×

หุ้นไซส์เล็กในสหรัฐฯ ดิ่งจนมูลค่าต่ำสุดรอบ 2 ทศวรรษ Morningstar มองเป็น ‘โอกาสซื้อ’ ในบางอุตสาหกรรม

13.12.2022
  • LOADING...
Morningstar

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในตลาดที่ให้ผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว โดยดัชนี Nasdaq ติดลบมากที่สุด 28% ในบรรดาดัชนีหุ้นต่างๆ ของสหรัฐฯ รองลงมาคือดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ 

 

การดิ่งลงของดัชนี Russell 2000 อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มหุ้นขนาดเล็กในสหรัฐฯ ซื้อขายกันที่ระดับอัตราส่วน P/E ในรอบ 2 ทศวรรษ อิงจากข้อมูลของ Morningstar Thailand ซึ่งได้เผยแพร่บทความที่ชื่อว่า ‘หุ้นขนาดเล็กในสหรัฐฯ ถูกพอหรือยัง’ 

 

ดัชนี Morningstar US Small Cap Index ในปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ P/E 12.6 เท่า ขณะที่ดัชนี Large-cap Index มี P/E 20.2 เท่า 

 

สาเหตุที่หุ้นขนาดเล็กมีราคาซื้อขายในปัจจุบันค่อนข้างต่ำมาก เป็นเพราะว่าหุ้นกลุ่มนี้มักจะอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะในภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอย ยิ่งทำให้หุ้นกลุ่มนี้ถูกกระทบได้มาก 

 

อย่างไรก็ดี ราคาปัจจุบันได้สะท้อนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปมากแล้ว และส่วนใหญ่รายได้ของหุ้นเหล่านี้มักจะอยู่ในสหรัฐฯ ทำให้มีความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงินที่ต่ำ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องระวังทั้งจากเศรษฐกิจที่แย่ และแนวโน้มดอกเบี้ยที่สูงและยาวนานกว่าคาดการณ์ 

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระดับ P/E ของหุ้นกลุ่ม Small Cap ใน Morningstar US Small Cap Index อยู่ที่ 11.4 เท่า ต่ำที่สุดนับแต่ปี 2009 ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.6 เท่าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 18.7 เท่า 

 

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มขนาดเล็กยังอยู่ในระดับที่ถูกมาก โดยอิงจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ Price/Fair Value ที่เพียง 0.84 เท่า ต่ำกว่าหุ้นกลุ่มขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ 0.94 เท่า 

 

คำถามสำคัญที่ตามมาคือ นักลงทุนควรจะเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กเหล่านี้หรือยัง?

 

จากสถิติในอดีตพบว่า หุ้นกลุ่มขนาดเล็กมักจะ Underperform ช่วงก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมักจะ Outperform ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย จนกระทั่งเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ทำให้ในช่วงที่เศรษฐกิจเสี่ยงต่อภาวะถดถอยเป็นโอกาสที่ดีในการมองหาโอกาสลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็ก 

 

โดยปัจจัยที่ต้องจับตาคือแนวโน้มปัญหาแรงงาน และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับการแก้ไขหรือดีขึ้น 

 

หากพิจารณาลงไปในรายกลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นขนาดเล็กในสหรัฐฯ ที่มีคุณภาพและน่าลงทุนควรจะเป็นบริษัทที่มีกำไร มูลค่าตลาดขนาดใหญ่ หนี้น้อย และให้ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) สูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะ Outperform ในระยะยาว 

 

โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจคือ การเงิน, สินค้าอุปโภคบริโภค, สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ราคาซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มกำไรที่ดีในอนาคต 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising