×

สหรัฐฯ จำกัดวีซ่าไทย ตอบโต้ส่งอุยกูร์กลับจีน กระทบการค้าไทยแค่ไหน?

18.03.2025
  • LOADING...
us-visa-restrictions-thai

พิชัยถกหอการค้า วางแนวทางกระตุ้นการลงทุน ผุดนโยบายสูตร 80:20 กู้วิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเผย สหรัฐฯ ระงับวีซ่าไม่กระทบการค้าไทย ขณะที่หอการค้ามองบวก รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่หยิบยกประเด็นสิทธิมนุษยชนกรณีอุยกูร์มาเป็นข้ออ้างในการกีดกันการค้าการลงทุนกับไทย แต่ห่วงทรัมป์ 2.0 กระทบและคาดเดายาก ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังเป็นกับดักร้ายฉุดเศรษฐกิจไทย

 

พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง การประชุมหารือแนวทางการผลักดันการค้าการลงทุนของไทยปี 2568 ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย วันนี้ (17 มี.ค.) ว่า กรณีที่สหรัฐฯ ประกาศนโยบาย จำกัดวีซ่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย เพื่อตอบโต้ การส่งอุยกูร์กลับจีนว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการค้า และการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐ เชื่อว่ารัฐบาลไทยสามารถเจรจาได้

 

ขณะที่นโยบายการลงทุนที่วางไว้คือ นโยบาย 80:20 หมายความว่า 80% เน้นสนับสนุนภาคเอกชนและผู้ประกอบการให้เติบโต ส่วนอีก 20% เน้นการกำกับดูแล ตรวจสอบ เช่น เรื่องสินค้าด้อยคุณภาพ

 

ขณะเดียวกันประเมินว่าปีนี้ การส่งออก และการท่องเที่ยวจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากการส่งออกเติบโตได้ดี เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ขยายตัวสูงถึง 13.6% เดือนถัดไปจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง เพราะช่วงกลางปีนี้คาดว่าจะมีการส่งออกสินค้าแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ได้มากขึ้น หลังจากโรงงานในไทยเริ่มเดินเครื่องและผลิตเพื่อส่งออกได้

 

“เศรษฐกิจไทยเวลานี้ เราแย่มาสิบปี เราโตเฉลี่ย ปีละ 1.9% มาสิบปี เราโตต่ำแบบนี้ การจะแก้ ถือว่าไม่ง่าย และไม่เร็ว แต่ขอย้ำว่าทิศทางดีขึ้นมาก”

 

พิชัย

 

พิชัยย้ำว่า การส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 4% ตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ขยายตัวดี คาดการณ์ว่าปีนี้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็น 39 ล้านคน

 

อย่างไรก็ตาม เห็นตรงกันว่าปัญหาเดียวที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีปัญหาแม้ว่าส่งออก และท่องเที่ยวจะดี คือ แก้ปัญหาหนี้โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนซึ่งมีสัดส่วนที่ถึง90% ของจีดีพีและปัญหาหนี้นอกระบบ เป็น10% ของ GDP

 

ดังนั้น ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งหากสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะโตได้ 5-6% “ พิชัย กล่าว

 

ส่วนด้านดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อปรับโครงสร้างการส่งออก ทั้ง AI Data Center และ PCB ซึ่งทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยอย่างต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมอาหาร ประเทศแถบตะวันออกกลางให้ความสนใจ จึงจะผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง รวมทั้งพร้อมทลายทุนผูกขาดข้าว เปิดเสรีข้าว

 

ขณะเดียวกันจะเร่งเจรจา FTA ทั้ง ไทย-เกาหลีใต้, ไทย-ยูเออี, อาเซียน-แคนาดา เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทั้งหมดนี้ในการขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุน

 

เอกชนวอนรัฐบาลเร่งแก้หนี้ครัวเรือน เจรจาจีนเปิดนำเข้าน้ำเชื่อม สกัดทุนจีนสวมสิทธิ์ทุเรียนไทย

 

ด้านสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้เศรษฐกิจไทยเดินต่อไปไม่ได้เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือน และ เอสเอ็มอีเข้าไม่ถึงแหล่งทุน และประชาชนไม่มีกำลังซื้อ หากแก้หนี้ได้เศรษฐกิจจะไปต่อได้ เพราะการส่งออกและท่องเที่ยว ขยายตัวดีอยู่แล้ว

 

ทั้งนี้ ในระยะสั้นหอการค้าฯ ต้องการให้รัฐบาลเร่งเจรจาแก้ไขปัญหาจีนระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำเชื่อมจากไทย ปัญหาการนำเข้าทุเรียนไทยถูกสวมสิทธิ์ รวมทั้งเร่งสกัดสินค้าด้อยคุณภาพราคาถูกจากต่างประเทศที่เข้ามาตีตลาดไทย

 

ส่วนด้านการลงทุน ขอให้รัฐบาลโดย BOI เข้ามาช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศที่ต้องการขยายการลงทุน ด้วยการปรับปรุงเครื่องจักรใหม่ ให้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีเครื่องจักรและภาษีเงินได้นิติบุคคลกับภาคอุตสาหกรรมของไทยให้เหมือนกับที่ให้แก่นักลงทุนต่างชาติ

 

“สำหรับการยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่รัฐ ในมุมมองของเอกชน คาดว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบ แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือนโยบาย ทรัมป์ 2.0 เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่”

 

ด้านชนินทร์ ชลิศราพงศ์ ประธานคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ น่าจะไม่หยิบยกประเด็นเรื่อง สิทธิมนุษยชน มาเป็นข้ออ้างในการกีดกันการค้าการลงทุนกับไทย

 

“ไทยได้รับการยอมรับและรับรองจากหน่วยงานสหรัฐฯ มั่นใจว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะไม่หยิบยกประเด็นเรื่อง สิทธิมนุษยชน กรณีอุยกรูขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการกีดกันการค้าการลงทุนกับไทยแน่นอน” ชนินทร์ กล่าว

ภาพ: Fahroni / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising