สำนักข่าว Al Jazeera รายงานว่า ทางการมาเลเซียได้ยึดนาฬิกาจากบริษัท Swatch ซึ่งผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อฉลองเดือน Pride Month ที่จะถึงนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิของชาว LGBTQIA+ ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
บริษัท Swatch ออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าววานนี้ (23 พฤษภาคม) โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 13-14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปที่ร้านค้าของ Swatch ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า 11 แห่งของมาเลเซีย ก่อนที่จะยึดนาฬิกาทั้งหมด 164 เรือน รวมมูลค่า 14,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 4.8 แสนบาท
สำหรับนาฬิกาที่เป็นปัญหาอยู่นี้ ทาง Swatch ได้ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับกิจกรรม Pride Month ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยเป็นนาฬิกาสีสันสดใสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธงสีรุ้ง สัญลักษณ์ของความหลากหลายทางเพศ โดยทาง Swatch กล่าวว่านาฬิการุ่นนี้คือ ‘ตัวแทนของการเฉลิมฉลองความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและความหลากหลายที่ทำให้สังคมของเราแข็งแกร่งมากขึ้น’
นิก ฮาเย็ก (Nick Hayek) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Swatch ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามว่าข้อความแห่งสันติภาพและความรักจะเป็นอันตรายต่อสังคมได้อย่างไร
ด้านเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซียระบุว่า นาฬิกา Swatch จำนวน 22 เรือนที่มีองค์ประกอบที่สื่อถึง LGBTQIA+ ถูกยึดมาได้จากร้านค้าแห่งหนึ่งของ Swatch ตามหมายเรียกที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติการพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ปี 1984 ขณะที่ Swatch กล่าวว่าทางบริษัทมีแผนจะเติมสต๊อกนาฬิกาและวางจำหน่ายต่อไปในมาเลเซีย
สำหรับมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรราว 60% เป็นชาวมุสลิม การมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลเพศเดียวกันถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และห้ามชาวมาเลย์-มุสลิมแสดงออกทางเพศที่ขัดต่อหลักคำสอนของอิสลาม โดยวานนี้ สมาชิกรัฐสภา 2 คนจากพรรค Pan-Malaysian Islamic Party (PAS) กล่าวว่า ผู้มีความหลากหลายทางเพศควรถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้มีอาการป่วยทางจิต
ภาพ: pio3 Via Shutterstock
อ้างอิง:
