×

10 เทรนด์วงการอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องจับตามองในปี 2023

03.01.2023
  • LOADING...

มาเริ่มต้นปีใหม่กับเทรนด์อาหารใหม่ในปี 2023 ที่ต้องจับตามองกัน เพราะปีที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่มีเรื่องสนุกๆ หลายอย่างเกิดขึ้นตามคำทำนาย ทั้งร้านอาหารใหม่โดยเชฟมิชลิน เนเชอรัลไวน์จะครองซีนเครื่องดื่ม หรือวัฒนธรรมการจองร้านอาหารได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วจริงๆ 

 

และเพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตลอดปีนี้ พวกเราจึงสรุป ‘10 เทรนด์ในวงการอาหารและเครื่องดื่ม’ ที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนมาให้ทุกคนลุ้นไปพร้อมๆ กันแล้ว

 

 

1. Butter Board

 

ถัดจากชีสและโคลด์คัต หรือชาร์คูเทอรี ที่หลายคนหลงรักมากขึ้นเนื่องจากเทรนด์การดื่มไวน์ เพราะทั้งสองอย่างมักต้องมาคู่กัน สิ่งต่อไปที่จะมาและกินสนุกไม่แพ้กันก็คือ ‘Butter Board’ หรือถาดเนย

 

Butter Board เป็นการปาดเนยทีละนิดลงบนถาดไม้หรือกระดานชาร์คูเทอรี หลังจากนั้นราดแยม โรยสมุนไพร ใส่เนื้อสัตว์ และท็อปด้วยผัก-ผลไม้แห้งต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้เนยได้ตามชอบใจ วิธีกินคือใช้ขนมปังหรือแครกเกอร์ปาดเนยพร้อมท็อปปิ้ง ก่อนใส่ปากในคำเดียว ฟังดูเป็น Party Snack หรือของว่างที่ต้องนิยมแน่ๆ

 

ถ้าใครอยากลองทำกินเองบ้าง จะมีท็อปปิ้งแนะนำ เช่น น้ำมันพริก โหระพา มะเขือเทศอบแห้ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รีอบแห้ง ถั่ว ธัญพืช แซลมอน หรือเบคอนกรอบ

 

 

2. TikTok นำเทรนด์ของกินอร่อยๆ

 

ทุกคนต้องเห็น TikTok นำเทรนด์อาหารใหม่ๆ หรือบางทีก็แปลกๆ มาให้พวกเราทำตามตลอดปีที่แล้ว อย่างเช่น เมนูสุดเฮลตี้ Baked Oats หรือชาร์คูเทอรี ที่แพลตฟอร์มนี้ก็มีส่วนทำให้ฮิตขึ้นมาทั่วโลก รวมถึงเมนูเด็ดและร้านอาหารต่างๆ ในประเทศไทยเช่นกัน ที่บางครั้งก็กลายเป็นกระแสขึ้นมาจากผู้ใช้ TikTok

 

ในปีนี้เราจึงเชื่อมากว่าแพลตฟอร์มนี้จะกลายเป็นผู้สร้างกระแสของอร่อยที่ใครๆ ก็อยากตามรอยมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอาหารจะมีจุดเริ่มต้นมาจากที่นี่ด้วย

 

 

3. ค็อกเทลไร้แอลกอฮอล์

 

เมื่อการนั่งแฮงเอาต์ตามค็อกเทลบาร์เป็นสิ่งที่นิยมมากขึ้น จึงตามมาด้วยกลุ่มนักดื่มที่หลากหลายมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ต่อจากนี้จะไม่มีเพียงนักดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้นที่อยากแวะมานั่งเสพบรรยากาศ แต่รวมถึงนักดื่มหน้าใหม่ นักดื่มสายเบา หรือคนรักสุขภาพเอง ก็อยากมานั่งคุยกับเพื่อนและทักทายบาร์เทนเดอร์ที่บาร์

 

เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจหากในปี 2023 คุณจะได้เห็นเมนู Non-Alcoholic Cocktail เพิ่มขึ้นในบาร์หลายๆ แห่ง

 

 

4. จูงมือกันกินตามย่านเล็กๆ

 

ในปีนี้เราอาจไม่ชวนกันไปเดินห้างเพื่อหาของอร่อยกินแล้วก็ได้ เพราะทุกคนจะชวนกันไปเดินเล่นย่านต่างๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและร้านเด็ด-ร้านดังแทน เพราะนอกจากได้เปลี่ยนบรรยากาศ ใกล้ชิดชุมชนท้องถิ่น พวกเราก็ยังสามารถทำกิจกรรมหลายๆ อย่างในย่านเดียวได้ทั้งวันด้วย

 

ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเชื่อว่าทำให้คนหันมาตามกินร้านดังในย่าน ก็อาจเพราะคอมมูนิตี้ของย่านที่เข้มแข็งขึ้น อย่างเช่น ย่านทรงวาด มี Made in Song Wat คอยแนะนำร้านเด็ด หรือย่านนางเลิ้ง ก็มี อีเลิ้ง คอยพาคนนอกย่านตามรอยของอร่อย ทำกิจกรรมร่วมกับคนในท้องถิ่น

 

หลายๆ คอมมูนิตี้เกิดจากคนรุ่นใหม่ เพราะฉะนั้นเชื่อเลยว่าในปี 2023 พวกเราจะได้เห็นคอมมูนิตี้ใหม่ในย่านอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

 

ภาพ: โรงกลั่นเนื้อ (ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปิดใหม่ในย่านทรงวาด)

 

 

5. ใครๆ ก็จะเข้าคลาสเรียนทำอาหารและขนม

 

การเข้าคลาสเรียนทำอาหารและขนมจะกลายสิ่งที่คนให้ความสนใจ ไม่ว่าคุณจะตั้งใจไปเรียนจริงจังเพื่อทำเป็นอาชีพ หรือเป็นงานอดิเรกก็ตาม เพราะนอกจากคนส่วนใหญ่หันมาทำอาหารกินเองมากขึ้น (ส่วนหนึ่งก็เพราะค่าครองชีพที่แพงขึ้นด้วย) เทรนด์นี้ก็ยังเป็นเหมือนภาคต่อจากยุคที่ทุกคนค้นพบว่าตัวเองชอบทำอาหาร และการจะทำอาหารได้ดั่งมือโปร พวกเราย่อมต้องการเรียนรู้จากอาจารย์ที่ดี

 

ประจวบเหมาะกับตั้งแต่ต้นปีนี้มีโรงเรียนสอนทำอาหารเปิดใหม่จะเริ่มทำการสอนถึง 3 แห่งในกรุงเทพฯ เราว่าหลายคนจะมองหาคอร์สสั้นๆ เพื่อเรียนทำเมนูโปรดกินเองที่บ้าน หรือแม้กระทั่งเวิร์กช็อปเกี่ยวกับอาหารจะได้รับความนิยมขึ้นด้วย

 

ภาพ: École Ducasse Bangkok

 

 

6. เดินทางไปกินอาหารที่ร้านในต่างจังหวัด

 

การเดินทางเพื่อไปกินร้านอาหารในต่างจังหวัดจะกลายเป็นเรื่องปกติ หรือบางคนอาจตัดสินใจไปเที่ยวเพื่อชิมอาหารโดยเฉพาะก็มี เนื่องจากมีเชฟเก่งๆ หรือคนรุ่นใหม่ฝีมือดีมากมายออกไปเปิดร้านอาหารเองในบ้านเกิดหรือในต่างจังหวัด เหตุผลหนึ่งก็อาจเพราะมีพื้นที่ให้เฉิดฉายมากกว่าในกรุงเทพฯ แถมยังมีวัตถุดิบท้องถิ่นสดๆ หรือเมนูเฉพาะถิ่นช่วยดึงดูดให้นักชิมอยากเดินทางไปหาอีกด้วย

 

ตัวอย่างร้านอาหารในต่างจังหวัดที่น่าจับตามองก็อย่างเช่น HEH ร้านอาหารออสเตรเลียโดยเชฟคนไทย ที่ใช้วัตถุดิบอันดามัน, ฉันลมิตร ร้านอาหารไทยของทีมเชฟรุ่นใหม่ในจังหวัดระยอง หรือ รสิก ร้านอาหารไทยสมัยใหม่ ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในจังหวัดเชียงใหม่

 

ภาพ: ฉันลมิตร จังหวัดระยอง

 

 

7. เมนูย้อนวัย รสชาติเก่าในความทรงจำ

 

นอกจากเทรนด์แฟชั่นย้อนยุค วงการอาหารก็กำลังย้อนความทรงจำผ่านรสชาติเช่นกัน เพราะหลายร้านเริ่มนำเมนูเก่ามาเล่าใหม่ หรือเชฟหลายคนเองก็เลือกเสิร์ฟรสชาติที่ตัวเองกินแต่เด็กให้พวกเราชิม เพราะฉะนั้นเชื่อได้เลยว่าในปีนี้พวกเราจะได้เห็นเมนูที่หายไปจากสมัยเด็กกลับมาอีกเยอะเลย

 

อย่างเช่นตอนนี้ Guss Damn Good นำเมนูไอศกรีมซันเดกลับมาด้วยการเปิดบาร์ไอศกรีมซันเดโดยเฉพาะ หรือร้านอาหาร LAUN ในย่านพระนคร ก็นำเมนูโปรดวัยเด็กอย่างไก่อบซอส สามชั้นตุ๋น สปาเกตตีไข่กุ้ง มาเสิร์ฟเป็นจานเด่นของร้าน

 

ภาพ: Guss Damn Good 

 

 

8. ของหวานแพริ่งแอลกอฮอล์

 

อาจฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา ทว่ายังไม่เคยมีที่ไหนเสิร์ฟสองอย่างนี้คู่กันอย่างจริงจังมาก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากพวกเราหยิบมากินคู่กันเองเสียมากกว่า แต่ในปีนี้เรามั่นใจว่าทุกคนจะได้เห็นของหวานแพริ่งแอลกอฮอล์บ่อยมากขึ้น

 

ซึ่งการแพริ่งจะไม่ใช่เมนูที่ร้านให้เราสั่งมากินเองพร้อมกัน แต่เป็นการจัดคอร์ส หรือจัดเมนูแพริ่งเสิร์ฟของหวานพร้อมแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ อย่างที่ร้าน Mia เริ่มทำของหวานแพริ่งค็อกเทลแล้ว หรือร้าน Roast เองก็จัดไอศกรีมคู่กับไวน์ แล้วเรายังได้ยินมาอีกว่าบาร์ Stella ในโรงแรม Capella ก็จะมีของหวานแพริ่งค็อกเทลเช่นกัน

 

 

9. ตัวเลือกเมนูอาหารน้อยลง ครบถ้วนแต่กระชับ

 

ไม่มีแล้วเมนูเล่มหนาๆ ใช้เวลาพลิกกลับไปมานานๆ เพราะต่อจากนี้ทั้งร้านอาหารและคาเฟ่จะทำเมนูให้สั้น กระชับ มีตัวเลือกแค่พอประมาณ ทว่าครบถ้วน คือมีครบทั้งจานกินเล่น จานหลัก จานเสริม และของหวาน แต่ทุกอย่างจะไม่ละลานตาจนเรารู้สึกกดดันเหมือนเมื่อก่อน

 

เหตุผลก็ไม่ใช่เพราะพวกเขาเหนื่อยกับการคิดเมนูให้แตกต่าง กลับเป็นเรื่องการคุมวัตถุดิบให้เหลือทิ้งน้อยที่สุดมากกว่า อีกทั้งยังทำให้ร้านใช้แต่วัตถุดิบสดใหม่ได้ง่ายขึ้น จัดการครัวได้ดีขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้นทุนด้วย

 

ภาพ: Larder

 

 

10. Sustainability and Laboratory Food

 

อย่าเพิ่งเบื่อกับคำนี้ เพราะคราวนี้ ‘ความยั่งยืน’ จะไม่มาเป็นกระแส แต่เป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ทุกคนจะเริ่มหันมาใช้อย่างจริงจังในปีหน้า ทั้งการเลือกกินให้ดีขึ้น ดูแลสุขภาพให้ครบถ้วน รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันอย่างสมดุลและใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว

 

เช่นเดียวกับเทรนด์อาหารสุขภาพที่จะมีอะไรใหม่ๆ ให้ติดตามตลอดปี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ‘อาหารจากห้องทดลอง’ ที่จะเป็นแหล่งอาหารของพวกเราในโลกอนาคต เนื่องจากล่าสุด FDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้รับรองให้ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากห้องแล็บ (Lab-grown Meat) ปลอดภัยสำหรับการบริโภคแล้ว

 

เอาล่ะ มีใครพร้อมกินผัดกะเพราจากเนื้อในห้องทดลองบ้างหรือยัง?

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising