตง. ได้เสนอรายงานและให้คำแนะนำแก่เจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าวัดได้ปรับปรุงการบริหารจัดการเพื่อเรียกศรัทธาของประชาชนกลับคืนมา โดยผู้ว่าการ สตง. ได้สั่งการให้เข้ามาตรวจสอบเป็นระยะและให้ข้อเสนอแนะแก่คณะกรรมการของวัด เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
พระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ในฐานะรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง กล่าวว่า ระบบการดูแลทรัพย์สินที่ตำรวจนำมาฝากเก็บรักษา ทางวัดจะมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ก่อน โดยวัดมีสถานที่เก็บและมีคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นอย่างเป็นระบบ ทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาส เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลทรัพย์สินของวัด ทำให้ไม่รู้สึกหนักใจในการดูแลทรัพย์สิน
สำหรับแนวทางในการเรียกศรัทธาของประชาชนกลับคืนมา รักษาการเจ้าอาวาสมั่นใจในพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นครูพระนักพัฒนาและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของประชาชน และจะทำให้ศรัทธากลับมาเป็นปกติได้ เนื่องจากทุกวันนี้ประชาชนก็เริ่มกลับมาปกติแล้ว
นอกจากนี้ ในวันนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง, ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลที่วัดไร่ขิง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568