สถานีโทรทัศน์ CNBC เปิดเผยรายงานผลการสำรวจ CNBC All-America Economic Survey ซึ่งเป็นการสำรวจมุมมองความเห็นของชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่มีต่อคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบัน หลังเผชิญกับสารพัดมรสุม ไล่เรียงตั้งแต่มูลค่าที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ข่าวอื้อฉาว และปัญหาล้มละลายของบริษัทในวงการ
ทั้งนี้ การสำรวจแสดงให้เห็นว่า 43% ของประชาชนชาวอเมริกันมีมุมมองเชิงลบต่อสกุลเงินดิจิทัล เพิ่มขึ้นจาก 25% ในเดือนมีนาคม ขณะที่สัดส่วนมุมมองเชิงบวกลดลงเหลือเพียง 8% จาก 19% และผู้ที่มองเป็นกลางลดลงเกือบครึ่งเหลือ 18% จาก 31%
ถือเป็นความเสียหายอย่างมากสำหรับการลงทุนที่ได้รับการขนานนามว่า ดาวรุ่ง ถึงขนาดที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังบนเวทีระดับโลกด้วยโฆษณาใน Super Bowl และการรับรองจากคนดังมากมาย ความนิยมดังกล่าวดึงดูดชาวอเมริกันทั่วไปจำนวนมากให้หันมาใช้คริปโต ซึ่งการสำรวจแสดงให้เห็นว่า 24% ของชาวอเมริกันมีการลงทุน ซื้อขาย หรือใช้คริปโต โดยเพิ่มขึ้นจาก 16% ในเดือนมีนาคม
การสำรวจล่าสุดนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีชาวอเมริกันเข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 800 คน ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ผลการสำรวจยังพบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต่างสนับสนุนให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบให้มีความเข้มงวด รอบคอบ และรัดกุมมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนอย่างมากในการแก้ป้ญหาที่เกิดขึ้นกับคริปโตในปัจจุบัน รวมถึงเรียกความเชื่อมั่นให้คืนกลับมา
รายงานในครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ แกรี เจนส์เลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง Yahoo Finance เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้คำวิจารณ์ที่ว่า SEC ล้มเหลวในการบังคับใช้กฎหมายในการป้องกันการทุจริตและการซื้อขายที่ผิดกฎหมายของบรรดาบริษัทคริปโตทั้งหลาย จนนำไปสู่การล่มสลายของ FTX ยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์มด้านการแลกเปลี่ยนคริปโต
ทั้งนี้ เจนส์เลอร์ ชี้ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา SEC ได้มีการดำเนินคดีมากกว่า 100 คดีที่เกี่ยวข้องกับคริปโต พร้อมยืนยันว่า SEC ประสบความสำเร็จในการปราบปรามการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ชอบมาพากลหลายครั้งแล้ว ก่อนที่ FTX จะล่มสลาย พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมา SEC ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวดมาโดยตลอด
“ปัญหาในขณะนี้ สาเหตุมาจากบรรดาบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจคริปโตมากกว่า ซึ่งบริษัทต่างๆ ควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติคือการออกกฎหมายมาบังคับใช้ให้รัดกุมเพิ่มเติม” เจนส์เลอร์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
- บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
- แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท
อ้างอิง: