×

เกิดอะไรขึ้น หลัง ‘เดนมาร์ก’ ประกาศอิสรภาพจากโควิด

28.09.2021
  • LOADING...
เดนมาร์ก

เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘วันประกาศอิสรภาพ’ จากโควิดของประเทศเดนมาร์ก เมื่อรัฐบาลประกาศว่า “โควิดไม่ใช่ภัยคุกคามทางสังคมอีกต่อไป” และยกเลิกมาตรการควบคุมโรคที่ไม่จำเป็นทั้งหมด คืนวันถัดมามีการจัดคอนเสิร์ตเพื่อฉลองอิสรภาพนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมถึง 50,000 คน โดยไม่ต้องเว้นระยะห่าง ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย และไม่ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน 

 

“การระบาดอยู่ภายใต้การควบคุม เรามีอัตราการฉีดวัคซีนสูง ดังนั้นในวันที่ 10 กันยายน เราจึงสามารถยกเลิกมาตรการพิเศษที่เรานำมาใช้ในการต่อสู้กับโควิด” แมคนัส ฮิวนิเก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเดนมาร์ก กล่าว 

 

ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดเป็นอย่างไร ชาวเดนมาร์กกลับมาใช้ชีวิตเหมือนปกติก่อนที่จะมีการระบาดเลยหรือไม่ หรือยังมีมาตรการควบคุมโรคอะไรยังคงอยู่

 

สถานการณ์การระบาด

การระบาดของโควิดในเดนมาร์กระลอกใหญ่ที่สุดเริ่มต้นตั้งจากเดือนสิงหาคม 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้วลดลงเล็กน้อย แต่ก็กลับค่อยๆ เพิ่มขึ้นอีกกระทั่งเดือนธันวาคมที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงจุดสูงสุดช่วงสัปดาห์ที่ 3 ผ่านมาถึงปีใหม่ 2564 ผู้ติดเชื้อลดลงจนเหลือไม่เกินวันละ 500 ราย แต่พอเดือนมีนาคมก็เพิ่มขึ้นไปทรงตัวอยู่ไม่เกินวันละ 1,000 รายเรื่อยมาถึงต้นเดือนกันยายน

 

ระหว่างนี้มีช่วงที่ผู้ติดเชื้อลดลงต่ำสุดไม่เกินวันละ 200 รายช่วงปลายเดือนมิถุนายน ก่อนจะเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่หลังจากวันที่ 10 กันยายน 2564 เป็นต้นมา จำนวนผู้ติดเชื้อค่อยๆ ลดลงและยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณวันละ 300 ราย ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในเดนมาร์กสูงสุดไม่เกินวันละ 40 รายช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 และลดลงมาเหลือวันละไม่เกินวันละ 5 รายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน

 

เดนมาร์กเริ่มฉีดวัคซีนช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 โดยกำหนดลำดับการได้รับวัคซีนตามอายุ เริ่มจากผู้ที่อาศัยในบ้านพักคนชรา ผู้สูงอายุตั้งแต่ 85 ปีขึ้นไป บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนบริการสังคมก่อน จากนั้นเป็นกลุ่มอายุ 80-84 ปี, 75-79 ปี, 65-74 ปี ลดหลั่นลงมาจนถึง 50-54 ปี แล้วเริ่มฉีดกลุ่มอายุ 16-19 ปี ขึ้นไปพร้อมกับ 45-49 ปีลงไปชนกัน ปัจจุบันอายุต่ำสุดที่ได้รับวัคซีนคือ 12 ปี 

 

ล่าสุด (26 กันยายน 2564) มีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ประมาณ 4.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 75.1% ของประชากรทั้งหมด 

 

การสวมหน้ากากอนามัย

เดนมาร์กไม่ได้บังคับเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่แรก แต่เริ่ม ‘แนะนำ’ ให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2563 (หลังจากที่องค์การอนามัยโลกเปลี่ยนคำแนะนำประมาณ 2 เดือน) และในบางกรณีเท่านั้น เช่น เมื่อไปโรงพยาบาลหรือตรวจหาเชื้อ หรือเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ต่อมาได้แนะนำในระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 และเปลี่ยนเป็น ‘บังคับ’ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 

 

แต่ปัจจุบันสถานที่เกือบทั้งหมดในเดนมาร์กไม่มีการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัย รวมถึงขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสนามบิน โรงพยาบาล และสถานที่ตรวจหาเชื้อ ผู้ที่ได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องสวมหน้ากาก ได้แก่ เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ผู้ที่มีสติการรับรู้ลดลง หรือผู้พิการที่ไม่สามารถถอดหน้ากากออกด้วยตนเอง และผู้สวมหน้ากากอนามัยสามารถถอดหน้ากากอนามัยออกได้ หากมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ

 

ถ้าพูดถึงเรื่องหน้ากากอนามัยคงจะไม่พูดถึงงานวิจัย DANMASK-19 ไม่ได้ (แค่ชื่อก็บอกประเทศที่วิจัยแล้ว) ชื่อเต็มคือ Danish Study to Assess Face Masks for the Protection Against COVID-19 Infection เป็นการทดลองเพื่อศึกษาประสิทธิผลของการสวมหน้ากากอนามัยใช้อาสาสมัคร 6,000 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน ในขณะที่อีกกลุ่มไม่ต้อง ผ่านไป 2 เดือน พบว่า 

 

กลุ่มที่สวมหน้ากากอนามัยติดเชื้อ 1.8% ส่วนกลุ่มที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยติดเชื้อ 2.1% ความแตกต่างเพียง 0.3 เปอร์เซ็นต์นี้ ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ทำให้ผู้ที่ไม่สนับสนุนการสวมหน้ากาก (Anti-Mask) นำไปอ้างอิงว่า การสวมหน้ากากไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่ก็มีผู้แย้งว่า งานวิจัยนี้ทดลองในช่วงที่การระบาดลดลงแล้ว (วันที่ 3 เมษายน – 2 มิถุนายน 2563) จึงไม่สามารถนำผลการศึกษานี้ไปใช้อ้างอิงได้

 

ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และร้านบริการอื่นๆ

เดนมาร์กเป็นประเทศแรกในยุโรปที่นำแนวคิดวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้เมื่อเดือนเมษายน 2564 ในชื่อ ‘โคโรนาพาส (Coronapas)’ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ที่แสดงหลักฐานการได้รับวัคซีน ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือเคยติดเชื้อมาแล้ว 2-12 สัปดาห์ ผู้ที่จะเข้าใช้บริการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ร้านทำผม ต้องแสดง Coronapas ก่อน

 

แต่ภายหลังจากวันที่ 10 กันยายน ทางการได้ประกาศว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ Coronapas อีกต่อไป ปัจจุบันร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และร้านบริการอื่นๆ เช่น ร้านนวด ร้านทำผม สามารถเปิดได้ตามปกติ โดยไม่มีมาตรการควบคุมโรคกำกับ ส่วนห้างสรรพสินค้ายังมีคำแนะนำให้เว้นระยะห่างในขณะที่ซื้อสินค้า และอาจมีบางสถานที่ที่ยังให้สวมหน้ากากอนามัยหรือแสดง Coronapas ก่อน ตามข้อกำหนดของสถานที่นั้นๆ

 

ทั้งนี้ แผนการยกเลิกมาตรการถูกกำหนดมาตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2564 โดยพรรครัฐบาลต้องเจรจากับพรรคอื่นในรัฐสภาจนได้ข้อสรุปในการผ่อนคลายมาตรการ โดยเริ่มจากขยายเวลาเปิดร้านอาหารและบาร์ถึงเที่ยงคืน (วันที่ 11 มิถุนายน 2564) ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นในขนส่งสาธารณะ และยกเลิกการใช้ Coronapas ในบางสถานที่ เช่น ห้องสมุด กิจกรรมที่จัดโดยองค์กรอาสาสมัคร (14 มิถุนายน 2564) 

 

สถานบันเทิง

สถานบันเทิงเปิดตามปกติ และไม่จำเป็นต้องแสดง Coronapas ก่อนเช่นกัน

 

โรงเรียน

เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เดนมาร์กปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2563 และกลับมาเปิดให้นักเรียนจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลับเข้ามาที่โรงเรียนอีกครั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 สังเกตว่า เดนมาร์กเปิดให้เด็กอายุน้อยมาโรงเรียนก่อน ส่วนนักเรียนระดับชั้นที่เหลือยังคงให้เรียนจากที่บ้าน จนเมื่อรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ถึงเปิดโรงเรียนมัธยมศึกษาช่วงกลางเดือนมีนาคม 2564

 

มาตรการในโรงเรียนในปัจจุบัน นักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป และครูในโรงเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ได้รับการสนับสนุนให้ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนนักเรียนอายุระหว่าง 9-11 ปีได้รับการสนับสนุนให้ตรวจหาเชื้อ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ในขณะที่ถ้าเด็กและผู้ปกครองที่มีอาการของโควิด ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำทั่วไป โดยให้เด็กอยู่ที่บ้านและตรวจหาเชื้อโดยเร็ว

 

การเดินทางเข้าประเทศ

ถึงแม้มาตรการควบคุมโรคภายในประเทศจะถูกยกเลิกไปแล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 แต่มาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศยังคงมีอยู่ โดยเดนมาร์กแบ่งประเทศต้นทางออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง และแบ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาตามประวัติการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจหาเชื้อภายใน 48 ชั่วโมง (สำหรับชุดตรวจ Antigen) และ 72 ชั่วโมง (สำหรับการตรวจ PCR)

 

การกักตัว 10 วันเมื่อเดินทางมาถึงประเทศจะได้รับการยกเว้น หากเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสีเหลือง/เขียว หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในสหภาพยุโรปและได้รับวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ซึ่งปัจจุบันยังมีเพียง 4 ยี่ห้อเท่านั้น ได้แก่ Pfizer (Comirnaty), Moderna (Spikevax), AstraZeneca (Vaxzevria) และ Johnson & Johnson (Janssen)

 

สถานการณ์การระบาดในเดนมาร์กน่าจะถือว่าควบคุมได้มาระยะหนึ่งแล้ว เพราะจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำ ถึงแม้จะมีผู้ติดเชื้อวันละ 500-1,000 ราย และสายพันธุ์ที่ระบาดเป็นสายพันธุ์เดลตา ขณะเดียวกันก็สามารถผ่อนคลายมาตรการได้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 การใช้ชีวิตของชาวเดนมาร์กขณะนี้ใกล้เคียงกับปกติ แต่นักเรียนและครูยังต้องตรวจหาเชื้อเป็นประจำ และยังมีมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศอยู่

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising