×

จับตาคดี ‘พิรงรอง’ เมื่อบริษัทใหญ่ฟ้อง กสทช. เหตุส่งหนังสือเตือนทีวีดิจิทัลมี ‘โฆษณาแทรก’

05.02.2025
  • LOADING...
ศ.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. กับคดีฟ้องร้องจากทรู ดิจิทัล กรุ๊ป

วันนี้ (5 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวทางสื่อสังคมออนไลน์ต่อกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ (6 กุมภาพันธ์) ในคดีระหว่างฝ่ายโจทก์ คือ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และจำเลย คือ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์

 

สาเหตุของคดีเกิดจากมติของคณะอนุกรรมการ กสทช. ที่พิจารณาตามคำฟ้องร้องของผู้บริโภคว่า แอปพลิเคชัน TrueID แทรกโฆษณาระหว่างเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ดิจิทัล ขัดต่อหลักเกณฑ์ Must Carry ซึ่งกำหนดให้ต้องเผยแพร่สัญญาณโทรทัศน์โดยไม่มีเนื้อหาอื่นแทรก คณะอนุกรรมการจึงแจ้งให้ กสทช. ส่งหนังสือเตือนบริษัท ทรู

 

ด้านบริษัท ทรู มองว่าคำเตือนดังกล่าวสร้างความเสียหายแก่บริษัทและอาจกระทบต่อผู้รับใบอนุญาตช่องโทรทัศน์ ทำให้เนื้อหารายการบางส่วนถูกระงับ จึงมีการฟ้องร้องดังกล่าว

 

คดีนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักวิชาการและผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภคมองว่าคดีนี้เป็นตัวอย่างของการที่ กสทช. ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค

 

แวดวงวิชาการร่วมส่งกำลังใจ

 

วานนี้ (4 กุมภาพันธ์) คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเชิญชวนให้ร่วมติดแฮชแท็ก #saveพิรงรอง #freeกสทช ส่งกำลังใจให้ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง และชวนร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ กสทช. ได้ทาง https://tally.so/r/3NbP4j

 

ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความต่อกรณีดังกล่าวว่า “ถ้าการปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งที่รับผิดชอบด้วยความสุจริตจะกลายเป็นความผิดทางอาญาแล้วไซร้ ในระยะยาวจะเหลือใครทำงานให้กับส่วนรวม”

 

รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ท่าไม้ตายของทุนใหญ่ในการจัดการกับผู้พยายามขัดขวางการครอบงำของทุนก็โดยวิธีนี้ นั่นคือข่มขู่ด้วยคดีอาญา ข้อหากระทำการโดยทุจริต และฟาดโบยด้วยคดีแพ่ง เรียกร้องสินไหมจำนวนเงินที่รู้ว่าฝ่ายต่อต้านจะไม่มีปัญญาชดใช้ได้

 

“นักวิชาการมีหน้าที่ใช้ปัญญาให้แสงสว่างแก่มวลชน นักสื่อสารมวลชนมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม ผู้กำกับดูแลนโยบายสื่อก็พึงดำรงตนอย่างอิสระ เพื่อพิทักษ์สิทธิของประชาชนในชาติ

 

“ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต หรืออาจารย์ขวัญ ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในฐานะนักวิชาการ อดีตนักสื่อสารมวลชน และกรรมการ กสทช.

 

“ยืนยันเสมอมาว่าอาจารย์ขวัญคือความภาคภูมิใจของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คณาจารย์ นิสิต นักวิชาการ นักสื่อสารมวลชน และประชาชนผู้ปกปักผลประโยชน์ของส่วนรวม ร่วมให้กำลังใจแก่อาจารย์กันครับ #SavePirongrong”

 

ย้อนรอยที่มาของคดี

 

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนคดีที่บริษัท ทรู ยื่นฟ้องศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง โดยการฟังคำสั่งในวันนั้นฝ่ายโจทก์มีทนายความเดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยมีพนักงานอัยการเดินทางมาฟังคำสั่ง

 

ศาลมีคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า จากการไต่สวนได้ความว่า โจทก์ (ทรู) เป็นผู้ประกอบกิจการ OTT (Over-the-Top ซึ่งเป็นบริการสื่อที่นำเสนอโดยตรงกับผู้รับบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต OTT ข้ามแพลตฟอร์มโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิลและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) เป็นการให้บริการที่ กสทช. ยังไม่มีประกาศหรือออกกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแล

 

และจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า การให้บริการของโจทก์ แม้จะถือว่าเป็นการให้บริการประเภท OTT ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทางไต่สวนมีเหตุให้เชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้สั่งการให้รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. ในขณะนั้น ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์จำนวน 127 ราย

 

มีข้อความว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตระงับเนื้อหารายการต่างๆ ที่โจทก์ส่งไปออกอากาศ

 

พฤติการณ์ของจำเลยส่อแสดงเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบมิชอบ คดีโจทก์มีมูล จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.167/2566

 

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือเตือนของ กสทช. เป็นการทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาตามหลักเกณฑ์ Must Carry และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทั้งนี้ ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ

 

ในวันพรุ่งนี้ (6 กุมภาพันธ์) หากศาลตัดสินว่าศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง มีความผิด และไม่ได้รับสิทธิประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะถือว่าต้องสิ้นสภาพ กสทช. ทันที

 

จากอาจารย์ด้านสื่อสู่ผู้คุมกฎ

 

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง เคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 และรองอธิการบดี ด้านสื่อสารบริการสังคมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2559-2563

 

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง มีความเชี่ยวชาญด้านนโยบายสื่อและการกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ รวมถึงมีบทบาทในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสื่อ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม

 

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 เคยเป็นหนึ่งในเสียงข้างน้อยของ กสทช. ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising