×

The Orange’s Tea คราฟต์ทีรูมจิ๋วย่านพระโขนงที่มาพร้อมคอลเล็กชันชาฮิป และชื่อสุดแนว [ปิดกิจการ]

11.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • ชาสกัดเย็นไนโตรที่ทำกันสดๆ แก้วต่อแก้ว
  • ชาเบลนด์พิเศษที่ได้ไอเดียจากอารมณ์ความรู้สึก ผู้คน สถานที่ บรรยากาศ ขนม และอื่นๆ อีกมากมาย

ชา เครื่องดื่มที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน อีกทั้งเป็นวัฒนธรรมร่วมในเอเชียและยุโรป ฝั่งเอเชียโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่นมักเลือกนำเสนอชาตามคาแรกเตอร์ของใบชา หรือมีการอบเพื่อเพิ่มมิติของกลิ่นและรสชาติ ในขณะที่ฝั่งยุโรปได้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมการดื่มชาจากชาวจีนเช่นกัน แต่ผ่าน มาร์โค โปโล พ่อค้าและนักเดินทางที่ลัดเลาะเส้นทางสายไหมจนนำชาเข้าสู่โลกตะวันตก และภายหลังชาก็แทบจะกลายเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของชาฝั่งตะวันตกคือ ‘การเบลนด์’ เพื่อเพิ่มเติมกลิ่นชาด้วยผลไม้หรือสมุนไพรจนได้ออกมาเป็นชาชื่อคุ้นหูมากมาย เช่น English Breakfast, Earl Grey, Four Red Fruits ฯลฯ

 

 

ย้อนกลับมาที่กรุงเทพฯ แม้ว่าร้านกาแฟและสเปเชียลตี้คอฟฟี่ช็อปผลัดกันเปิดร้านอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทว่ายังมีพื้นที่เล็กๆ สำหรับคนรักชา แต่อยากให้ตัดภาพอากงอาม่าจิบชาจีนออกไป เพราะเรากำลังพูดถึงแวดวงทีช็อปที่เข้ามามีบทบาทในวงการคาเฟ่ฮอปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำชาสไตล์อังกฤษทั้งในและนอกโรงแรม ไปจนถึงร้านน้ำชาแบบตะวันออกที่รวบรวมชาเกรดพรีเมียมหาดื่มยากติดอันดับโลก แต่สำหรับที่ The Orange’s Tea สวรรค์ทางเลือกของคนรักชา ได้นำเสนอร้านชาคอนเซปต์ใหม่ที่พยายามทำให้ชาเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น ลดพิธีรีตอง และหันหน้าเข้าหาเทคนิควิธีใหม่ๆ

 

เราได้พูดคุยกับ คุณส้ม-ศชญา เชยสมบัติ เจ้าของร้านและผู้เบลนด์ชาแห่ง The Orange’s Tea ผู้เล่าเรื่องราวเบื้องหลังใบชาพร้อมแนะนำชาต่างๆ ภายในร้านที่มีให้เลือกดมและจิบหลายสิบชนิด

 

พื้นที่อบอุ่นภายในร้านและบริเวณชั้นสองมีระเบียงด้านนอกให้เปลี่ยนบรรยากาศ  

 

The Vibe

The Orange’s Tea ร้านน้ำชาสองชั้นบรรยากาศอบอุ่น ตั้งอยู่ในตึกแถวกลางซอยสุขุมวิท 69 ไม่ไกลจากบีทีเอสพระโขนง เป็นคราฟต์ทีรูมแห่งแรกที่นำเสนอชาเบลนด์พิเศษซึ่งเจ้าของร้านลงมือเบลนด์เอง รวมถึงเปิดประสบการณ์เครื่องดื่มธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ณ เคาน์เตอร์บาร์ เราเห็นกระปุกชาวางเรียงกันกว่า 10 เบลนด์ และต่างก็มีชื่อเรียกที่ชวนสั่งมาลองแทบทุกตัว เช่น Better Than Sex, Phrakanong Breakfast, Hipster Moroccan, Bloody Sweet Heart และเบลนด์อื่นๆ อีกมากมายที่ล้วนแต่ใช้ใบชาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งไทย จีน ศรีลังกา หรือเคนยา และมีเบลนด์พิเศษให้เข้ากับเทศกาลต่างๆ โดยใช้เทคนิควิธีที่ไม่ตายตัว ตั้งแต่การชงชาแบบดั้งเดิมไปจนถึงการดริปชาหรือทำชาไนโตรโคลด์บริว

 

(บน) ชาเบลนด์ชื่อชวนลองอย่าง Better Than Sex ก็มี, (ล่าง) Pinky Pie ชาขาวเบลนด์กับวานิลลาและกลีบกุหลาบมอญแห้ง

 

The Drinks

คุณส้มแนะนำให้เรารู้จัก Pinky Pie (130 บาท) ชาเบลนด์ชื่อหวานแหววที่ได้ไอเดียจากขนมและพาย เป็นชาขาวเบลนด์กับวานิลลาและกลีบกุหลาบมอญแห้ง ซึ่งการเบลนด์คือการใช้คุณสมบัติของใบชาให้เป็นประโยชน์ ด้วยความที่ใบชาดูดซับกลิ่น กระบวนการเบลนด์แม้จะไม่ได้ใช้เวลามากมาย แต่ใบชาก็จะติดกลิ่นของสิ่งที่เบลนด์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ สมุนไพร ขนม หรืออะไรก็ตาม สำหรับ Pinky Pie ไม่มีกฎตายตัวว่าต้องดื่มแบบร้อนเท่านั้น จะดื่มแบบชาร้อนหรือชาเย็นก็ดีทั้งสองแบบ แนะนำให้จับคู่รับประทานกับทาร์ตส้มโอที่ให้รสหวานขมสลับกัน รับประทานเดี่ยวๆ อาจรู้สึกแปลก แต่หากจิบชาสลับไปด้วยก็เข้ากันได้ดีเลยล่ะ

 

ชากับขนมหวาน มอบรสสัมผัสที่ลงตัว

 

ตัวถัดมาเป็นชาร้อนที่ยังไม่มีชื่อเรียกเป็นทางการ แต่คอนเซปต์ของชาเบลนด์ชนิดนี้น่าสนใจ เพราะมีแนวคิดจากหยิน-หยาง นำเสนอชาออกฤทธิ์เย็นเพื่อปรับสมดุลร่างกายแก่ผู้ดื่ม ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบกรุงเทพฯ ชาหยินนี้น่าจะตอบโจทย์ คุณส้มอธิบายว่าชาตัวนี้เป็นชาขาวที่เบลนด์กับตะไคร้, เลมอน เวอร์บีนา (Lemon Verbena) พืชที่ให้กลิ่นคล้ายเลมอน และบลู มอลโลว์ (Blue Mallow) ดอกไม้ที่มอบสีฟ้าและม่วงคล้ายอัญชัน เทน้ำร้อนแล้วพักไว้ประมาณ 3-5 นาทีเพื่อรสชาติดีที่สุด

 

ด้วยระยะเวลาที่พอเหมาะ ทำให้รสชาติของชาออกมาวิเศษสุด

 

มาถึงชาเย็นกันบ้าง ตัวไฮไลต์คือ Nitro Tea (130 บาท) หากเป็นคอกาแฟคงคุ้นเคยกับไนโตรคอฟฟี่กันดี มาลองไนโตรทีบ้างจะเป็นอะไรไป โดยปกติแล้วทางร้านใช้ Hipster Moroccan ซึ่งเป็นชาที่นำไปทำไนโตร แต่ช่วงที่เราไปตรงกับเทศกาลวาเลนไทน์พอดี คุณส้มเลยใช้เบลนด์พิเศษ Cold Heart ที่นำอู่หลงมาเบลนด์กับลิ้นจี่และกุหลาบ

 

ชาไนโตรแก้วนี้ใช้เบลนด์พิเศษในชื่อ Cold Heart

 

จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของเครื่องดื่มไนโตรที่ The Orange’s Tea คือการเป็นคราฟต์ที (Craft Tea) ทำอย่างพิถีพิถันแก้วต่อแก้ว ไม่เว้นแม้แต่ชาไนโตรที่ต้องใจเย็นๆ นั่งรอนั่งชมการแปลงสภาพของชาโคลด์บริวให้กลายเป็นชาไนโตร เริ่มต้นจากการกรองชาด้วยตะแกรงแล้วเทลงเครื่องไนโตรโคลด์บริว พร้อมใส่น้ำแข็งเพื่อให้ชามีความเย็นจัด จากนั้นต่อสายเพื่อเติมไนโตรเจน เครื่องอัดไนโตรชนิดนี้จะดึงเอาไนโตรเจนจากอากาศเข้าไปด้านใน ใส่ไนโตรเสร็จเรียบร้อยก็เขย่านิดหน่อย แล้วฉีดชาลงในแก้วไวน์ปากแคบ พรายฟองสวยงามออกมาตามสาย ตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบแห้ง ใส่ไซรัปกุหลาบโฮมเมดเล็กน้อยให้รสชาติเด่นยิ่งขึ้น

 

ม็อกเทลหวานอ่อน ดื่มแล้วสดชื่น

 

นอกจากนี้ยังมีม็อกเทลที่มีส่วนผสมของชาด้วย เมนูนี้ใช้โคลด์บริว Pinky Pie ผสมไซรัปชาขาว วานิลลาดรอป และน้ำเลมอน ท็อปด้วยแอปเปิ้ลตุ๋นและกุหลาบแห้ง รสชาติหวานอ่อนแบบเลมอนเนด แถมยังได้ความสดชื่นเต็มๆ ส่วนใครที่อยากกินชานม ทางร้านมี Chai Latte ชาเครื่องเทศสไตล์อินเดียผสมนมร้อน ถ้าติดใจชาของที่นี่ก็สามารถซื้อกลับบ้านไปชงเองได้ด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 350 บาท

 

What You Should Know:

  • การเบลนด์ชาคือการถ่ายทอดกลิ่นจากวัตถุที่ต้องการสู่ใบชา ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ สมุนไพร ไปจนถึงของกินต่างๆ แม้ช่วงแรกจะมีเพียงการเบลนด์ชาไม่กี่ชนิด แต่ปัจจุบันเราอาจเห็นชาที่เบลนด์กับเจลลี่หรือป๊อปคอร์นก็เป็นได้
  • ในอนาคตอันใกล้ คุณส้มจะจัดทีเทสติ้งและเวิร์กช็อปที่เกี่ยวกับชา
  • หากไม่สะดวกมาร้านก็สามารถสั่งซื้อชาได้ทางออนไลน์ในแฟนเพจหรืออินสตาแกรม

 

The Orange’s Tea [ปิดกิจการแล้ว]

Open: วันจันทร์ และวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 10.30-19.30 น.

Address: เลขที่ 24/22 ซอยสุขุมวิท 69 กรุงเทพฯ

Contact: 09 5564 1642

Budget: เริ่มต้น 200 บาท

Page: www.facebook.com/TheOrangesTea

Maps: 

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising