The TOYS 1st Concert Live in Seoul เวทีที่พิสูจน์ศักยภาพทางดนตรีของ ธันวา บุญสูงเนิน

The TOYS 1st Concert Live in Seoul จบลงไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้รูปแบบงานจะถึงกับเรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ และออกจะเป็นบรรยากาศแบบ Meet and Greet ระหว่างศิลปินกับแฟนคลับเสียมากกว่า ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ผู้ชมซึ่งอยู่ใน SM Town Theatre สัมผัสได้ คือโชว์ของศิลปินหนุ่มวัย 23 ปี ที่ทั้งครบเครื่อง น่าประทับใจ และหลายโชว์ที่เตรียมมาเป็นพิเศษเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนเพลงทั้งชาวไทย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอีกหลายชาติทั่วเอเชียที่บินข้ามฟ้ามาถึงกรุงโซล

The TOYS ธันวา บุญสูงเนิน เปิดตัวคอนเสิร์ตครั้งแรกของเขาที่โซลด้วย TOY เพลงชื่อเดียวกับเขา และนั่นเป็นสัญญาณให้แฟนเพลงที่อยู่ภายในฮอลล์ได้รู้ว่า นับจากนี้ “ฉันจะพาเธอลอย ล่องไปในโลกของ The TOYS” ซึ่งเขาก็จัดหนักแจกเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ ทันทีตั้งแต่เพลงแรก ด้วยช็อตโซโล่กีตาร์เท่ๆ เป็นการอุ่นเครื่องท้าทายสภาพอากาศติดลบ 2 องศาของกรุงโซล

ขณะเดียวกันมันก็เหมือนเชือกที่มัดใจแฟนเพลงไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลยว่าคุณจะคลาดสายตาจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ไปไม่ได้ เพราะเขายังมีของที่เตรียมจะควักออกมาโชว์อีกเพียบ

เข้าสู่เบรกที่ 2 อย่างรวดเร็ว ทอยยืนเด่นกลางเวทีอีกครั้ง คราวนี้เขากลับมาพร้อมเพลง Stars ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงไปทั่วฮอลล์ จากนั้นตามด้วยเพลง ขอโทษ และ ให้เธออภัย, หน้าหนาวที่แล้ว, ฝันฤดูร้อน และ รักอยู่ตรงหน้า ฯลฯ ที่เขายังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะจบเบรกนี้ไปด้วยเพลง ‘พูดไม่ออก’ ที่เพิ่งปล่อยมิวสิกวิดีโอออกมาไม่กี่วัน ก่อนหน้าจะเดินทางมาถึงเกาหลี และนี่น่าจะเป็นโชว์แรกๆ ที่เขานำเพลงนี้ขึ้นมาแสดงสดบนเวที

ไฮไลต์สำคัญของโชว์อยู่ที่เบรก 3 ที่ทั้งสนุกและเต็มไปด้วยสีสัน เริ่มต้นจากเพลง เจ็บนิดเดียว และ ช้ำคือเรา เพลงต้นฉบับเดิมโดย นิตยา บุญสูงเนิน ผู้เป็นแม่ ที่ถูกนำมาร้องโชว์อีกครั้งบนเวทีในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งการเรียบเรียงใหม่ตามสไตล์ทอย เขาก็เลือกจะใส่ท่อนโซโล่กีตาร์ของตัวเองลงไป และก็แสดงมันออกมาได้อย่างลงตัวชนิดที่ละสายตาไปจากหน้าเวทีไม่ได้เลย

The TOYS ไหลจังหวะของเพลงด้วย 04:00 ที่เมโลดีไปด้วยกันดีกับสองบทเพลงก่อนหน้า…เพื่อเข้าสู่อีกไฮไลต์คือการโชว์เพลง I Think I Love You จากซีรีส์ดัง Full House ที่ถือเป็นการร้องเพลงเกาหลีครั้งแรกในชีวิต ถึงตรงนี้สิ่งที่ต้องชมอีกอย่างคือการเรียงร้อย ‘ซองลิสต์’ ของโชว์ในวันนี้ที่เรารู้สึกว่าทำออกมาได้อย่างลื่นไหล เพลินไปกับทุกเพลงได้อย่างไม่สะดุดอารมณ์

มาต่อกันที่เพลง นอนได้แล้ว ที่ต้นฉบับคือการฟีเจอริงร่วมกันของ ฟักกลิ้งฮีโร่ X The TOYS แต่พอเรียบเรียงใหม่ในแบบที่มีเขาเพียงคนเดียว ทอยก็เก็บละเอียดและโชว์ออกมาได้ดีทั้งท่อนร้องหลักและรัวท่อนแรปตามแบบฉบับของตัวเอง ถึงตอนนี้เครื่องคนดูชักเริ่มติด ทอยจัดหนักด้วยลิสต์เพลงเปิดโอกาสให้โชว์อีกพรสวรรค์ของตัวเอง นั่นคือการแรปด้วยเพลง ทะลึ่ง ของวงไทยเทเนี่ยม และ เค้าก่อน ของ UrboyTJ ชนิดที่ไปนั่งแท่นเป็นโค้ชในรายการ The Rapper ได้อย่างสบายๆ ไม่เคอะเขิน

“ชูมือขึ้นมา ชูมือขึ้นมา” ทอยเอ่ยเชื้อเชิญแฟนเพลงให้ร่วมสนุกไปกับ ลาลาลอย เพลงฮิตล่าสุดของเขาที่ฟังไม่กี่รอบก็ยังติดหูและติดปาก ต่อด้วย Hotline Bling ของเดรก, That’s What I Like ของบรูโน มาร์ส

อีกสิ่งที่ไม่ชมไม่ได้เลยในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คือเรื่องของสถานที่อย่าง SM Town Theatre รวมไปถึงงานโปรดักชันมาตรฐานเกาหลี ซึ่งบอกได้เลยว่าคุณภาพของระบบเสียงทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และนั่นทำให้โชว์ของ The TOYS ในครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษกว่าที่ผ่านมา สำคัญที่สุดคือมันบอกถึงคุณภาพของตัวศิลปินว่าเมื่ออยู่บนเวทีที่ได้มาตราฐาน ตัวเขาเองก็จะยิ่งฉายแสงและเผยให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้มากขึ้น

ตลอดเวลาชั่วโมงครึ่งของไลฟ์ครั้งแรกบนแผ่นดินกิมจิ The TOYS อัดเต็มเพลงของเขาแทบไม่หยุดพัก ก่อนจะปิดท้ายโชว์ด้วยเพลง ก่อนฤดูฝน ในเวอร์ชันที่เชื่อว่าแฟนเพลงเกาหลีที่เคยประทับใจเขาจากเวที 2018 Mnet Asian Music Awards (MAMA) จะยิ่งประทับใจ โดยการเพิ่มท่อนโซโล่กีตาร์แบบชุดใหญ่

ถึงตอนนี้ผู้เขียนจำได้ว่าครั้งหนึ่งทอยเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ในปีที่เข้าแข่งขัน Overdrive Guitar Contest ครั้งที่ 9 ความจริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการเป็นผู้ชนะ แต่สิ่งที่คาดหวังและตั้งใจคือการทำอย่างไรก็ได้ให้ กูธรี โกแวน และ จอห์น แมคลาฟลิน มือกีตาร์ระดับโลกที่เขาชื่นชอบ ซึ่งปีนั้นได้รับเชิญมาเป็นกรรมการตัดสิน จดจำเขาให้ได้

เช่นเดียวกันกับทุกโชว์บนเวทีวันนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ เราก็เชื่อเหลือเกินว่าแฟนเพลงเกาหลีจะต้องจดจำเขาได้มากขึ้นและมากขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากจบคอนเสิร์ต The TOYS 1st Concert Live in Seoul ในค่ำคืนที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น เชื่อเหลือเกินว่าศักยภาพในตัวเองจะพาเขาไปต่อได้อีกไกลอย่างแน่นอน

หลังจบคอนเสิร์ตยังมีโมเมนต์ไฮทัชที่เปิดโอกาสให้แฟนเพลงและผู้เข้าชมคอนเสิร์ตได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ชอบอย่างเป็นกันเอง ส่วนแฟนเพลงที่กำลังรอชมคอนเสิร์ตใหญ่ในไทยอดใจอีกนิด ภายในปีนี้มีข่าวดีแน่นอน