Tesla Inc. ถูกฟ้องร้องจากลูกค้าที่อ้างว่าพวกเขาถูกบังคับให้จ่ายในราคาที่แพงเกินไปและต้องทนรอซ่อมรถเป็นเวลานาน เนื่องจากการผูกขาดชิ้นส่วนอะไหล่และบริการบำรุงรักษา
การเรียกร้องต่อต้านการผูกขาดถูกกล่าวหาในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่ยื่นฟ้องในศาลรัฐบาลกลางซานฟรานซิสโก ในนามของผู้อยู่อาศัยในแคลิฟอร์เนีย 2 คนที่เป็นเจ้าของรถยนต์ Model S
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตา ‘Tesla Insurance’ ประกันรถสุดล้ำที่อาจเข้ามาดิสรัปต์วงการในอนาคต
- GM คู่แข่ง Tesla ‘ระงับโฆษณาชั่วคราว’ หลัง Twitter มีเจ้าของใหม่เป็น ‘อีลอน มัสก์’ ส่วนแบรนด์อื่นขู่ถอนเช่นกันหากยกเลิกการแบน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’
- อีลอน มัสก์ เชื่อว่ายอดขายรถยนต์ EV ปีนี้จะแตะ 2 ล้านคัน หลัง Tesla จุดชนวนสงครามราคา
พวกเขาโต้แย้งว่าเจ้าของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมมีตัวเลือกมากมายสำหรับการบำรุงรักษาและการซ่อมแซม หรือจะดำเนินการเอง เพราะการซ่อมแซมเหล่านั้นสามารถพึ่งพาชิ้นส่วนจากผู้ผลิตดั้งเดิมหรือชิ้นส่วนที่ผลิตโดยบริษัทอื่นก็ได้
ในทางกลับกันเจ้าของ Tesla มีเพียงทางเลือกเดียวคือ นำรถเข้ารับบริการโดยบริษัทหรือเครือข่ายศูนย์บริการที่ได้รับการอนุมัติจาก Tesla โดยใช้ชิ้นส่วนของ Tesla เท่านั้น
ทำให้การฟ้องครั้งนี้ใช้เหตุผลจากการอ้างถึงกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของรัฐบาลกลาง ซึ่งโต้แย้งว่าข้อจำกัดนี้เกิดจากการที่ Tesla ใช้ประโยชน์จากอำนาจในการเข้าควบคุมบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษา
Tesla รายงานรายได้จากบริการและยานยนต์อื่นๆ มูลค่า 6.09 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการใช้ซูเปอร์ชาร์จเจอร์แบบชำระเงิน บริการประกันภัย และการขายสินค้า
ยักษ์ยานยนต์ไฟฟ้าเลือกใช้วิธีที่แตกต่างจากค่ายรถยนต์แบบตั้งเดิมที่จะจำหน่ายผ่านตัวแทน แต่ Tesla จะจำหน่ายโดยตรง ขณะที่จะมีการเปิดร้านค้าหรือแกลเลอรีในสถานที่ที่มองเห็นได้ซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมาก เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาดูสินค้าจริงแทน
คดีฟ้องร้องระบุว่าแนวทางปฏิบัติของ Tesla ทำให้เจ้าของรถ “ต้องทนทุกข์ทรมานกับความล่าช้าในการซ่อมหรือบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าของตนเป็นเวลานาน โดยต้องยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้นอีกต่างหาก”
อ้างอิง: