เดอะมอลล์ทุ่ม 3,000 ล้าน แปลงโฉมรอบ 32 ปีสู่ ‘เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ’ หวังกระตุ้นทราฟฟิกเพิ่ม 30% ดึงลูกค้าเข้ามาเดินปีละ 15 ล้านคน

ภายใต้แผน 5 ปีของ ‘เดอะมอลล์ กรุ๊ป’ ได้มีการวางงบไว้กว่า 20,000 ล้านบาทสำหรับการ ‘ปรับโฉม’ บรรดาห้างสรรพสินค้าในเครือ พร้อมรีแบรนด์จากเดอะมอลล์ ไปสู่ ‘เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์’ โดยที่แรกที่รีโนเวตคือ ‘เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน’ ซึ่งใช้งบไป 6,000 ล้านบาท

สำหรับทำเลที่สองที่ถูกพลิกโฉมคือ ‘เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ’ ถือเป็นการรีโนเวตครั้งใหญ่ในรอบ 32 ปี หลังจากที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2532 โดยทุ่มงบประมาณ 3,000 ล้านบาท พลิกโฉมใหม่ทั้งหมดทุกพื้นที่ บนพื้นที่รวมกว่า 150,000 ตารางเมตร

เหตุผลที่เลือกท่าพระเป็นแห่งที่สอง ด้วยทำเลแห่งนี้มีจุดแข็งคือเสน่ห์ของย่านเมืองเก่า วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนในชุมชนย่านฝั่งธนฯ ผสมผสานกับการขยายตัวของเส้นทางคมนาคม รถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อสองฝั่งเมือง ไม่ว่าจะเป็นย่านรัชดาภิเษก พระราม 3 – ราชพฤกษ์ สาทร ถือเป็นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง มีประชากรกว่า 1,200,000 คน 600,000 ครัวเรือน กว่า 120 โครงการคอนโดมิเนียม

แถมยังตั้งอยู่ใจกลางทำเลศักยภาพ และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของย่านฝั่งธนฯ เนื่องจากมีโครงข่ายคมนาคมเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ เป็น Transportation Hub เชื่อมต่อไปยังย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) อาทิ สีลม สาทร พระรามสี่ และตัวเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ (Urban Area) ได้อย่างสะดวก โดยมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ธันวาคม 2564

“ในช่วง 1 ปีแรกของการเปิดตัวโฉมใหม่ เราไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้มากนัก แต่สิ่งที่เราต้องการคือทราฟฟิกต้องเพิ่ม 30% วันเสาร์และอาทิตย์ต้องได้ 40,000 คนต่อวัน เดือนละ 1.2 ล้านคน และปีละ 15 ล้านคน” วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวพร้อมเสริมว่า “ที่เราอยากได้คนเดินเข้าร้านก่อน เพราะจะสร้างโอกาสในการซื้อต่อไป ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคนในพื้นที่ที่จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อให้ได้”

ในแง่ของห้างสรรพสินค้าคาดว่าจะมียอดขาย 300-400 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ฝั่งศูนย์การค้าคาดว่าจะมีค่าเช่า 380-400 ล้านบาทต่อเดือนเช่นกัน โดย “เราไม่ได้ตั้งเป้าที่สูงมากนัก เพราะเข้าใจดีว่าโควิดยังมีผลกระทบต่อทั้งกำลังซื้อและร้านค้าอยู่”

อย่างไรก็ตามจากงบสำหรับการรีโนเวต 20,000 ล้านบาท ถูกใช้ไปแล้วที่ งามวงศ์วานและท่าพระ 9,000 ล้านบาท เหลือราว 11,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกใช้สำหรับการรีโนเวตสาขาบางแคและบางกะปิ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH