หลังจากช่วงปีที่ผ่านมา สหราชอาณาจักร เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยสะท้อนจากตัวเลข GDP ไตรมาสสุดท้ายที่หดตัว 0.3% ขณะที่ GDP รวมทั้งปีก็ถือว่าเลวร้ายสุดในรอบหลายปี
ล่าสุดสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปีนี้ก็ยังไม่สู้ดีนัก โดยยังคงมีแนวโน้ม ‘ซบเซา’ ต่อเนื่อง และปีหน้ากำลังจะกลายเป็นประเทศที่มีผลการดำเนินงานย่ำแย่ที่สุดในบรรดา 7 ประเทศ ‘Group of Seven’ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่ากลุ่ม G7
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ The Organization for Economic Cooperation and Development (OECD) คาดการณ์ว่า ปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรจะเติบโตเพียง 0.4% จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 0.7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าประเทศ G7 ทั้งหมดยกเว้นเยอรมนี ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 0.2% ที่ยังคงครองตำแหน่งเสมือนคนป่วยในยุโรป
โดยปี 2025 เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะขยายตัวเพียง 1% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1.5% กลุ่มยูโรโซน และเศรษฐกิจจะเติบโตช้าสุดในปีหน้า ตามหลังแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
สาเหตุที่ทำให้สหราชอาณาจักรมาถึงจุดนี้เป็นเพราะผลกระทบที่ยืดเยื้อของอัตราดอกเบี้ยที่สูง และอัตราเงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ ประกอบกับมีการลงทุนในระดับที่ต่ำ การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะในประเทศกำลังผลักดันค่าจ้างของสหราชอาณาจักรให้สูงขึ้น ตลอดจนการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง ทำให้เจ้าของบ้านต้องขึ้นค่าเช่า 9% ในปีเดียว ซึ่งส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงต้นทุนการค้าที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาจากความตกลงทางการค้าและกฎระเบียบการค้า Brexit ส่งผลให้การขนส่งสินค้าข้ามแดนเกิดความปั่นป่วนอย่างมากกับบริษัทส่งออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- อังกฤษหนาวๆ ร้อนๆ ค่าไฟพ่นพิษอีกระลอก จับตา ‘3 แสนกว่ากิจการ’ เสี่ยงปิดตัว
- เกิดอะไรขึ้น! เยอรมนีกลายเป็น ‘ผู้ป่วยของยุโรป’ ทั้งที่เคยเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจ
แม้สัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะโตช้าสุดในกลุ่ม G7 แต่ ริชิ ซูนัค นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ก็ออกมาโต้ว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรปีนี้กำลังจะดีขึ้น แม้จะทรุดตัวลงสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2023 ก็ตาม
คนรวยกับคนจน ‘ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ’
สำหรับสหราชอาณาจักร ประกอบด้วยดินแดน 4 ส่วน ได้แก่ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
อีกสิ่งที่สะท้อนถึงสภาพการเติบโตของเศรษฐกิจที่น่ากังวลคือ ผลสำรวจจากอ็อกซ์แฟมที่สำรวจสภาพเศรษฐกิจและสังคม และพบว่าขณะนี้สหราชอาณาจักรกำลังเป็นประเทศที่มีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากขึ้นเรื่อยๆ และมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอดีต
โดยระหว่างปี 2021-2022 พบบุคคลร่ำรวย 1% มีทรัพย์สินอู้ฟู่ ซึ่งคนที่ร่ำรวยที่สุดในสหราชอาณาจักร 685,000 คนมีทรัพย์สินรวมกัน 2.8 ล้านล้านปอนด์ ในขณะที่ 70% ของประชากรทั้งหมด หรือประชาชน 48 ล้านคน มีทรัพย์สินรวมกันเพียง 2.4 ล้านล้านปอนด์ หลักๆ คือผู้คนต่างเผชิญกับเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการค้าของสหราชอาณาจักรยังคงมีตลาดส่งออกสินค้าหลักไปยังสหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ โดยส่งออกสินค้าหลักคือ เครื่องจักร เชื้อเพลิง โลหะมีค่า ยานพาหนะ
ส่วนตลาดนำเข้าหลักมาจากเยอรมนี สหรัฐอเมริกา จีน เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส โดยมีสินค้าหลักคือ เครื่องจักร เชื้อเพลิง ยานพาหนะ โลหะมีค่า
ขณะที่สินค้าส่งออกจากไทยไปยังสหราชอาณาจักรหลักๆ คือ ไก่แปรรูป รถยนต์และส่วนประกอบ ชิ้นส่วนอากาศยาน อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง
โดยไทยนำเข้าสินค้า ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่ม น้ำแร่ ผลิตภัณฑ์เวชกรรม ยานพาหนะ และเครื่องมือการแพทย์ มากที่สุด
อ้างอิง: