×

สภาพัฒน์เผย ’63 อัตราว่างงานพุ่ง 1.69% จากเดิม 0.98% จับตาปีนี้ว่างงานยังสูง-ชั่วโมงทำงานลดกระทบกำลังซื้อ

23.02.2021
  • LOADING...
อัตราว่างงาน

ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์กล่าวว่า ปี 2563 เกิดวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการว่างงานของไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนสู่ระดับ 1.69% จากปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ราว 0.98% และชั่วโมงการทำงานโดยเฉลี่ยยังลดลง เห็นได้จากชั่วโมงการทำงานภาคเอกชนอยู่ที่ 43.2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ลดลง 5.7% จากปี 2562 ส่วนการทำงานล่วงเวลาลดลง 17.1% จากปี 2562

 

ทั้งนี้ หากดูแนวโน้มในไตรมาส 4/63 มองว่าการจ้างงานของไทยปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้น 2.2% จากการขยายแรงงานภาคเกษตร ขณะที่ทั้งปี 2563 การจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.2% แต่การว่างงานในไตรมาส 4/63 กลับอยู่ในระดับสูงที่ 1.86%

 

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนช่วงครึ่งปี 2563 พบว่าครัวเรือนมีรายได้ 23,615 บาท ปรับตัวลดลง 10.45% จากปี 2562 ที่มีรายได้ 26,371 บาท สะท้อนถึงผลกระทบรายได้ที่ลดลงของครัวเรือน และส่งผลต่อกำลังซื้อของครัวเรือนในปีนี้ด้วย

 

นอกจากนี้หนี้ครัวเรือนไตรมาส 3/63 ยังเพิ่มขึ้น 3.9% อยู่ที่ 13.77 ล้านล้านบาท ส่วนแนวโน้มหนี้ครัวเรือนไตรมาส 4/63 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแต่ไม่สูงมาก ส่วนหนึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาบ้างแล้ว แต่ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

 

  1. รายได้ประชาชน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาปรับลดลง คาดว่าปีนี้จะดีขึ้น และหากมีรายได้กลับมาใกล้เคียงเดิมอาจทำให้ความจำเป็นในการสร้างหนี้ลดลง
  2. การให้ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy ที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่องในด้านการเงิน 

 

อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด แม้ว่าคุณภาพสินเชื่อและความสามารถในการชำระหนี้จะปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน แต่ยังต้องติดตามสัดส่วนการค้างชำระหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ในส่วนสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดปีที่ผ่านมา 

 

ทั้งนี้ จากวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 มีการอนุมัติแล้ว 748,666.24 ล้านบาท หรือราว 74.9% ของวงเงินงบประมาณรวม โดยมีการเบิกจ่ายแล้วประมาณ 54.05% ของงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติทั้งหมด (404,632.25 ล้านบาท) โดยมีโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 256 โครงการ 

 

“พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทส่วนเยียวยาสามารถเบิกจ่ายได้เร็ว เพราะเป็นเงินที่ส่งถึงคน แต่งบส่วนฟื้นฟูยังมีส่วนจัดซื้อจัดจ้างมาเกี่ยวข้อง เช่น โครงการที่ลงไปจังหวัด มีเรื่อง พ.ร.บ. งบกลางถ่ายโอน แต่หน่วยงานยังไม่ทัน ซึ่งตอนนี้เงินเริ่มเบิกจ่ายแล้ว และคาดว่าหลังเดือนมีนาคมการเบิกจ่ายจะชัดเจนขึ้น” 

 

อย่างไรก็ตามวงเงินที่เหลืออยู่จากวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท อีกราว 2 แสนล้านบาท หากไม่มีการระบาดระลอกใหม่น่าจะมีการอนุมัติส่วนที่เหลือ 2 แสนล้านบาทลงพื้นที่ ในส่วนฟื้นฟู แต่ถ้ามีการระบาดระลอกใหม่ต้องรอดูว่าจะปรับใช้ในส่วนใด

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising