วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ที่กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกรรมการ พิจารณาเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติกรรมที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งมีพฤติการณ์อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
ภูมิธรรมเปิดเผยก่อนการประชุมโดยยืนยันว่าต้องใช้ 15 เสียงในการรับเป็นคดีพิเศษ ส่วนที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ไม่มาร่วมประชุม และคนที่ลาก็สามารถส่งตัวแทนมาร่วมได้
ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ภูมิธรรมกล่าวต่อที่ประชุมว่า ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง หากมีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นว่ามีปัญหา เราก็จะนำเข้าสู่กระบวนการรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการต่อไป หากไม่ใช่ ไม่ชัด ก็จะพิจารณาไปตามเนื้อผ้า ยืนยันว่าตนเองไม่มีปัญหาหรือข้อขัดข้อง แต่เรื่องนี้มีผลกระทบต่อสถาบันหลักของประเทศจึงน่าเป็นห่วง
“ในทางปฏิบัติหากชัดเจนว่าไม่มีอะไรก็ต้องว่าไปตามนั้น ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ความรู้สึกมาเป็นตัวกำหนด หรือตัวตัดสิน พิจารณาไปตามเนื้อผ้า เพราะเราต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่”
ภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า การประชุมในวันนี้จึงขอเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูด และออกความเห็นให้เต็มที่ เพื่อให้ที่ประชุมเห็นความชัดเจนและดำเนินการต่อไป เชื่อมั่นในเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกรรมการทุกคน อยากให้พิจารณาในกระบวนการที่เที่ยงธรรมและถูกต้อง ตามหลักกฎหมายและข้อเท็จจริง โดยจะขอให้นำวาระคดีการเลือก สว. มาพิจารณาเป็นวาระแรก
ทั้งนี้ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ แจ้งว่ามีกรรมการมาประชุม ทั้งหมด 19 คน จาก 22 คน โดยขาดกรรมการโดยตำแหน่ง 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจะมีมติรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ บอร์ดคดีพิเศษจะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด 22 คน หรือไม่น้อยกว่า 15 เสียง ซึ่งก่อนหน้านี้ DSI ได้ส่งหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งความคืบหน้าผลการสืบสวนและขอความเห็นการดำเนินคดีฮั้วเลือก สว. ปี 2567