เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุกราดยิงขึ้นที่โรงเรียนริสเบิร์กสกา (Risbergska) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การศึกษาในเมืองโอเรโบร ตั้งอยู่ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มราว 200 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน ซึ่งในจำนวนนี้ ตำรวจสวีเดนเชื่อว่ามีมือปืนรวมอยู่ด้วย
เบื้องต้นทางการสวีเดนยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต รวมถึงข้อมูลของผู้ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัดในการก่อเหตุ แต่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะลงมือคนเดียว และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้าย
ทางด้าน อูล์ฟ คริสเตอร์สสัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สวีเดน พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และเน้นย้ำว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อการไปโรงเรียนในวันถัดไป
โดยขณะเกิดเหตุ ผู้บัญชาการตำรวจโอเรโบรประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว พร้อมสั่งให้ครอบครัวที่มีบุตรหลานอยู่ในละแวกใกล้เคียงอยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่โรงพยาบาลใกล้เคียงต่างเคลียร์ห้องฉุกเฉินและห้องผู้ป่วยหนักทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุกราดยิง โดยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโอเรโบรแถลงข่าวว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน และอีก 6 คนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เสียงจากผู้ร่วมเผชิญเหตุกราดยิง
มาร์วา หนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์กับ TV4 Sweden ถึงสถานการณ์ที่ยากลำบาก และความพยายามที่จะช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่บาดเจ็บจากการถูกยิง โดยระบุว่า ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอถูกยิงที่บริเวณหัวไหล่และมีเลือดออกจำนวนมาก เธอและเพื่อนอีกคนจึงพยายามห้ามเลือดด้วยการพันผ้าคลุมที่ไหล่ของผู้ชายคนนั้น
เมื่อมองไปข้างหลัง เธอพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 3 คนนอนอยู่บนพื้นและมีเลือดออกจำนวนมาก ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ขณะที่ ลีนา วาเรนมาร์ก คุณครูของโรงเรียนริสเบิร์กสกา ให้สัมภาษณ์กับ SVT ซึ่งเป็นวิทยุสาธารณะของสวีเดนว่า เธอได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 10 นัดใกล้กับห้องอ่านหนังสือของเธอ
คริสเตอร์สสันระบุใน X ว่า “วันนี้เป็นวันที่เจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับทุกคนในสวีเดน การต้องขังตัวอยู่ภายในห้องเรียนด้วยความหวาดกลัวที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวเองนั้น ถือเป็นฝันร้ายที่ไม่มีใครควรต้องพบเจอ”
ผู้นำรัฐบาลสวีเดนยังร้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้อิสระแก่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่และสืบสวนคดีได้อย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์รุนแรงในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นน้อยมากในประวัติศาสตร์สวีเดน แต่ความถี่ของเหตุการณ์กลับเกิดบ่อยครั้งขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา และสถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่มักเป็นโรงเรียน ข้อมูลจากรัฐบาลสวีเดนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนสูงสุดถึง 60 คนในปี 2022 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 15 คน และสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในแถบสแกนดิเนเวียอย่างมาก โดยทางการสวีเดนอ้างว่า ตัวเลขที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะแก๊งอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้นและเคลื่อนไหวอยู่ตามเมืองต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองหลวง
ภาพ: TT News Agency / Kicki Nilsson via Reuters
อ้างอิง:
