×

ณัฐพงษ์ลุกหารือประธานสภา ขอความชัดเจนหากยอมลบชื่อทักษิณออกจากญัตติ ต้องยอมให้เอ่ยถึงบุคคลภายนอกได้โดยไม่เบรก

โดย THE STANDARD TEAM
13.03.2025
  • LOADING...

วันนี้ (13 มีนาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 23 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นหารือเรื่อง การบรรจุญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยให้เหตุผลว่า วันนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้าย จึงอยากให้มีการหารือในที่ประชุมมากกว่าตอบโต้ผ่านหน้าสื่อเพื่อให้ได้ข้อสรุป และเดินหน้ากระบวนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

 

ณัฐพงษ์ยืนยันว่ามีการประสานกับ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะหารือร่วมกันในเวลา 13.00 น.ของวันนี้ เพื่อให้เป็นประเด็นที่โปร่งใสและไม่อยากมีข้อครหาต่อประชาชนที่ติดตามการเมืองอยู่ โดยหนังสือด่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ตอบกลับมาโต้แย้งเรื่องความเห็นไม่ตรงกัน 

 

ณัฐพงษ์ตั้งคำถามว่าข้อบกพร่องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้วินิจฉัย ขณะเดียวกันประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ยินดีให้แก้ไขคำในญัตติ เนื่องจากไม่กระทบกับสาระสำคัญในญัตติ หากฝ่ายค้านยอมปรับตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ จะมีสิทธิเต็มที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ  โดยไม่ถูกห้ามใช่หรือไม่

 

วันมูหะมัดนอร์ตอบว่า หากอภิปรายตามญัตติภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ก็สามารถอภิปรายได้เต็มที่ ไม่มีใครขัดขวางได้ ยกเว้นการอภิปรายผิดข้อบังคับ อาจมีผู้โต้แย้ง ซึ่งประธานในที่ประชุมต้องให้ความเป็นธรรม อยากให้ที่ประชุมดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะประชาชนทั่วประเทศอยากรับฟังด้วย ไม่ได้อยากฟังการประท้วงจนสารัตถะของการประชุมขลุกขลัก ความปรารถนาสุดยอดคือ การประชุมที่มีเหตุมีผล ไม่มีใครคอยประท้วง

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าตามข้อบังคับระบุไว้ชัดเจนว่าฝ่ายค้านสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกล่าวถึงชื่อบุคคลภายนอกได้ หากไม่ได้สร้างความเสียหาย แต่หากสร้างความเสียหาย ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบเอง แต่ที่ผ่านมา ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า ไม่ให้ใส่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในญัตติ เพราะประธานเสี่ยงถูกฟ้องร้องเอง 

 

“ดังนั้น ถ้าวันนี้พวกผมยอมปรับคำในญัตติ หมายความว่าพวกผมจะยังสามารถเดินหน้าการอภิปรายต่อ พูดชื่อบุคคลใดก็ได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยที่พวกผมเป็นผู้รับผิดชอบเอง ท่านประธานยืนยันตามหลักการนี้หรือไม่”

 

วันมูหะมัดนอร์ตอบกลับว่า ประเด็นของที่ประชุมนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้พูดจะต้องรับผิดชอบผู้เดียวเท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นประธานในที่ประชุมหากไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ก็จะถูกตำหนิและเดินหน้าต่อไปไม่ได้ พูดตามตรง บุคคลภายนอกอาจไม่ได้หมายถึงทักษิณ อาจเป็นคนอื่น ก็ไม่สามารถอภิปรายได้ 

 

“ผมคิดว่าไม่ได้หมายความว่าผู้พูดจะรับผิดชอบผู้เดียวเท่านั้น ผู้เป็นประธานในที่ประชุมที่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ถ้าไม่เป็นไปตามข้อบังคับก็จะถูกตำหนิและเดินหน้าต่อไปไม่ได้” วันมูหะมัดนอร์กล่าว

 

ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม มาตรา 151 เป็นการอภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ หรือรัฐมนตรีรายบุคคล หากในญัตติบรรจุชื่อคนภายนอก จะดำเนินการประชุมไม่ได้ แต่ในการอภิปรายบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวโยง สามารถพูดได้ บางครั้งอาจไม่ต้องพูดชื่อก็รู้ได้ ถ้าทำแบบนี้ก็จะประท้วงไม่ได้ 

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า การประท้วงเป็นสิทธิของ สส.หากเอ่ยชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิที่จะประท้วงอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านไม่อยากเห็น คือการประชุมที่ประธานสภาฯ วางตัวไม่เป็นกลาง  โดยหนังสือที่ได้ตอบกลับมา ระบุชัดเจนว่า การอภิปรายของ สส.ที่เป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย สมาชิกผู้นั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบผลแห่งการกระทำนั้นเอง 

 

ต่อมา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ร่วมหารือโดยระบุว่า เข้าใจความกังวลของประธานสภาผู้แทนราษฎรดี แต่การอภิปรายถึงบุคคลภายนอกก็อาจต้องเปิดพื้นที่ให้บุคคลภายนอกให้ชี้แจงด้วย เช่นนั้นตามข้อบังคับข้อที่ 76 ตนขอเสนอแนะให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สบายใจว่าสามารถอนุญาตให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีนำบุคคลภายนอกเข้ามาชี้แจงได้ และเพื่อความเป็นธรรมประธานสภาผู้แทนราษฎรก็อาจทำหนังสืออนุญาตให้นายกรัฐมนตรีนำบิดามานั่งชี้แจงร่วมด้วย เพื่อให้เป็นธรรมกับทั้งนายกรัฐมนตรีและบิดาของนายกรัฐมนตรีด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising