วันนี้ (9 กรกฎาคม) ความเคลื่อนไหวสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนล่าสุด ยูเครนเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรส่งอาวุธเพิ่ม ในขณะที่กองกำลังของตนบุกเข้าไป โดยหวังว่าจะขัดขวางการรุกทางทหารของรัสเซียผ่านภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของประเทศ
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าพวกเขาต้องการอาวุธตะวันตกคุณภาพสูงในจำนวนมากกว่านี้เพื่อเสริมการป้องกัน ขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งลงนามในแพ็กเกจอาวุธใหม่มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับยูเครนเมื่อวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HIMARS) เพิ่มเติม ตลอดจนกระสุนอื่นๆ ซึ่ง โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ทวีตขอบคุณไบเดนสำหรับความช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งเขาระบุว่าเป็นความต้องการที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตันให้ความเห็นต่อการจัดหาอาวุธนี้ว่า สหรัฐฯ ต้องการ ‘ยืดอายุความขัดแย้งให้ยาวขึ้น’ และชดเชยความสูญเสียทางทหารของยูเครน
ขณะที่ฝั่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่าการคว่ำบาตรรัสเซียสำหรับการบุกโจมตียูเครนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เสี่ยงจะทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ‘อย่างเป็นหายนะ’ ซึ่ง Reuters รายงานว่า เป็นการส่งสัญญาณว่ารัสเซียไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะประนีประนอม
ด้าน อันดรีย์ เคลิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอังกฤษ ก็ระบุกับ Reuters ว่าทหารรัสเซียจะยึดส่วนที่เหลือของภูมิภาคดอนบาสในยูเครนตะวันออก และไม่น่าจะถอนตัวออกจากดินแดนชายฝั่งทางใต้ ซึ่งในที่สุดยูเครนจะต้องทำข้อตกลงสันติภาพ หรือค่อยๆ ถอยลงไปสู่ความพินาศ โดย Reuters ชี้ว่าคำพูดของเอกอัครราชทูตเคลินได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปลายทางของรัสเซียที่มีความเป็นไปได้ ซึ่งหมายถึงการแบ่งแยกดินแดนที่จะทำให้ยูเครนต้องสูญเสียพื้นที่มากกว่า 1 ใน 5 ของอาณาเขตหลังยุคโซเวียต
ส่วนที่แนวหน้าในภูมิภาคดอนบาส เจ้าหน้าที่ของยูเครนรายงานว่ามีการโจมตีของรัสเซียอย่างหนักใส่เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ก่อนการผลักดันเพื่อดินแดนเพิ่มเติมที่คาดการณ์ไว้ และในพื้นที่ส่วนที่ถูกยึดครองโดยรัสเซียในภูมิภาคเคอร์ซอนและซาปอริซเซียทางตอนใต้ รองนายกรัฐมนตรีของยูเครนได้เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกไปก่อนที่กองกำลังของยูเครนจะเปิดฉากโจมตีตอบโต้
“ได้โปรดออกไปเถอะ กองทัพของเราจะเริ่มยึดพื้นที่เหล่านี้กลับคืนมา ความมุ่งมั่นของเราแข็งแกร่ง และมันจะเป็นเรื่องยากมากในภายหลังที่จะเปิดเขตฉนวนเพื่อมนุษยธรรมเมื่อมีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง” สื่อของยูเครนรายงานคำกล่าวของ อิรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน อย่างไรก็ดี สำนักข่าว Reuters ระบุว่าไม่สามารถตรวจสอบรายงานดังกล่าวได้อย่างอิสระ
ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ใช้เวลาทั้งวันในการลงพื้นที่แนวหน้าด้านการทหารในภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสก์และคริวิรี รีห์ โดยได้รับฟังรายงานของบรรดาผู้บัญชาการทหาร และขอบคุณผู้ที่คอยปกป้องภูมิภาค ตลอดจนเดินทางไปโรงพยาบาลในเมืองดนิโปร เพื่อขอบคุณแพทย์และพยาบาลที่คอยดูแลรักษาทหารและพลเรือนผู้บาดเจ็บ และ มิคาอิโล โปโดลยัค หัวหน้าคณะเจรจากับรัสเซียของยูเครน ระบุว่ากองทัพของรัสเซียถูกบังคับให้หยุดปฏิบัติการชั่วคราวเนื่องจากความสูญเสียต่างๆ และการจัดทัพใหม่
อีกด้านหนึ่ง เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ก็ขัดแย้งกับบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของชาติตะวันตกในการประชุม G20 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งบรรดารัฐมนตรีจากชาติตะวันตกได้เรียกร้องให้มีการยุติสงครามและการปิดกั้นการส่งออกธัญพืชจากยูเครน
โดยในการประชุมช่วงแรกปรากฏว่าลาฟรอฟได้รับคำตำหนิจากรัฐมนตรีของชาติตะวันตกอย่างแข็งกระด้าง ซึ่งลาฟรอฟกล่าวว่ารัฐมนตรีเหล่านี้ ‘ออกนอกเรื่องเกือบจะในทันที’ จากหัวข้อการสนทนา ‘ไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างบ้าคลั่งต่อรัสเซีย’ และในช่วงต่อมาของการประชุม โจเซฟ บอเรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ระบุว่า ลาฟรอฟก็เพียงอ่านแถลงการณ์แล้วออกจากการประชุมไปโดยไม่ฟังผู้อื่น ซึ่งบอเรลล์อธิบายว่าการกระทำดังกล่าว ‘ไม่ให้เกียรติกันมากนัก’ ทั้งนี้ ลาฟรอฟได้เข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับในวันพฤหัสบดี ซึ่งไม่มีรัฐมนตรีจากกลุ่ม G7 อยู่ในงานด้วย
ข้อกังวลสำคัญของกลุ่ม G20 คือการขนส่งธัญพืชจากยูเครนออกไปทางท่าเรือ ที่ถูกขัดขวางโดยการอยู่ของรัสเซียในทะเลดำและทุ่นระเบิด ทั้งนี้ ยูเครนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ และหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือออกมาเตือนว่าประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหาร หากการจัดหาอาหารไม่สามารถเข้าถึงประเทศเหล่านั้นได้ ขณะเจ้าหน้าที่ชาติตะวันตกรายหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมบอกกับ Reuters ว่ามี ‘คำพูดที่รุนแรงมาก’ บางอย่างเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย และความเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นที่จะยุติการขัดขวางการส่งออกธัญพืชของยูเครน
และวันนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน หวังอี้ และคาดว่าเขาจะย้ำเตือนจีนไม่ให้สนับสนุนสงครามของรัสเซียด้วย
ภาพ: Stefani Reynolds / Pool / AFP
อ้างอิง: