×

วัคซีนต้านโควิด-19 ล็อตแรกของสหราชอาณาจักร ใครได้ฉีด ใครไม่ได้ฉีด

04.12.2020
  • LOADING...
วัคซีนต้านโควิด-19 ล็อตแรกของสหราชอาณาจักร ใครได้ฉีด ใครไม่ได้ฉีด

ภายหลังจากที่สหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้มีการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ในวงกว้างเป็นครั้งแรก (For Widespread Use) เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยวัคซีนต้านโควิด-19 จาก Pfizer-BioNTech ที่มีประสิทธิภาพต้านโควิด-19 ได้สูงถึง 95% ล็อตแรก 10 ล้านโดสจะได้รับการส่งตรงจากศูนย์ผลิตในเบลเยียมภายในปีนี้ และจะเริ่มใช้ในสหราชอาณาจักรตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ขณะที่อีกอย่างน้อย 30 ล้านโดสจะจัดส่งในช่วงต้นปี 2021

 

โดยอายุถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทางการจัดลำดับกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนล็อตแรกนี้ ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่พักอาศัยใน Care Home รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขและนักสังคมสงเคราะห์ที่ปฏิบัติภารกิจในแนวหน้า จัดอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ของผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ขณะที่หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมวางแผนที่จะมีบุตร (ช่วง 3 เดือนก่อนที่จะตั้งครรภ์) รวมถึงเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี จะไม่ได้รับการฉีดวัคซีนในล็อตแรกนี้ ยกเว้นเคสที่มีความจำเป็นและมีความเสี่ยงสูงเท่านั้น เนื่องจากยังไม่มีผลการยืนยันด้านความปลอดภัยของคนกลุ่มนี้มากพอ

 

ขณะที่การจัดเก็บที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียสอาจก่อให้เกิดข้อจำกัดในการขนส่งและกระจายวัคซีนอยู่บ้าง แต่เบื้องต้นทางการสหราชอาณาจักรได้ลิสต์รายชื่อโรงพยาบาล 50 แห่งที่จะคอยให้บริการเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ก่อนที่จะเปิดจุดให้บริการเพิ่มมากขึ้นอีก หลังวัคซีนมีใช้ได้อย่างแแพร่หลายมากขึ้นแล้ว โดยผู้ได้รับวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นในช่วง 12 วัน หลังจากฉีดเข็มที่ 1 และจะสร้างภูมิคุ้มกันโดยสมบูรณ์ภายหลังจากฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้วราว 7 วัน

 

ส่วนรัฐบาลไทยได้ลงนามในสัญญาสั่งจองวัคซีนต้านโควิด-19 ล่วงหน้ากับผู้ผลิตและทดสอบวัคซีนอย่าง AstraZeneca ที่จับมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จำนวน 26 ล้านโดส โดยมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบเรื่องวัคซีนดังกล่าว คาดคนไทยจะมีวัคซีนต้านโควิด-19 ใช้ในปี 2021

 

วัคซีนต้านโควิด-19 ล็อตแรกของสหราชอาณาจักร ใครได้ฉีด ใครไม่ได้ฉีด

 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

ภาพประกอบ: อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising