×

ผู้เสนอรายงานพิเศษของ UN เผยชีวิตของชาวเมียนมาอยู่ในขั้น ‘เลวร้าย’ หลังเกิดรัฐประหาร

23.09.2022
  • LOADING...

ทอม แอนดรูว์ส ผู้เสนอรายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาขององค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า ชีวิตของชาวเมียนมา 54 ล้านคนเปลี่ยนสภาพจาก ‘ย่ำแย่ไปสู่เลวร้าย’ นับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อปีที่แล้ว

 

แอนดรูว์สกล่าวกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่าแรงตอบสนองจากชาติต่างๆ ต่อวิกฤตการณ์ที่เกิดจากรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 นั้นไม่เป็นผล ขณะที่กองทัพเมียนมายังคงเดินหน้าก่ออาชญากรรมสงครามและก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นเหตุความรุนแรงทางเพศ การทรมานประชาชน การปราบปรามพลเรือน และการฆาตกรรม

 

โดยที่ผ่านมานั้นชาติตะวันตกได้ร่วมกันคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับรัฐบาลทหาร รวมถึงธุรกิจของทหารระดับสูงบางคน ขณะที่ธุรกิจของต่างชาติบางแห่งก็ได้ถอนตัวออกจากเมียนมาเพื่อร่วมกดดันอีกทางหนึ่ง แต่ถึงเช่นนั้นเมียนมากลับหันไปกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งกำลังเผชิญกับกระแสความกดดันจากชาติตะวันตกเฉกเช่นเดียวกัน

 

ทั้งนี้ สถานการณ์ในเมียนมานับได้ว่าอยู่ในขั้นเลวร้าย นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของกองทัพ โดยรัฐบาลทหารก็ได้ส่งกองกำลังเข้าปราบปรามประชาชนที่ออกมาประท้วงอย่างรุนแรง 

 

แอนดรูว์สกล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร มีประชาชนที่ต้องพลัดถิ่นถึง 1.3 ล้านคน มีบ้านเรือนถูกทำลาย 28,000 หลัง หมู่บ้านหลายแห่งถูกเผาจนราบเป็นหน้ากลอง มีเด็กกว่า 13,000 คนที่ถูกสังหาร ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ 

 

ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แอนดรูว์สกล่าวว่า ประชาคมโลกควรต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เพื่อตัดสิทธิ์ต่างๆ ของรัฐบาลทหาร รวมถึงตัดท่อน้ำเลี้ยงทั้งด้านการเงินและอาวุธด้วย

 

แฟ้มภาพ: Anusak Laowilas/NurPhoto via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising