วันจันทร์ที่ 28 มกราคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาได้ยื่นฟ้องหัวเว่ยและเมิ่ง หว่านโจว ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและรองประธานบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฐานขโมยเทคโนโลยี (อ้างว่าขโมยเทคโนโลยีหุ่นยนต์จาก T-Mobile Lab) ขโมยข้อมูลทางการค้า ฉ้อโกงธนาคาร และละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ด้วยการใช้บริษัทในเครือข่ายขายสินค้าให้กับประเทศอิหร่าน ฯลฯ รวมทั้งหมด 23 ข้อกล่าวหา
วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า “เป็นเวลานานนับปีแล้วที่บริษัทจากจีนได้ละเมิดกฎหมายการส่งออกของพวกเรา ทำลายมาตรการคว่ำบาตร และมักจะใช้ระบบการเงินของสหรัฐฯ เพื่อทำผิดกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ต้องยุติลงได้แล้ว”
ด้านผู้บริหารของสำนักงานสอบสวนกลาง คริสโตเฟอร์ เรย์ กล่าวว่า “การฟ้องร้องด้วยข้อหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าหัวเว่ยเพิกเฉยต่อกฎหมายของประเทศเรา และมาตรฐานการดำเนินธุรกิจระดับโลก
“บริษัทอย่างหัวเว่ยถือเป็นภัยคุกคามต่อทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและประเทศของเรา”
การยื่นฟ้องค่ายผู้พัฒนาสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับสองของโลกในครั้งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนที่สุดครั้งแรกของรัฐบาลสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การบุกจับกุมตัวเมิ่ง หว่านโจว ในสนามบินเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ที่สำคัญเชื่อกันว่าเหตุการณ์นี้น่าจะสร้างความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ไม่มากก็น้อย เพราะอีกแค่สองวันทั้งสองประเทศก็จะเข้าสู่กระบวนการเจรจาหาข้อยุติในประเด็นสงครามการค้าแล้ว อย่างไรก็ดี ทั้งหัวเว่ยและเมิ่ง หว่านโจว ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: