×

‘IoT Digital Transformation Platform for Digital Nation’
จาก ‘สวิฟท์ ไดนามิคส์’ ไอโอทีแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยคนไทย 100% พร้อมที่จะเป็น National IoT Infrastructure หลักของประเทศ และช่วยให้องค์กรเข้าสู่โลกดิจิทัลได้อย่างราบรื่น

โดย THE STANDARD TEAM
24.03.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ‘Digital Transformation’ กลายมาเป็นคำตอบที่จะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่มีเทคโนโลยีมาเป็นแรงผลักดันสำคัญ
  • เพื่อเข้ามาตอบโจทย์เรื่องดังกล่าว ‘สวิฟท์ ไดนามิคส์’ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Technology) และผู้เชี่ยวชาญด้าน IoT จึงได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Digital Transformation แบบครบวงจรที่สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี 5.0 ต่างๆ
  • เป้าหมายของสวิฟท์ ไดนามิคส์ คือการวางโครงสร้างพื้นฐานด้าน IoT ให้กับประเทศไทย ให้ทุกๆ ธุรกิจและคนไทยทุกคนได้เข้าถึง IoT ได้จากทุกที่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย รวมไปถึงวางแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทไทยในเวทีระดับนานาชาติ

เมื่อโลกขยับเข้าสู่การเป็น ‘ดิจิทัล’ อย่างเต็มตัว ‘เทคโนโลยี’ จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากที่จะทำให้องค์กรสามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างแข็งเกร่ง ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มผลกำไรในอนาคต 

 

‘Digital Transformation’ จึงกลายมาเป็นคำตอบที่จะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมีเทคโนโลยีมาเป็นแรงผลักดันสำคัญ ผลสำรวจที่จัดขึ้นโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยร่วมกับ PacRim และ AMPOS พบว่า Digital Transformation มีความสำคัญเป็นอันดับแรก และผู้ทำแบบสอบถามมองว่า การเปลี่ยนแปลงกำลังมีขึ้นในอัตราความเร็วสูงสุด

 

เพื่อเข้ามาตอบโจทย์เรื่องดังกล่าว ‘สวิฟท์ ไดนามิคส์’ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านด้าน IoT จึงได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Digital Transformation แบบครบวงจรที่นำ IoT มาเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี 5.0 ต่างๆ

 

เพื่อให้การใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจในทุกมิติในเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเหมาะกับพฤติกรรมในเมืองของคน (Urban Lifestyle) ในโลกยุคดิจิทัล

 

 

คุณนิกม์ เจริญสวัสดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท แสดงความเห็นว่า “ในอนาคตอันใกล้ IoT จะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย สวิฟท์ ไดนามิคส์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน IoT จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเป็น Infrastructure หลักทางด้าน IoT ของประเทศ เปิดทางให้ทุกธุรกิจที่ต้องการทรานส์ฟอร์มตัวเองเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเทียบเท่าต่างประเทศ ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี IoT และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม เช่น Positioning Tracking และ Augmented Reality (AR) ได้อย่างทั่วถึง”

 

 

ดร.นที สิงหพุทธางกูร ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “IoT Digital Transformation Platform ของสวิฟท์ ไดนามิคส์ เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยทีมงานคนไทยทั้งหมด ทำให้เข้าใจความต้องการขององค์กรไทยได้เป็นอย่างดี แพลตฟอร์มของเรารองรับการเชื่อมต่อกับ IoT เซ็นเซอร์ทุกประเภท รวมถึงการสื่อสารแบบไร้สายทุกระบบ ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีเซ็นเซอร์เดิมอยู่แล้วได้ สวิฟท์ ไดนามิคส์ หวังว่าแพลตฟอร์มของเราจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบแท้จริง เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่โลกยุค Metaverse และ Web 3.0 ในอนาคตอันใกล้”

 

ใครๆ ก็สามารถใช้ IoT Digital Transformation Platform ตั้งแต่บริษัทในวงการอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เกษตรกรรม ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน การขนส่ง และอื่นๆ โดยแพลตฟอร์มแบ่งออกเป็น 3 โมดูล ได้แก่

 

 

1. Sentenance IoT เป็นระบบ IoT ซึ่งสามารถนำไปใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ เพื่อแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านเซ็นเซอร์ไร้สาย มีฟังก์ชันควบคุมอัตโนมัติและการแจ้งเตือนอัจฉริยะ รองรับข้อมูลได้ไม่กำจัดผ่านโครงข่าย IoT Infrastructure ของ Sentenance ซึ่งครอบคลุมการเชื่อมต่อได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย 

 

 

2. iSentenance Smart Urban Living เป็นโซลูชันสมาร์ทโฮมสำหรับผู้ใช้งานยุคดิจิทัลที่อยากนำ IoT ไปใช้กับที่อยู่อาศัยรวมถึงออฟฟิศสำนักงาน รองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

 

 

3. Sitearound Project and Construction Management แพลตฟอร์มบริหารโครงการที่มีฟีเจอร์ครบครัน ใช้ได้กับโครงการทุกรูปแบบ และสามารถเชื่อมต่อกับ IoT เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของงานได้ในทุกมิติ เหมาะสำหรับองค์กรที่กำลังวางแผนจะปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Construction

 

ปัจจุบันมีผู้ใช้แพลตฟอร์มของสวิฟท์ ไดนามิคส์ มากกว่า 50 บริษัท ตั้งแต่บริษัทขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่ และมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นบริษัทชั้นนำในไทยอีกมากมาย

 

รวมไปถึงการวางแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทไทยในเวทีระดับโลก เทียบเท่า Slack, Helium, LinkedIn และอื่นๆ โดยเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นขั้นแรก โดยได้มีการเซ็น MOU กับลาวเทเลคอม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและขยายตลาด IoT สู่ สปป.ลาว และบริษัทอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

 

ผู้สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ swiftdynamics.co.th  

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising