GC ลุยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ 4,500 ล้านบาทต่อปี หวังพลิกฟื้นจากภาวะขาดทุน เดินหน้าดัน EBITDA โต 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573 พร้อมลุยลงทุน allnex SEA Hub คาดชัดเจนภายในปี 68 ซีอีโอยืนยันธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นยังเป็นธุรกิจหลักของ ปตท. ชี้บริษัทแม่ ปตท. เปิดทางพาร์ตเนอร์ร่วมลงทุนหวังเสริมแกร่งธุรกิจ แผนปรับกลยุทธ์ไม่กระทบการดำเนินการของ GC แน่นอน
ณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุตสาหกรรมในภาพรวมกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน นโยบายสหรัฐอเมริกาที่เปลี่ยนแปลง และภาวะอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) ธุรกิจปิโตรเคมี ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทปี 2567 ขาดทุนสุทธิที่ 29,810.55 ล้านบาท จากปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 999.13 ล้านบาท
ขณะที่ในปี 2568 GC ยังเดินหน้าพลิกธุรกิจ “หยุดภาวะขาดทุน” และมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ขยายธุรกิจมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ (High Value & Low Carbon Business) เพื่อเร่งนำธุรกิจกลับสู่สถานการณ์ปกติท่ามกลางจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรม
โดยตั้งเป้าลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ 4,500 ล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าให้มีกำไร ก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ได้กว่า 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี หรือปี 2573 ผ่านการประหยัดค่าใช้จ่าย เสริมสภาพคล่องจากสินทรัพย์ที่มี และปรับปรุงการดำเนินงานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- คุยกับ คงกระพัน อินทรแจ้ง ซีอีโอคนใหม่ ปตท. “โลกที่แข่งขันสูง เราต้องกล้าที่จะปรับ เปลี่ยน ทบทวนให้เร็ว และต่อยอดในสิ่งที่ถนัด”
- ปตท. รับมือปิโตรเคมีขาลง ศึกษาปรับพอร์ตกิจการ PTTGC-TOP-IRPC พร้อมศึกษาลดสัดส่วนแบ่งขายหุ้นทั้ง 3 บริษัทให้พาร์ตเนอร์ต่างชาติ คาดว่าจะมีความชัดเจนปลาย 2Q68
- ปตท. เร่งเดินหน้าหาพาร์ตต่างชาติ รับมือวัฏจักรปิโตรเคมีขาลง เน้นกุมฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน PTTGC-TOP-IRPC
พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยมาตรการระยะกลางผ่าน 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การเสริมศักยภาพธุรกิจมูลค่าสูง และการเติบโตในธุรกิจที่ยั่งยืน
GC บริษัทไทยรายแรกที่นำเข้าอีเทนจากสหรัฐ
โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จะต้องสร้างความมั่นคงในระยะสั้น GC ได้ดำเนิน มาตรการเร่งด่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ โดยบรรลุข้อตกลงการจัดหาอีเทนกับ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทรายแรกที่นำเข้าจากสหรัฐ โดยคาดว่าจะได้รับการจัดสรรปริมาณอีเทนเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปี 2567
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังใช้บริหารสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวทาง Asset Light และลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (Capex) รวมถึงดำเนินมาตรการเสริมสภาพคล่องผ่านวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน เพื่อรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและรองรับการเติบโตในอนาคต
ส่วนการเสริมความมั่นคงด้านวัตถุดิบและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนในระยะยาว GC จะที่นำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯ มาใช้ในประเทศไทย เพื่อทดแทนวัตถุดิบอื่นๆ โดยได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับ ปตท. และพันธมิตรระดับโลก ได้แก่ บริษัทย่อยใน Enterprise Products Partners บริษัท เอ็มไอเอสซี เบอร์ฮาด และบริษัท ไทยแท้งค์เทอร์มินัล จำกัด เพื่อจัดหาและขนส่งอีเทนคุณภาพสูง 400,000 ตันต่อปี เป็นระยะเวลา 15 ปี
“GC สามารถนำอีเทนมาใช้เป็นวัตถุดิบได้โดยไม่ต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของโรงงาน ซึ่งได้รับการออกแบบให้รองรับอีเทนได้ตั้งแต่ต้น ลดความจำเป็นในการลงทุนเพิ่มเติม คาดว่าโครงการจะเริ่มดำเนินการในปี 2572 การเสริมศักยภาพธุรกิจมูลค่าสูง”
เพิ่มกำลังผลิตโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในจีน-อินเดีย
ขณะเดียวกัน GC ยังเดินหน้า allnex SEA Hub ในระยอง ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในเฟสแรก และคาดว่าจะตัดสินใจลงทุนภายในปี 2568 โดยมุ่งเน้น Waterborne Coatings และ Coating Resins ชนิดพิเศษ เพื่อขยายตลาดในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ผลักดัน allnex ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านกลยุทธ์ขยายตลาดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2567 allnex ได้เพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานที่ใหญ่ที่สุดที่ มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน และลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ที่ เมืองมะหาด ประเทศอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 โครงการนี้ช่วยเสริมศักยภาพด้านการผลิตและการกระจายสินค้าในตลาดที่มีการเติบโตสูง
“ด้วยเป้าหมาย 4,500 ล้านบาทที่ตั้งไว้ จะทำให้บริษัทกลับมาเป็นบวกตามสถานการณ์ดีขึ้น และมีการบริหารต้นทุนที่ดี แต่หากสถานการณ์แย่กว่านี้ GC ก็ต้องมีแผนรองรับ แต่มั่นใจว่าเมื่อมีการบริหารต้นทุนที่ดีแล้ว จะไม่สร้างผลกระทบให้กับบริษัทไปมากกว่านี้”
ยันธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นยังเป็นธุรกิจหลักของ ปตท.
ณะรงค์ศักดิ์ กล่าวถึงการเปิดโอกาสให้พาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมลงทุน ตามนโยบายของคงกระพัน อินทรแจ้ง ซีอีโอ ปตท. ที่ระบุว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมของกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ (Downstream) คือกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี กำลังอยู่ในช่วงวัฏจักรขาลง (Downcycle) นั้น
”ยืนยันว่าธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นยังเป็นธุรกิจหลักของ ปตท. อย่างไรก็ตาม การที่ปตท.หาพาร์ตเนอร์เข้ามานั้นก็เป็นการคัดสรรให้บริษัทลูกแข็งแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันเราต้องดูสินทรัพย์ของเราทุกตัว ว่าตัวไหนมีโอกาสที่จะเติบโต ขณะที่การปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ ยืนยันว่าจะไม่กระทบการดำเนินการของ GC แน่นอน เรายังเดินหน้าลดต้นทุน เพิ่มรายได้ต่อเนื่อง” ณะรงค์ศักดิ์กล่าว