×

‘ttb’ เตรียมขออนุมัติจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 ในอัตรา 0.053 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 65 จ่ายปันผลที่ 0.073 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 3 พ.ค. นี้

22.02.2023
  • LOADING...

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เตรียมขออนุมัติจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 ในอัตรา 0.053 บาทต่อหุ้น หลังผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นทุกด้าน รวมทั้งปี 2565 จ่ายปันผลที่ 0.073 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 3 พฤษภาคมนี้

 

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติให้ขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 จากผลการดำเนินงานปี 2565 ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 เมษายน 2566 ในอัตรา 0.053 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2565 โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 12 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 

 

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ttb เปิดเผยว่า การจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังการรวมกิจการ รวมไปถึงความตั้งใจของธนาคารในการส่งมอบผลตอบแทนกลับคืนสู่ผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี 

 

โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน 2565 ธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.02 บาทต่อหุ้น และเตรียมขออนุมัติการจ่ายครั้งที่ 2 อีก 0.053 บาท รวมเป็นอัตราเงินปันผล 0.073 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 7.1 พันล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้น 92% จากปี 2564 ซึ่งสูงเป็นลำดับต้นๆ ของกลุ่มธนาคาร โดยการจ่ายเงินปันผลในปี 2565 คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50% ของกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจากอัตรา 35% ในปีก่อนหน้า และเทียบเท่ากับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ที่ประมาณ 5.2% ต่อปี ณ ระดับราคาหุ้น TTB ในปัจจุบัน

 

ทั้งนี้ ในปี 2565 หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผ่อนคลายนโยบายจ่ายเงินปันผลของกลุ่มธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาตได้ทำเรื่องขออนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารเพื่อปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลเพิ่มเป็น 2 ครั้งต่อปี จากเดิม 1 ครั้งต่อปี เพราะเล็งเห็นว่าธนาคารมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจากการรับรู้ประโยชน์การรวมกิจการได้ตามแผน อีกทั้งยังดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมาย ทำให้สามารถรับมือกับภาวะทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และมีผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งด้านกำไร ประสิทธิภาพด้านต้นทุน และคุณภาพสินทรัพย์ รวมทั้งฐานะเงินกองทุนที่อยู่ในระดับสูง จึงเป็นที่มาของการปรับนโยบายและจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น 

 

นอกจากนั้นในปี 2565 ธนาคารยังได้ดำเนินการออกวอร์แรนท์ TTB-W1 ให้กับผู้ถือหุ้นโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งมีผลดีต่อผู้ถือหุ้น เพราะให้สิทธิผู้ถือหุ้นทั้งในแง่ของการใช้สิทธิซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด และในแง่ของการได้ประโยชน์ด้านสภาพคล่องจากการนำวอร์แรนท์ไปซื้อขายในตลาดรอง 

 

โดยในปี 2566 ธนาคารก็จะยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบควบคู่กับการพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับประสบการณ์ทางการเงินในการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น พร้อมทั้งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน หนุนการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของธนาคารอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

 

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ทีเอ็มบีธนชาตมีกำไรสุทธิ 14,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปี 2564 ด้านคุณภาพสินทรัพย์บริหารจัดการได้ดี สัดส่วนหนี้เสียลดลงมาอยู่ที่ 2.73% ความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนรวมอยู่ที่ 20.0% และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.3%

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising