×

EXCLUSIVE: กองทุน TFFIF สูญเสียรายได้ราว 100 ล้านบาท หลัง ‘กระทรวงคมนาคม’ สั่งชะลอขึ้นค่าทางด่วนฉลองรัช-บูรพาวิถี เป็นเวลา 6 เดือน

26.08.2023
  • LOADING...

กองทุน TFFIF โดนผลกระทบหลังกระทรวงคมนาคมมีคำสั่งชะลอขึ้นค่าทางด่วนฉลองรัช-บูรพาวิถีเป็นระยะเวลา  6 เดือน เพื่อลดค่าค่าครองชีพของประชาชน ทำรายได้กองทุนหาย 100 ล้านบาท ทำปันผลลด 1 สตางค์  

 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย และ บลจ.เอ็มเอฟซี หรือในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFFIF แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่สัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการทางพิเศษฉลองรัชและโครงการทางพิเศษบูรพาวิถี กำหนดให้มีการพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทาง 

 

โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีหน้าที่ในการดำเนินการให้ปรับอัตราค่าผ่านทางตามกระบวนการปรับอัตราค่าผ่านทางที่ระบุในสัญญาและกฎหมายนั้น

 

กทพ. ได้นำเรื่องการปรับอัตราค่าผ่านทางของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีปี 2566 ที่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการของ กทพ. เสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา และได้มีการลงนามในประกาศกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน กระทรวงคมนาคมจึงได้สั่งการให้ กทพ. ชะลอการปรับอัตราค่าผ่านทางของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีสำหรับผู้ใช้บริการที่ใช้ระบบเงินสดและระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ (ETCS) เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

 

TFFIF สูญรายได้ 100 ล้านบาท ฉุดปันผลลด 1 สตางค์

 

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า กรณีที่ กทพ. ชะลอการปรับอัตราค่าผ่านทางของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี จากเดิมที่ต้องปรับขึ้นในอัตรา 5 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ โดยให้เลื่อนไปผลในตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ในช่วง 6 เดือนดังกล่าว จากการสอบถามข้อมูลผลกระทบจากผู้จัดการกองทุน TFFIF จากกรณีนี้

 

ล่าสุดได้ให้ข้อมูลว่า TFFIF จะสูญเสียรายได้รวมประมาณ 100 ล้านบาท จากผลกระทบที่มีการชะลอปรับขึ้นค่าผ่านทางทั้ง 6 เดือนดังกล่าวในครั้งนี้ โดยรายได้ที่หายไปมีสัดส่วนต่ำกว่า 5% ของรายได้ของกองทุน TFFIF อยู่ที่ประมาณ 2.1-2.2 ล้านบาทต่อปี โดยประเมินผลกระทบที่จะเกิดที่จำกัด

 

อีกทั้งหลังครบระยะเวลา 6 เดือนที่มีการชะลอขึ้นค่าผ่านทางในรอบนี้แล้วตามเงื่อนไขจะสามารถปรับขึ้นค่าผ่านทางได้ทันทีตามอัตราเดิม โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง

 

อย่างไรก็ดี อาจจะมีผลกระทบให้กองทุน TFFIF ต้องปรับประมาณกำไรลดลงเล็กน้อย อีกทั้งคาดว่าจะมีผลกระทบให้จ่ายเงินปันผลได้ลดลงประมาณ 1 สตางค์ต่อหน่วยต่อไตรมาสได้ ตามรายได้ของกองทุนจะมีรายได้ที่ลดลง แต่ยังคงแนะนำ ‘ซื้อ’ ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 9.70 บาท

 

ด้านการเคลื่อนไหวราคา TFFIF วันนี้ (25 สิงหาคม) ปิดการซื้อ-ขายที่ 7.45 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.67% 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising