ปรากฏการณ์ ‘ยุคแมวครองเมือง’ กำลังเขย่าวงการธุรกิจสัตว์เลี้ยงไทย! มูลค่าตลาดพุ่งทะลุ 75,000 ล้านบาท แถมยังเป็นครั้งแรกที่เปอร์เซ็นต์การเติบโตของตลาดแมวแซงหน้าสุนัข 31.6% เรียกได้ว่าเจ้าเหมียวกำลังก้าวขึ้นมาเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน
กุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยและทั่วโลกยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) พบว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยปี 2567 ที่ผ่านมามีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 75,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 12.4% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่ต้องจับตาคือการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในโครงสร้างตลาด โดยเมื่อต้นปี 2567 กลุ่มคนเลี้ยงสุนัขยังนำหน้าด้วยอัตราการเติบโตที่ 40.4% ขณะที่ตลาดแมวเติบโตใกล้เคียงที่ 37.1%
แต่มาถึงปี 2568 จากสถิติที่รวบรวมโดยอิมแพ็คฯ จากการจัดงาน Thailand International Pet Variety Exhibition พบว่า ตลาดคนเลี้ยงสุนัขเติบโตที่ 31.6% ขณะที่ตลาดแมวเติบโตถึง 32.1% ทำให้ตลาดแมวแซงหน้าตลาดสุนัขเป็นครั้งแรก
อิมแพ็คฯ ยังลงลึกเกี่ยวกับตลาดแมวในประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยมีประชากรผู้เลี้ยงแมวมากเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยจังหวัดที่มีการเลี้ยงแมวสูงสุด ได้แก่ นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรสงคราม ข้อมูลระบุว่า จำนวนประชากรแมวในประเทศไทยอยู่ที่ 3,337,458 ตัว สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก
ในด้านค่าใช้จ่าย พบว่าคนไทยใช้จ่ายเพื่อเจ้าเหมียวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 14,200 บาทต่อปี หรือประมาณ 1,183 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการรับเลี้ยงแมวจรเพิ่มขึ้นกว่า 14% นับตั้งแต่ปี 2562 และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนในระดับโลก Fortune เว็บไซต์วิเคราะห์ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ และการเงิน ได้เปิดเผยงานวิจัยเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า ตลาดแมวทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง
น่าสนใจอย่างยิ่งคือแม้ว่าหลายคนในกลุ่ม Gen Z จะยังไม่มีบ้านหรือครอบครัว แต่กลับให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก โดยพบว่า 74% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในกลุ่มนี้เลือกทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
พฤติกรรมการ ‘ทุ่มทุน’ ให้เจ้าเหมียวของชาว Gen Z ทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูงลิ่ว โดยใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 72,624 บาทต่อปี หรือประมาณ 6,052 บาทต่อเดือน โดยแบ่งเป็น ค่าอาหารสัตว์เลี้ยง ค่าของเล่น ค่ากรูมมิ่ง และค่ารักษาพยาบาล เช่น พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ, ค่าฉีดวัคซีนประจำปี, ค่าวิตามิน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังพบว่า เจ้าของแมวจำนวนมากยินดีจ่ายเงินสูงถึง 10,200 บาทในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าผ่าตัด ค่ารักษาอาการบาดเจ็บกรณีเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนค่าเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ และการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ
‘อาณาจักรแมว’ ที่กำลังเติบโตนี้ไม่เพียงเปลี่ยนโฉมหน้าวงการธุรกิจสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ยังบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มองหาความผูกพันและการดูแลเอาใจใส่ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม วันที่แมวครองเมืองอาจไม่ไกลเกินรอ