Bitcoin ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องจากโลกการเงินและการลงทุนแบบดั้งเดิมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนักลงทุนระดับตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ และคู่หูตลอดกาลอย่าง ชาร์ลี มังเกอร์ ยังคงยืนหยัดที่จะไม่ยอมรับ พร้อมตั้งคำถามและมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Bitcoin อยู่เหมือนเดิม
บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัท Berkshire Hathaway กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (30 เมษายน) ว่า Bitcoin ไม่ใช่สินทรัพย์ที่มีประสิทธิผล และไม่ก่อให้เกิดสิ่งที่จับต้องได้ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล แต่เขาก็ยังไม่ซื้อ Bitcoin
“ไม่ว่าราคามันจะขึ้นหรือลงในปีหน้า หรือในอีก 5 หรืออีก10 ปีก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างแน่ใจก็คือมันไม่ได้ผลิตอะไรเลย มันเกิดขึ้นด้วยเวทมนตร์ และผู้คนก็ไปผูกติดเวทมนตร์เข้ากับสิ่งต่างๆ มากมายกันเอง” บัฟเฟตต์กล่าว
บัฟเฟตต์กล่าวเสริมว่า แม้แต่ผู้ที่ชื่นชอบ Bitcoin ก็มักจะมองว่ามันคือสกุลเงินดิจิทัล เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนซื้อและถือครอง และหวังว่าจะเห็นราคาเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันยาวนาน และสำหรับนักลงทุนคริปโตที่มีความซับซ้อนมากกว่า โดยที่บางเหรียญเสนอวิธีให้ผู้ลงทุนใช้คริปโตอย่างมีประสิทธิผล ทั้งผ่านการให้ยืมหรือเป็นหลักประกันเพื่อสร้างผลประโยชน์เพิ่มเติมในพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตามพวกนักลงทุนเหล่านั้นยังอายุน้อยและยังไม่ได้เจาะเข้าสู่กระแสหลักอย่าง Bitcoin
บัฟเฟตต์ใช้โอกาสที่ได้พบปะกับบรรดาผู้ถือหุ้นครั้งนี้อธิบายอย่างละเอียดว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นค่าของ Bitcoin เมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น
“ถ้าคุณบอกว่า…สำหรับ 1% ของพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ขอเสนอขายผมในราคา 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ผมจะเซ็นเช็คให้ให้คุณในบ่ายวันนี้เลย และด้วย 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของ 1% ของพื้นที่เพาะปลูก…และถ้าคุณเสนอขาย 1% ของอพาร์ตเมนต์ทั้งหมดในประเทศให้กับผม โดยคุณต้องการอีก 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ผมก็จะเซ็นเช็คจ่ายให้คุณทันทีเช่นกัน” บัฟเฟตต์กล่าว
เขากล่าวอีกว่า แต่ถ้าคุณบอกผมว่าคุณเป็นเจ้าของ Bitcoin ทั้งหมดในโลก และเอามาเสนอขายผมในราคา 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ผมไม่ซื้อ เพราะผมไม่รู้จะเอาไปทำอะไร และสุดท้ายก็ต้องหาทางขายคืนให้กับคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะ Bitcoin ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้สร้างอะไรเลย ในขณะที่อพาร์ตเมนต์ทำให้ผมไ้ด้รับค่าเช่า และฟาร์มทำให้ผมสามารถผลิตอาหารขายได้
ทั้งนี้หลายปีที่ผ่านมานักลงทุนรู้สึกงุนงงเกี่ยวกับวิธีการประเมินมูลค่า Bitcoin ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการมีศักยภาพในการให้บริการที่แตกต่างกัน ในประเทศตะวันตก Bitcoin ถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อสูงขึ้น ขณะที่ในตลาดอื่นๆ ผู้คนยังคงมองเห็นศักยภาพมหาศาลของ Bitcoin ในฐานะสกุลดิจิทัล
“ทรัพย์สินที่มีมูลค่าต้องส่งมอบบางสิ่งให้กับใครบางคน และมีเพียงสกุลเงินเดียวที่ผมยอมรับ ตอนนี้พวกคุณอาจจะคิดอะไรหลายๆ อย่าง เช่น อยากให้สร้าง Berkshire Coin แต่สุดท้ายแล้วมันต้องเป็นเงินจึงจะควรค่าแก่การยอมรับ ซึ่ง (ที่ผมคิด) ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมให้ Berkshire Coin มาแทนที่เงินดอลลาร์” บัฟเฟตต์กล่าว พร้อมชูธนบัตรมูลค่า 20 ดอลลาร์ขึ้นประกอบการอธิบายแนวคิด
ทั้งบัฟเฟตต์และมังเกอร์ได้แสดงความเห็นเชิงลบต่อ Bitcoin เรื่อยมาตั้งแต่ในอดีต โดยวลีที่โด่งดังที่สุดของบัฟเฟตต์ คือ “Bitcoin ก็เหมือนยาเบื่อหนูยกกำลังสอง”
และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มังเกอร์ได้สะท้อนความรู้สึกแย่ต่อ Bitcoin โดยฉายภาพให้เห็นชัดมากขึ้นเป็น 2 เท่า
“ในชีวิตของผม ผมพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่โง่เขลาและชั่วร้าย และทำให้ผมดูแย่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น และ Bitcoin ก็ทำทั้ง 3 อย่างนั้นในตอนแรก มันโง่เขลา เพราะท้ายสุดแล้วมูลค่ามันก็จะเป็นศูนย์ มันชั่วร้ายเพราะเป็นบ่อนทำลายระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ…และประการสุดท้าย มันทำให้พวกเราดูแย่ ดูโง่ เมื่อเทียบกับผู้นำคอมมิวนิสต์ในจีน เพราะเขาฉลาดพอที่จะแบน Bitcoin ในประเทศจีน” มังเกอร์กล่าว
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP