มาร์ค บราวน์ นายกรัฐมนตรีหมู่เกาะคุก ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ เพื่อลงนามข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับจีน ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดของการขยายอิทธิพลจีนในภูมิภาคแปซิฟิก
ข้อตกลงดังกล่าวสร้างความสั่นคลอนให้กับความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างหมู่เกาะคุกและนิวซีแลนด์ เพราะฝ่ายนิวซีแลนด์มองว่าการลงนามในข้อตกลงของหมู่เกาะคุกและจีนไม่ได้ผ่านการปรึกษาอย่างเหมาะสมกับนิวซีแลนด์ก่อน ซึ่งทั้งสองประเทศมีข้อตกลงความสัมพันธ์เสรี (Free Association Agreement) ร่วมกันมานานเกือบ 60 ปี ซึ่งข้อตกลงนี้เองทำให้นิวซีแลนด์มีอิทธิพลเหนือหมู่เกาะคุก โดยเฉพาะด้านนโยบายต่างประเทศ
การลงนามครั้งนี้ส่งผลให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างหมู่เกาะคุกและนิวซีแลนด์ โดยหลายฝ่ายจับตาดูว่า ข้อตกลงระหว่างจีนและหมู่เกาะคุกจะส่งผลอย่างไรต่อเสถียรภาพของภูมิภาคแปซิฟิก
-
ข้อตกลงระหว่างหมู่เกาะคุกและจีนคืออะไร
นายกรัฐมนตรีมาร์ค บราวน์ เตรียมลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมกับจีน (Joint Action Plan for Comprehensive Strategic Partnership with China) ระหว่างการเยือนปักกิ่งซึ่งมีขึ้นวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2025
แม้จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง แต่บราวน์ระบุว่าความร่วมมือนี้จะช่วยขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก โดยรายละเอียดของข้อตกลงจะมีการสรุประหว่างการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเยือนจีนครั้งแรกของผู้นำหมู่เกาะคุกในรอบ 10 ปี
ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะครอบคลุมความร่วมมือด้านการค้า ภูมิอากาศ การท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐาน แต่บราวน์ยืนยันว่าไม่มีประเด็นด้านความมั่นคงหรือกลาโหมเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาค เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ยังคงจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกังวลถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในแปซิฟิก โดยเฉพาะหลังจากที่จีนลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอนเมื่อปี 2022 ซึ่งเปิดทางให้ตำรวจจีนเข้ามาฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของหมู่เกาะโซโลมอน
-
จีนมีบทบาทใหญ่ในหมู่เกาะคุกอยู่แล้วหรือไม่
จีนมีบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจของหมู่เกาะคุก
หากดูตามสถิติระหว่างปี 2008-2022 จะเห็นว่าหมู่เกาะคุกได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศมูลค่ารวม 517 ล้านดอลลาร์ โดยมีนิวซีแลนด์เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่สุดที่ 219 ล้านดอลลาร์ ส่วนจีนมาเป็นอันดับสองที่ 112 ล้านดอลลาร์ (หรือมากกว่าออสเตรเลียถึงสองเท่า) ขณะที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนเพียง 95,000 ดอลลาร์ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา
ในอดีต จีนเคยร่วมมือกับนิวซีแลนด์ในการพัฒนาโครงการระบบจ่ายน้ำขนาดใหญ่ของหมู่เกาะคุกผ่านข้อตกลงไตรภาคี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จีนทำข้อตกลงลักษณะนี้ นอกจากนี้ ความช่วยเหลือทางการเงินจากจีน ร่วมกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ยังมีส่วนช่วยให้หมู่เกาะคุกสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำหมู่เกาะแปซิฟิกในปี 2023 ด้วย
ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จีนและหมู่เกาะโซโลมอนได้ตกลงที่จะสำรวจโครงการพัฒนาอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงการสร้างศูนย์ขนส่งอเนกประสงค์ในหมู่เกาะนอร์เทิร์นคุก
-
หมู่เกาะคุกเป็นอิสระจากนิวซีแลนด์ชัดเจนหรือไม่
หมู่เกาะคุก ซึ่งประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ 15 เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ เคยเป็นดินแดนภายใต้การปกครองของอังกฤษในปี 1888 ก่อนที่นิวซีแลนด์จะผนวกเข้าเป็นของตนในปี 1901 แม้จะมีการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ ต่อมาในปี 1965 หมู่เกาะคุกได้รับสถานะสู่การปกครองตนเอง และทำข้อตกลงความสัมพันธ์เสรี (Free Association) กับนิวซีแลนด์
ข้อตกลงนี้เปิดทางให้หมู่เกาะคุกสามารถจัดการกิจการภายในและกิจการระหว่างประเทศได้เอง แต่ยังต้องพึ่งพานิวซีแลนด์ด้านการเงินและการป้องกันประเทศ ชาวหมู่เกาะคุกถือหนังสือเดินทางนิวซีแลนด์และเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีชาวเมารีหมู่เกาะคุก (Cook Islands Maori) เกือบ 100,000 คนอาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์
แม้หมู่เกาะคุกจะสามารถทำข้อตกลงระหว่างประเทศได้อย่างอิสระ แต่ข้อตกลงความสัมพันธ์เสรีกำหนดให้ต้องมีการปรึกษาหารือกับนิวซีแลนด์ในด้านนโยบายต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงและประเด็นเชิงยุทธศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่าหมู่เกาะคุกมีสิทธิ์ที่จะลงนามข้อตกลงกับจีน เช่นเดียวกับที่นิวซีแลนด์เองก็มีข้อตกลงหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับจีนมานานกว่าทศวรรษ
-
ความขัดแย้งระหว่างนิวซีแลนด์และหมู่เกาะคุกเกิดขึ้นกะทันหันหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความขัดแย้งล่าสุดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เป็นความขัดแย้งที่สะสมมาระยะหนึ่งแล้ว
ในเดือนธันวาคม 2024 หมู่เกาะคุกซึ่งมีประชากรประมาณ 15,000 คน ได้เสนอให้มีการจัดตั้งระบบหนังสือเดินทางของตนเอง นายกรัฐมนตรีมาร์ค บราวน์ ระบุในตอนนั้นว่าเอกสารนี้มีจุดประสงค์เพื่อระบุตัวตนของพลเมืองหมู่เกาะคุกเท่านั้น ไม่ได้ใช้เป็นเอกสารเดินทางหรือหนังสือเดินทางจริง
เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้นิวซีแลนด์ออกโรงคัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจนำไปสู่การที่หมู่เกาะคุกกลายเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ และอาจทำให้ชาวหมู่เกาะคุกสูญเสียสถานะพลเมืองนิวซีแลนด์โดยอัตโนมัติ และภายใต้แรงกดดันจากทั้งประชาชนและรัฐบาล ข้อเสนอนี้จึงถูกถอนออกไป
บราวน์กล่าวกับสื่อ Cook Islands News ว่า นิวซีแลนด์ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวและพร้อมใช้มาตรการกดดันต่อหมู่เกาะคุกเกี่ยวกับประเด็นหนังสือเดินทาง โดยยืนยันว่าโครงการนี้ต้องถูกยกเลิก และรัฐบาลจะมองหาวิธีอื่นในการยืนยันอัตลักษณ์ของพลเมืองหมู่เกาะคุกแทน
-
นิวซีแลนด์มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อข้อตกลงระหว่างหมู่เกาะคุกกับจีน
นิวซีแลนด์แสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความโปร่งใสของข้อตกลงระหว่างหมู่เกาะคุกกับจีน โดยระบุว่าข้อตกลงระดับนานาชาติที่สำคัญเช่นนี้ควรมีการหารือล่วงหน้า
หลังจากที่บราวน์ประกาศเดินทางไปจีน วินสตัน ปีเตอร์ส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศนิวซีแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Newstalk ZB ว่าเรื่องนี้สร้างความประหลาดใจทั้งต่อชาวหมู่เกาะคุกเองและต่อนิวซีแลนด์
แม้ว่าบราวน์จะยืนยันว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ แต่นิวซีแลนด์มองว่าเรื่องนี้เป็นการท้าทายข้อตกลงทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับข้อเสนอแยกทำหนังสือเดินทางของหมู่เกาะคุกที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์มองว่าข้อตกลงนี้อาจสะท้อนถึงความกังวลที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนในภูมิภาค โดยเฉพาะในประเด็นการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมเหมืองใต้ทะเลลึกและการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในแปซิฟิก
-
ความขัดแย้งนี้จะสะเทือนโลกหรือไม่
ข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและหมู่เกาะคุกเกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันเพื่อขยายอิทธิพลในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างจีน กับสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ก่อนหน้านี้ หมู่เกาะโซโลมอนได้ลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงกับจีนหลังจากหมู่เกาะโซโลมอนตัดความสัมพันธ์กับไต้หวัน และหันมาสานสัมพันธ์กับปักกิ่งอย่างเป็นทางการในปี 2019 เช่นเดียวกับคิริบาสที่เปลี่ยนจุดยืนในปีเดียวกัน และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากจีนสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงเข้าร่วมโครงการ Belt and Road Initiative ในปี 2020
แม้ว่านักวิเคราะห์บางคนมองว่าข้อตกลงระหว่างหมู่เกาะคุกและจีนไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากหมู่เกาะคุกสามารถกลายเป็นช่องทางสำหรับจีนในการขยายอุตสาหกรรมเหมืองใต้ทะเลลึก อาจทำให้ข้อตกลงนี้มีความสำคัญมากขึ้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่สหรัฐฯ เองก็กำลังพยายามเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาค โดยเปิดสถานทูตในคิริบาส ตองกา หมู่เกาะคุก และนีอูเอในช่วงสองปีที่ผ่านมา
อ้างอิง: