ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 เหลือ 2.0% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.6% โดยสาเหตุหลักมาจากการระบาดระลอกที่ 3 ที่รุนแรงจะกดดันเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ายิ่งขึ้น ซึ่งกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงปัญหาพื้นฐานของไทยให้แย่ลง โดยเฉพาะด้านการจ้างงาน
ทั้งนี้เดือนมีนาคม 2564 อัตราผู้ขอใช้สิทธิประโยชน์จากการว่างงานของแรงงานประกันสังคมอยู่ที่ระดับ 3.1% (คิดเป็น 3.5 แสนคน) เพิ่มขึ้น 2.8% จากเดือนก่อนหน้า และอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 (ปี 2015-2019) ที่อยู่ที่เพียง 1.4% (คิดเป็น 1.5 แสนคน) ขณะที่ข้อมูลเร็วพบว่าจำนวนประกาศรับสมัครงานออนไลน์บนเว็บไซต์ JobsDB.com เดือนเมษายน 2564 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตัวสะท้อนว่าตลาดแรงงานไทยอยู่ในสภาวะซบเซามีแนวโน้มจะปรับแย่ลงและอ่อนไหวมาก
อย่างไรก็ตาม ทาง SCB EIC ประเมินว่าในกรณีฐานการระบาดระลอกที่ 3 จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจราว 2.4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของ GDP เพราะการระบาดนี้และการเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ จะส่งผลกระทบต่อการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ SCB EIC จึงปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2565 เหลือ 1.5 ล้านคน
ทว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 นี้อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเชิงเทคนิค (GDP หดตัวติดกันสองไตรมาส) ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 จากผลกระทบของการระบาดระลอกที่ 2 และ 3 ซึ่งภาครัฐอาจยับยั้งการถดถอยครั้งนี้ได้หากมีการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่เศรษฐกิจที่มากพอในช่วงไตรมาส 2
ซึ่งจากแผนล่าสุดตามมติของ ครม. พบว่า จะมีเม็ดเงินที่จะเข้าสู่เศรษฐกิจในไตรมาส 2 เพียง 85,500 ล้านบาท จากมาตรการเพิ่มเงินโครงการเราชนะ และ ม33 เรารักกัน ซึ่งยังน้อยกว่าผลกระทบการระบาดระลอก 3 ที่ SCB EIC คาดการณ์ไว้ที่ 2.4 แสนล้านบาท ดังนั้นภาครัฐต้องเร่งทำโครงการเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/64 เพิ่มเติม ซึ่งบางกลุ่มหากได้รับความช่วยเหลือล่าช้า จะทำให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น เช่น การปิดกิจการที่อาจเพิ่มขึ้น และภาวะตลาดแรงงานที่อาจเปราะบาง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกของเศรษฐกิจไทยปีนี้คือ การส่งออกไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีจากทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย SCB EIC ปรับประมาณการมูลค่าส่งออกปี 2564 เป็น 8.6% เพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดไว้ที่ 6.4%
ส่วนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไปยังมีความเสี่ยง 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. ระยะเวลาในการควบคุมการระบาดระลอกที่ 3 ที่อาจนานกว่าคาด รวมทั้งการระบาดรอบใหม่อาจเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ยังมีการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ และ 2. ความล่าช้าในการฉีดวัคซีน และประสิทธิภาพของวัคซีนที่อาจมีไม่สูงพอ โดยเฉพาะกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
