×

รอวัคซีนรัฐไม่ไหว จอง ‘ทัวร์วัคซีน’ ดีไหม ทำได้จริงหรือแค่หลอก

07.05.2021
  • LOADING...
รอวัคซีนรัฐไม่ไหว จอง ‘ทัวร์วัคซีน’ ดีไหม ทำได้จริงหรือแค่หลอก

HIGHLIGHTS

  • การท่องเที่ยววัคซีนหรือทัวร์วัคซีน เป็นทัวร์การแพทย์ชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับ ทัวร์ศัลยกรรมหรือทัวร์ทำฟันที่เรามักพบเห็นกันทัวไป ฉะนั้นในแง่ของการทำทัวร์จึงไม่ผิดหลักการใด ถ้าบริษัททัวร์และผู้เดินทางอยู่ภายใต้กรอบเงื่อนไขที่กำหนด คือมีวีซ่าเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายและปฏิบัติตามกฎเข้าเมืองอย่างถูกต้อง
  • ทริปทัวร์วัคซีนในประเทศไทยมีจุดหมายปลายทางหลักอยู่ 2 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกาและเซอร์เบีย
  • ในอเมริกามีถึง 22 รัฐที่ขึ้นสถานะ No Residency Required หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องพำนักอยู่ในรัฐนั้นก็ฉีดได้
  • ประชากรเซอร์เบียมีทั้งหมด 7 ล้านคน แต่รัฐจัดหาวัคซีนจากทุกค่ายมาได้ทั้งหมด 15 ล้านโดส ทำให้วัคซีนเพียงพอต่อการแจกจ่าย 

ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับโปรแกรมทัวร์วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทหนึ่งที่พาลูกทัวร์บินลัดฟ้าไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา พร้อมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของ Johnson & Johnson อีกเข็ม พานให้คนมีตังค์หลายคนที่มีวีซ่าอยู่ในมืออยากแพ็กกระเป๋าจองทัวร์ไปด้วย เพราะการรับวัคซีนอันรวดเร็วหมายถึงอิสรภาพ และโอกาสข้ามแดนในหลายประเทศ อีกทั้งยังเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ในเปอร์เซ็นต์ต่ำ

 

ทัวร์วัคซีนไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่าที่เราต่างคาดการณ์กันไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น เพราะหลายประเทศทั่วโลกต่างผลิตและนำเข้าวัคซีนเกินโควต้าประชาชน ในขณะที่ประชากรในอีกหลายประเทศยังเข้าถึงวัคซีนได้ยาก ความต่างของดีมานด์และซัพพลายตรงนี้แหละที่ทำให้เกิดแนวคิดทัวร์วัคซีนซึ่งเป็นทัวร์การแพทย์ชนิดหนึ่งขึ้น เพื่อหวังดึงเม็ดเงินเข้าประเทศในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจซบเซา

 

จากเนื้อข่าวที่ THE STANDARD ทำไว้ในหัวข้อ สำรวจโครงการท่องเที่ยวฉีดวัคซีนโควิด-19 ประเทศไหนเสนอ-เปิดรับแล้วบ้าง เราจะเห็นว่ามีหลายประเทศที่มีนโยบายทัวร์วัคซีน ตัวอย่างเช่น มัลดีฟส์ เตรียมเสนอโครงการฉีดวัคซีนให้นักเดินทางที่ไปเยือน เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักในเศรษฐกิจ รัสเซีย เตรียมเปิดทัวร์ฉีดวัคซีน Sputnik V ให้แก่นักเดินทางในเดือนกรกฎาคมที่จะถึง รัฐอลาสก้า ประกาศฉีดวัคซีน Pfizer หรือ Moderna ให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางถึงสนามบินตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป ฯลฯ 

 

แต่เมื่อดูคำประกาศต่างๆ จากภาครัฐมาเทียบกับโปรแกรมทัวร์ที่มีในประเทศไทย คำถามที่ทุกคนคาใจคือ ถ้าซื้อทัวร์แล้ว เราจะได้ฉีดจริงไหม และคุ้มกับความเสี่ยงหรือเปล่า

 

จ่ายเงินซื้อทัวร์แล้ว เราจะได้ฉีดวัคซีนจริงไหมนะ

ผู้เขียนเอาประเด็นนี้ไปคุยกับบริษัททัวร์ที่จัดโปรแกรมทัวร์วัคซีนขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดบอกเหมือนกันว่า ‘ทำได้จริง’ ในทางทฤษฎีและปฏิบัติ แต่คงไม่ง่ายเหมือนซื้อตั๋วผ่านประตูสวนสนุก เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง

 

จากการสำรวจตลาด ทริปทัวร์วัคซีนในประเทศไทยมีจุดหมายปลายทางหลักอยู่ 2 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกาและเซอร์เบีย สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศใหญที่มีฐานะเป็นทั้งผู้ผลิตวัคซีนเอง และตอนนี้มีอัตราการฉีดวัคซีนอันดับต้นของโลก ในขณะที่เซอร์เบียเป็นประเทศในเขตยุโรปตะวันออกซึ่งนำเข้าวัคซีนจำนวน 15 ล้านโดส มากกว่าจำนวนประชาชนที่มีอยู่ราว 7 ล้านคนถึงเท่าตัว 

 

ทั้งสองประเทศไม่มีนโยบายจากรัฐที่จะฉีดให้นักท่องเที่ยวออกมาเป็นวาระแห่งชาติ ยกเว้นบางรัฐของสหรัฐฯ ที่ระบุคุณสมบัติว่า ‘ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้อาศัย’ ขณะที่เซอร์เบียกลับต่างออกไปนิด ตรงที่เปิดกว้างให้ใครฉีดก็ได้ เพราะเขาเห็นว่ามีคนในบอสเนีย โรมาเนีย ฯลฯ ข้ามพรมแดนมายังประเทศเขาทุกวัน ถ้าไม่ฉีดให้ก็ทำให้ประชากรเขาเสี่ยงจริงไหม

 

และนั่นคือช่องว่างที่ทำให้ทัวร์วัคซีนสัมฤทธิผล 

 

ผู้เขียนพูดคุยกับ หริ่น-เนตรนภา แก้วแสงธรรม ผู้บริหารบริษัท ซี ยู อะเกน จำกัด ประเทศไทย บริษัทนำเที่ยวที่จัดทัวร์วัคซีนไปยังเซอร์เบีย หริ่นกล่าวว่าทัวร์วัคซีนในเซอร์เบีย ไม่ใช่มโนขึ้นมาแล้วทำ แต่เป็นเพราะสามารถทำได้จริง เนื่องจากมีคนต่างชาติบินเข้ามาฉีดที่เซอร์เบียทุกวัน

 

“ประชากรเซอร์เบียมีทั้งหมด 7 ล้านคน แต่รัฐจัดหาวัคซีนจากทุกค่ายมาได้ทั้งหมด 15 ล้านโดส ทำให้วัคซีนเขาเพียงพอต่อการแจกจ่าย หากมาดูสถิติจะเห็นว่าคนเซอร์เบียได้รับวัคซีนอันดับ 7 ของโลก ประมาณ 30% ประกอบกับวิสัยทัศน์ของผู้นำเซอร์เบีย เขาเล็งเห็นว่าถ้าเขาฉีดให้แต่พลเมืองของเขา แต่ประเทศรอบข้างอย่างบอสเนีย โรมาเนีย ที่ไปมาหาสู่กันไม่ได้ฉีดก็ไม่ปลอดภัย เขาจึงจัดให้ฉีดชาวต่างชาติด้วย

 

บรรยากาศจุดฉีดวัคซีนในเซอร์เบีย

 

“วัคซีนมีทั้งหมด 5 ตัว คือ Sputnik V, AstraZeneca, Pfizer, Sinopharm และ Moderna ประชากรเขาสามารถเลือกได้เลยโดยไม่บังคับ ซึ่งส่วนใหญ่คนเซอร์เบียเลือกวัคซีนที่มาจากจีนและรัสเซียมากกว่า Pfizer และ Moderna ที่คนยุโรปตะวันตกและเอเชียนิยม วัคซีนจำนวนนี้จึงเหลือ เราจึงเห็นคนสวิส คนยุโรปตะวันตกบางชาติบินมาฉีด

 

“พอบินมาฉีดเยอะเข้า รัฐบาลเซอร์เบียจึงประกาศทบทวนนโยบายใหม่ ขอวัคซีนให้คนเซอร์เบียฉีดก่อนนะ ขณะเดียวกันก็ยังเปิดรับต่างชาติอยู่ แต่เปลี่ยนจากระบบ Walk-in ที่ใครมาก็ฉีดได้เลย เป็นระบบลงทะเบียนซึ่งรัฐจะเรียกตัวไปฉีดยังหน่วยวัคซีนที่เราเลือกลงทะเบียนไว้

 

“ฉะนั้นลูกค้าทุกคนที่ซื้อทัวร์วัคซีน ทางหริ่นจะลงทะเบียนและรอการเรียกฉีดจากรัฐก่อน จึงไม่ต้องกลัวว่าบินไปแล้วจะไม่ได้ฉีด” หริ่น เนตรนภา กล่าว

 

เมืองซานฟรานซิสโก

 

กลับมาดูทางฝั่งอเมริกากันบ้าง เรายกหูคุยกับ นิว-รัชพล แย้มแสง กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูนิไทย แทรเวล จำกัด หนึ่งบริษัทนำเที่ยวที่จัดโปรแกรมทัวร์วัคซีนไปยังสหรัฐอเมริกา นิวให้ข้อมูลว่าทางฝั่งอเมริกายังไม่มีคำสั่งจากส่วนกลางเรื่องการฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติฟรี หากแต่ไปดูเงื่อนไขการฉีดของแต่รัฐละรัฐ มีหลายรัฐที่ขึ้นสถานะว่า ‘no Residency Required’ ซึ่งหมายความว่า เราฉีดให้หมด แม้ว่าคุณจะไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐนั้นก็ตาม

 

“ถ้าไปดูข้อมูลจริงๆ เราจะเห็นเลยว่ามีหลายรัฐเลยที่ขึ้น No Residency Required นั่นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องพำนักอยู่ในรัฐนั้นก็ฉีดได้นะ มีเพื่อนผมและหลายคนที่เป็นคนไทยลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนและไปฉีดสำเร็จมาแล้วเยอะมาก เราก็เลยคิดว่านี่คือโอกาส มันน่าจะมีกลุ่มคนที่เขาไม่อยากรอรัฐบาลไทยแล้วและสนใจตรงนี้”

 

แม้ขณะนี้ในอเมริกาจะมีถึง 22 รัฐที่ขึ้นสถานะ No Residency Required แต่ใช่ว่าทุกรัฐจะมีวัคซีน Johnson & Johnson ที่คนไทยต้องการ เพราะว่ามีช่องว่างระหว่างการซื้อขายอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากคำสั่งระงับการฉีดของรัฐบาล

 

“จุดหมายปลายทางที่เราเลือกทำทัวร์คือซานฟรานซิสโกกับลอสแอนเจลิส เพราะสองเมืองนี้มีคนไทยไปฉีดสำเร็จแล้วหลายท่าน ผมเลือกวัคซีน Johnson & Johnson มานำเสนอเพราะว่าฉีดแค่เข็มเดียวก็สามารถป้องกันได้ ในขณะที่ Pfizer และ Moderna ต้องฉีด 2 เข็ม และใช้เวลาอยู่อเมริกาถึง 1 เดือน ฉะนั้นวัคซีน Johnson & Johnson จึงตอบโจทย์ดีกว่า

 

“ทุกครั้งที่มีคนมาสอบถาม เราจะคุยกับลูกค้าทุกคนว่า เราไม่การันตีร้อยเปอร์เซ็นต์นะว่าจะได้ฉีด แต่เราจะลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนและทำการนัดหมายไว้ให้แน่นอน เราจะแจกแจงเรื่องความเสี่ยง เรื่องประกันการเดินทาง ว่าครอบคลุมแค่โรคโควิด-19 นะ แต่ไม่คุ้มครองกรณีแพ้วัคซีน คุณต้องมีประกันสุขภาพแบบ World Wide ถ้าคุณรับความเสี่ยงตรงนี้ได้ เราทำสัญญากันและเดินทางไป”

 

 

Vaccine Tourism ถูกกฎหมายหรือไม่

การท่องเที่ยววัคซีนหรือทัวร์วัคซีน ที่จริงแล้วก็คล้ายกับทัวร์การแพทย์อื่นๆ เช่น ทัวร์ศัลยกรรมหรือทัวร์ทำฟันที่เรามักพบเห็นกันทั่วไป ฉะนั้นในแง่ของการทำทัวร์จึงไม่ผิดหลักการใด ถ้าบริษัททัวร์และผู้เดินทางอยู่ภายใต้กรอบเงื่อนไขที่กำหนด คือมีวีซ่าเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายและปฏิบัติตามกฎเข้าเมืองอย่างถูกต้อง

 

อันที่จริงในสหรัฐอเมริกาเองก็มีทัวร์วัคซีนอยู่เช่นกัน มีหลายบริษัททัวร์พานักเดินทางต่างรัฐเข้าไปฉีดวัคซีนยังรัฐต่างๆ พร้อมท่องเที่ยวไปด้วย

 

อย่างไรก็ดีกรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวเตือนนักเดินทางที่ตัดสินใจซื้อทัวร์ว่า ให้ตรวจสอบให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาต ประวัติการร้องเรียน รวมถึงพิจารณาถึงสถานการณ์ความเป็นไปได้ในแต่ละประเทศ 

ความเสี่ยงที่ต้องแบกรับ

แม้ทัวร์วัคซีนดูเหมือนจะราบรื่นและมีความเป็นไปได้สูง แต่ก็มีความเสี่ยงหลายอย่างที่นักเดินทางต้องแบกรับเอง ได้แก่ 

 

 

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า ทัวร์วัคซีน เป็นทัวร์การแพทย์ชนิดหนึ่งที่มีความเป็นได้ไปสูง ปฏิบัติได้จริง และเกิดผลจริง ทว่าผู้เดินทางจะต้องแบกรับความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา ผลของรับการวัคซีน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นมาด้วย แต่ถ้าคุณมองว่าทัวร์วัคซีนไม่ใช่แค่เพียงการเดินทางเพื่อไปหาวัคซีนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการท่องเที่ยวที่แถมวัคซีนมาด้วย ลองชั่งน้ำหนัก วัดความเสี่ยง และผลได้ผลเสียให้ดีๆ เพราะการได้รับวัคซีนก่อนใคร นั่นหมายถึงโอกาสในหลายๆ อย่าง แต่ขณะเดียวกันนั้นเมื่อการรับวัคซีนไปไกลถึงต่างแดน การแบกรับค่ารักษาหากเกิดกรณีแพ้วัคซีนก็ย่อมสูงลิบตามไปด้วย

 

พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising