เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ที่นครนิวยอร์ก ภาวิณี ชุมศรี และ ศิริกาญจน์ เจริญศิริ สองทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมเข้าพิธีมอบรางวัล ดิ อัลบี้ (The Albies) จากมูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม (Clooney Foundation for Justice หรือ CFJ) ในฐานะองค์กรที่ทำงานเพื่อปกป้องสิทธินักเรียนนักศึกษา นักกิจกรรม และสื่อมวลชนที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมและการแสดงออกอย่างสันติในไทย
โดยมี แมตต์ เดมอน, เอมิลี บลันต์, เมอรีล สตรีป, แอนน์ แฮทธาเวย์, และ สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน ร่วมแสดงความยินดีกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะผู้รับรางวัล ดิ อัลบี้ สาขาผู้ปกป้องประชาธิปไตย ประจำปี 2023
ในพิธีรับรางวัล ศิริกาญจน์ ตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ที่ยังมีประชาชนหลายพันคนถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ได้บอกเล่าเรื่องราวของ อานนท์ นำภา และเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีเกือบ 300 คน ในจำนวนนี้ ลูกความที่อายุน้อยที่สุดคือเด็กอายุ 12 ปี
ระบุว่า “เรียนทุกท่าน ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณอมาล คุณจอร์จ มูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม และทุกๆ ท่านที่มาร่วมงานในคืนนี้ เพื่อมอบพื้นที่ให้เราได้เล่าเรื่องงานของเราและสถานการณ์ในเมืองไทย ในห้วงแห่งความมืดมน ทุกท่านเป็นดั่งแสงอาทิตย์ที่ทำให้วันอันยากเข็ญของเราสว่างไสวขึ้นและโดดเดี่ยวน้อยลง
หลายท่านคงเคยไปเยี่ยมเยียนประเทศไทยแล้ว ดินแดนสยามเมืองยิ้ม หาดสวย อาหารอร่อย
ทุกวันเราใช้ชีวิตกับรอยยิ้มที่สวยงาม แต่เรามีดวงตาที่แสวงเสาะหาความยุติธรรม เราหัวเราะกันมากเพียงเพื่อให้รู้สึกมีพลัง ในขณะที่ผู้มีอำนาจมักต้องการให้เรารู้สึกอ่อนแอ ท่านทราบหรือไม่ว่าในประเทศไทย การพูดถึงราชวงศ์หรือเรียกร้องการปฏิรูปเพื่อประชาธิปไตยนั้นอาจถูกจำคุกได้ เหตุการณ์ที่ดูเหลือเชื่อเหล่านี้ล้วนคือความจริงของเรา
ดิฉันขอเริ่มด้วยการเล่าเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนรักและเพื่อนร่วมงานที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทนายอานนท์ นำภา ผู้ที่ถูกจำคุกอยู่ ณ ขณะนี้ เพราะเขาถูกดำเนินคดีจากการปราศรัยทางการเมืองและการประท้วงโดยสันติ เขาถูกส่งเข้าเรือนจำไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (26 กันยายน) ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ การกระทำนี้ถือเป็นอาชญากรรมอันที่มีโทษจำคุกได้สูงสุด 15 ปี
ทนายอานนท์เป็นพ่อของลูกชายอายุสิบเดือนและลูกสาวตัวน้อย มีครั้งหนึ่งที่ทนายอานนท์ออกจากเรือนจำเพื่อถูกนำตัวไปศาล เขาเดินเข้าศาลเท้าเปล่าในชุดนักโทษสีน้ำตาล เขาหันมาถามเราว่า ครุยทนายผมอยู่ไหน จากนั้นเขาก็สวมครุยนั้นทับชุดนักโทษ และทำหน้าที่ทนายของเขาต่อไป เพื่อปกป้องสิทธิของนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ที่ถูกดำเนินคดีร่วมกัน จากการพูดความจริงต่อผู้มีอำนาจ
เมื่อรัฐใช้กฎหมายเป็นอาวุธ ทนายจึงต้องยืนหยัดต่อสู้กับความรุนแรงนี้ เพื่อปกป้องนิติรัฐและระบอบประชาธิปไตย ทว่าแม้ประชาธิปไตยของไทยจะถดถอยไปมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้มาถึงแล้ว เราได้เห็นคลื่นลูกใหม่ของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย พวกเขาชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้าน เยาวชนจำนวนมากเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ หลายคนเสียสละมหาศาลให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา มีเยาวชนเกือบ 300 คนถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายที่กดขี่ เพียงเพราะพวกเขาต่อสู้เพื่อต้องการอนาคตที่ดีกว่า ลูกความที่เด็กที่สุดของเรามีอายุเพียง 12 ปี เขาถูกจับกุมในที่ชุมนุม ทั้งๆ ที่เขาเพียงขี่จักรยานจากบ้านเพื่อไปสังเกตการณ์เท่านั้น
เราพร่ำกล่าวว่าเยาวชนคืออนาคตของชาติ แต่ประเทศไทยกลับกระชากอนาคตของเยาวชนออกไปจากมือพวกเขา
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนคงไม่มีวันนี้ หากคนไทยไม่ได้ลุกขึ้นมาสู้กับรัฐเผด็จการที่ซ่อนตัวอยู่ในที่แจ้ง ในสถาบันตุลาการ ในกฎหมาย และในรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐประหาร
เรายังต้องเดินทางกันไปอีกไกลเพื่อไปให้ถึงประชาธิปไตยที่แท้จริง การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมนั้นไม่เคยง่าย แต่เวลาย่ำรุ่งจะมาถึงเสมอ
การเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าอยู่ในมือของเราเอง เราจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าความหวังจะกลายเป็นความจริง เรายังต้องการความรักและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทุกท่าน โปรดอย่าลืมนึกถึงพวกเราและสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทย
อ้างอิง:
- ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน