×

คณะผู้เชี่ยวชาญแนะ อย.สหรัฐฯ ให้โหวตรับรองการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จาก Pfizer เป็นกรณีฉุกเฉิน

11.12.2020
  • LOADING...
อย.สหรัฐฯ โหวตรับรองการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จาก Pfizer เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว

วันนี้ (11 ธันวาคม) ตามเวลาประเทศไทย องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จาก Pfizer-BioNTech เป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ที่กัดกร่อนและท้าทายระบบการแพทย์และสาธารณสุขของสหรัฐฯ มายาวนานเกือบ 1 ปีเต็ม

 

ล่าสุด คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เกี่ยวข้อง (VRBPAC) ได้โหวตแนะนำให้ FDA อนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยมีเสียงสนับสนุน 17 เสียง ไม่สนับสนุน 4 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง 

 

จากนี้ FDA ซึ่งมีกำหนดประชุมลงมติในภายหลัง จะพิจารณาว่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนตามที่คณะผู้เชี่ยวชาญแนะนำหรือไม่

 

ซึ่งหากอนุมัติจะทำให้ผู้ผลิตและทดสอบวัคซีน รวมถึงโครงการ Operation Warp Speed สามารถเริ่มแจกจ่ายและกระจายวัคซีนไปยังรัฐต่างๆ ได้

 

นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องรอมติจากคณะกรรมการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) เสียก่อน จึงจะสามารถเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ คาดคณะกรรมการของ CDC มีกำหนดการพิจารณาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิด-19 จาก Pfizer-BioNTech ในวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมนี้ หาก CDC มีมติรับรอง วัคซีนจาก Pfizer-BioNTech จะเป็นวัคซีนต้านโควิด-19 รายแรกที่ได้รับอนุญาตให้มีการใช้ในวงกว้างอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ ก่อนที่คณะกรรมการอาหารและยาจะมีกำหนดการพิจารณา การอนุญาตใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จาก Moderna ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

 

ล่าสุด ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วเกือบ 69.5 ล้านราย (69,496,859 ราย) รักษาหายกว่า 49 ล้านราย (49,139,558 ราย) หรือคิดเป็นราว 69% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 1,580,727 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 2.3% 

 

ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ สหรัฐฯ (15,599,122 ราย) ตามมาด้วยอินเดีย (9,767,371 ราย) บราซิล (6,781,799 ราย) รัสเซีย (2,546,113 ราย) และฝรั่งเศส (2,391,643 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 185 จาก 193 ประเทศทั่วโลก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

ภาพ: Photo illustration by STR / NurPhoto via Getty Images

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising