คณะบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติขายอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่ารวม 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ไต้หวันอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่แบบ F-16V ลำใหม่รวม 66 ลำ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับจีนยิ่งขึ้น เนื่องจากมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ดังนั้นการขายอาวุธจึงถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยืนยันการขายอาวุธให้ไต้หวันล็อตใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้อนุมัติไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการ แต่อาจพิจารณายกเลิก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หัวชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่าการขายอาวุธให้ไต้หวันเป็นการบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ระดับแกนกลางของจีน พร้อมแสดงท่าทีคัดค้านอย่างแข็งกร้าว รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ระงับการขายเครื่องบินรบและหยุดการติดต่อทางทหารกับไต้หวัน
“ประเด็นไต้หวันเกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และผลประโยชน์ด้านความมั่นคง สหรัฐฯ จะต้องแบกรับผลลัพธ์ที่ตามมา หากไม่หยุดขายอาวุธให้ไต้หวัน” หัวชุนอิ๋งกล่าวเตือน
การขายอาวุธให้ไต้หวันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรสทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต แต่สร้างความร้าวฉานระหว่างสหรัฐฯ และจีนมากยิ่งขึ้น หลังจากที่สองประเทศระหองระแหงกันมาหลายปีจากปมขัดแย้งทางการค้า และเมื่อเดือนที่แล้ว คณะบริหารของทรัมป์ก็เพิ่งอนุมัติขายรถถังประจัญบานหลักแบบ M1A2T Abrams และอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานแบบ Stinger รวมมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: