×

นับถอยหลัง สส. ก้าวไกล ถูกขับออกจากพรรค เหลือ 2 สัปดาห์ชี้ชะตา วุฒิพงศ์เผย หลายพรรครุมจีบเข้าสังกัดใหม่ แต่ขอพิจารณาอุดมการณ์ประชาธิปไตยก่อน

โดย THE STANDARD TEAM
15.11.2023
  • LOADING...
วุฒิพงศ์ ทองเหลา

วันนี้ (15 พฤศจิกายน) วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส. ปราจีนบุรี กล่าวถึงการย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่หลังถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองติดต่อมา แต่ตนให้ผู้ใหญ่คุยอยู่ ซึ่งเงื่อนไขคือพรรคการเมืองเหล่านั้นจะต้องมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย และส่งเสริมการขับเคลื่อนนโยบายสิ่งแวดล้อมตามที่ตนได้เคยหาเสียงไว้ 

 

ในตอนนี้ตนยังเน้นการทำงานลงพื้นที่ ส่วนการตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคใดนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ ในตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะครบ 30 วันที่ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ แต่คาดว่าจะชัดเจนในสัปดาห์หน้าว่าจะสังกัดพรรคใด

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฝั่งพรรครัฐบาล เช่น พรรคสองลุง หรือพรรคอื่นๆ จะชัดเจนว่าไม่ไปร่วมหรือไม่ วุฒิพงศ์พยักหน้าพร้อมกล่าวยืนยันว่าใช่ เพราะหากเราไปก็รู้สึกว่ากลไกการตรวจสอบในตัวเรามันเยอะไป อย่างนั้นก็คงลำบาก 

 

เนื้อหอม หลายพรรครุมจีบสังกัดพรรคใหม่

 

วุฒิพงศ์เชื่อว่าตนจะไม่หลุดจากตำแหน่ง สส. มีพรรคการเมืองพร้อมรับ รวมถึงคนในพื้นที่ก็เข้าใจ มองการทำงานเป็นหลัก ไม่ไปถึงการเลือกตั้งซ่อมแน่นอน 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพรรคการเมืองติดต่อมากี่พรรค วุฒิพงศ์กล่าวว่าก็เยอะ แต่เราก็ต้องเลือก อย่างที่บอกว่ามูฟนี้สำคัญมากเพราะจะไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย 

 

ส่วนกระแสข่าวว่ามีการล็อบบี้พรรคการเมืองต่างๆ ไม่ให้รับวุฒิพงศ์ไปสังกัดเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่จากคู่แข่งในพื้นที่เดิม วุฒิพงศ์กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อนเคสนี้ก็เป็นการเมือง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ตั้งแต่ตนเดินเข้าสภามาก็มีหลายเรื่องเกิดขึ้นกับตน ค่อนข้างเป็นเขตที่ไม่เคยเปลี่ยนมา 52 ปี และแม้จะมีการล็อบบี้เกิดขึ้นจริง แต่ตนเชื่อว่าจะทำไม่ได้เพราะขัดต่อหลักประชาธิปไตยอย่างรุนแรง

 

ส่วนที่ผ่านมาได้คุยกับ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กทม. ว่าจะย้ายไปอยู่พรรคเดียวกันหรือไม่ วุฒิพงศ์กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยกับเขาเลย เพราะเขามีเส้นทางของเขา

 

ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน

 

ก่อนหน้านี้ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลมีมติขับวุฒิพงศ์และไชยามพวานออกจากพรรคก้าวไกล เนื่องจากถูกกล่าวหาในประเด็นคุกคามทางเพศว่า จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน โดยพรรคการเมืองที่ไม่มี สส. ในปัจจุบันก็สามารถรับเข้าสังกัดได้ แต่หากไม่สามารถหาพรรคได้จะต้องพ้นสภาพการเป็น สส. และต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ สำหรับมติการขับออกนั้นเป็นเรื่องภายในพรรคที่ต้องชอบด้วยข้อกฎหมายและข้อบังคับของพรรค

 

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้ระบุไว้ว่า หาก สส. คนใดพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคจากมติของพรรค ถ้ามิได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30 วัน…ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพ (การเป็น สส.) นับแต่วันที่พ้น 30 วันดังกล่าว

 

ย้อนเหตุการณ์ สส. ถูกขับออกจากพรรค ตั้งแต่ปี 2562-2566 พบว่าเกิดขึ้นแล้วทั้งสิ้น 5 ครั้ง 

 

ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่มีมติขับ สส. 4 คนออกจากพรรค เนื่องจากทั้ง 4 คนสวนมติพรรคโดยไม่ลงคะแนนโหวตในหลายครั้ง ได้แก่

 

  • กวินนาถ ตาคีย์ สส. ชลบุรี ย้ายไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท
  • พ.ต.ท. ฐนภัทร กิตติวงศา สส. จันทบุรี ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ
  • จารึก ศรีอ่อน สส. จันทบุรี ย้ายไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท
  • ศรีนวล บุญลือ สส. เชียงใหม่ ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

 

ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 พรรคเพื่อไทยมีมติขับ สส. 2 คนออกจากพรรค เนื่องจากมีพฤติการณ์กล่าวหาทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรค ได้แก่

 

  • ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สส. อุตรดิตถ์ ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อชาติ
  • พรพิมล ธรรมสาร สส. ปทุมธานี ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

 

ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 พรรคพลังประชารัฐมีมติขับ สส. 21 คนจากกลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยเหตุผลคือมีการเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนาดใหญ่จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ความเป็นเอกภาพ และเสถียรภาพของพรรค ความขัดแย้งในพรรค ซึ่งทั้ง 21 สส. ได้ย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ก่อนจะย้ายกลับมายังพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง 

 

ครั้งที่ 4 ในช่วงต้นปี 2566 ก่อนรัฐบาลจะหมดวาระและประกาศยุบสภา วันที่ 30 มกราคม 2566 บุญญาพร นาตะธนภัทร สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมแผ่นดิน และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลเมืองไทย ทั้ง 2 คนถูกขับพ้นพรรค และย้ายไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ 

 

ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 พรรคก้าวไกลมีมติขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส. พิษณุโลก และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พร้อมแถลงการณ์ระบุว่า พรรคก้าวไกลต้องการทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ และให้ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนใหม่ ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน แต่เนื่องด้วยเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าพรรคการเมืองที่เป็นหัวหน้าฝ่ายค้านต้องไม่มี สส. เป็นประธานสภาหรือรองประธานสภา เมื่อพรรคได้คุยกับปดิพัทธ์แล้วยังยืนยันที่จะทำหน้าที่รองประธานสภาต่อ จึงเป็นเหตุผลให้ต้องขับปดิพัทธ์ออกจากพรรค และปดิพัทธ์ก็สามารถหาสังกัดใหม่ คือ พรรคเป็นธรรม ได้ภายใน 30 วัน 

 

ทว่าหากครบกำหนด 30 วันแล้ว แต่ 2 สส. ยังหาพรรคสังกัดไม่ได้ ก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมือง เพราะที่ผ่านมายังไม่มี สส. คนใดที่ถูกขับออกจากพรรคแล้วไม่สามารถหาพรรคใหม่ได้ภายในระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 

 

จุดหมาย 2 สส. พรรคไหนจะอ้าแขนรับ

 

ทั้งนี้ หาก 2 สส. สามารถหาพรรคใหม่ได้ตามกำหนดภายใน 30 วัน สิ่งที่น่าจับตาคือ พรรคที่รับ 2 สส. เข้ามานั้นเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่หรือพรรคใหม่ที่เพิ่งจัดตั้ง หากเป็นพรรคเล็กแล้วมี สส. เพิ่มเข้ามา จะส่งผลให้พรรคมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น กลายเป็นว่าจากพรรคเล็กที่ไม่มีใครรู้จัก อาจสร้างตัวตนขึ้นมาในโอกาสนี้ได้ และเสียงโหวตวาระต่างๆ ในสภาก็จะถูกจับตามอง 

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นพรรคใหญ่หรือพรรคเก่าแก่ เปอร์เซ็นต์การรับ 2 สส. เข้ามานั้นน้อยมาก เพราะถือว่าไม่คุ้มกับการที่จะต้องตอบคำถามประชาชนว่าทำไมถึงรับเข้ามา เนื่องจาก 2 สส. ถูกขับออกด้วยกรณีการคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องตอบสังคมให้ได้ และคิดว่าพรรคใหญ่น่าจะใช้โอกาสนี้รอการเลือกตั้งใหม่มากกว่า เพราะสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใหม่ของพรรคตัวเองเข้าไปชิงเก้าอี้ สส. ในพื้นที่ดังกล่าวได้ 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising