×

ผอ.ซูเปอร์โพลชี้ เพื่อไทยมีโอกาสแลนด์สไลด์ได้ หลังผลสำรวจพบเหนือ-อีสานคะแนนนำสูง และมีโอกาสได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อมากสุด

โดย THE STANDARD TEAM
06.11.2022
  • LOADING...

วันนี้ (6 พฤศจิกายน) ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง เพื่อไทย แลนด์สไลด์ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อน แก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบ และเครื่องมือวัด จำนวน 1,643 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

 

พบว่า ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งด้วยจำนวนที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ หรือจำนวน ส.ส. จากพรรคการเมืองมากที่สุด คือ 25 ที่นั่ง และอาจสูงขึ้นถึง 30 ที่นั่ง ในการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ

 

รองลงมาคือพรรคภูมิใจไทย ประมาณการว่าจะได้ 21 ที่นั่ง และอาจจะสูงถึง 26 ที่นั่ง ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ คาดว่าจะได้ 16 ที่นั่ง หรืออาจจะสูงถึง 21 ที่นั่ง โดยยังไม่มีปัจจัยย้ายพรรคของ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ และความขัดแย้งจนแพแตกแยกทางกันเดินระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เกิดขึ้นเพิ่มเติม

 

อันดับที่สี่และอันดับที่ห้าสูสีกันคือพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคก้าวไกล โดยพรรคประชาธิปัตย์คาดว่าจะได้ 11 ที่นั่ง และพรรคก้าวไกลคาดว่าจะได้ 9 ที่นั่ง เป็น ส.ส. ส่วนของพรรคการเมือง ตามด้วยส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา 3 ที่นั่ง และพรรคการเมืองอื่นๆ จำนวน 10 ที่นั่ง และมีจำนวนที่นั่งที่อาจจะเทไปให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งอีกจำนวน 5 ที่นั่ง

 

ที่น่าสนใจคือ เมื่อจำแนกตามภูมิภาค พบว่า พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 45.6 รองลงมาคือภาคเหนือ ร้อยละ 32.9 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร้อยละ 29.6 ในภาคกลาง ร้อยละ 8 และในภาคใต้ ร้อยละ 6.3 ตามลำดับ

 

ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยได้ในภาคกลางมากที่สุดคือ ร้อยละ 26.2 ภาคใต้ ร้อยละ 24 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 21.2 กทม. ร้อยละ 19.3 และภาคเหนือ ร้อยละ 7.8 ตามลำดับ

 

สำหรับพรรคพลังประชารัฐในเงื่อนไขว่ายังไม่มีการย้ายพรรคของ ส.ส. และยังไม่เกิดความขัดแย้งจนแพแตกแยกทางกันเดินระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ พบว่า ภาคใต้ ร้อยละ 26 ภาคกลาง ร้อยละ 25.8 กทม. ร้อยละ 13.3 ภาคเหนือ ร้อยละ 7.8 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 5.8 ตามลำดับ

 

ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ ร้อยละ 24.3 ภาคกลาง ร้อยละ 11.5 ภาคเหนือ ร้อยละ 11.2 กทม. ร้อยละ 7.4 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 3.7 ตามลำดับ

 

ส่วนพรรคก้าวไกลกระจายไปได้ในภาคเหนือมากที่สุด ร้อยละ 14 กทม. ร้อยละ 9.6 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 8.7 ภาคกลาง ร้อยละ 8.2 และภาคใต้ ร้อยละ 4.9 ตามลำดับ

 

ผศ.ดร.นพดลกล่าวด้วยว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นความชัดเจนว่าพรรคการเมืองเด่นๆ ที่ค้นพบในการสำรวจครั้งนี้อยู่ที่พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ (บนเงื่อนไขของการย้ายพรรคและความขัดแย้งจนแพแตกแยกทางกันเดินระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ) พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ อาจเป็นพรรคการเมืองที่ต้องควบรวมสร้างอำนาจต่อรองการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตหลังการเลือกตั้งได้

 

ผศ.ดร.นพดลกล่าวต่อไปว่า เพื่อไทยแลนด์สไลด์จะเป็นภาพที่ไม่เกินความเป็นจริง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในภาคอื่นๆ ที่น่าจับตามองคือภาคใต้ จะกลายเป็นสนามรบแรง 3 พรรค พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ในขณะที่ กทม. จะขึ้นกับกระแสเป็นหลัก ที่โดดเด่นคือพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และที่น่าจับตามองมากที่สุดในสนาม กทม. คือ พรรคก้าวไกล สำหรับพื้นที่ภาคเหนือจะตกเป็นของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลที่โดดเด่น ส่วนภาคกลางจะกระจายกันไปหลายพรรค แต่ที่เด่นขึ้นมาคือพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้าแพแตกก็ค่อยว่ากันอีกภาพหนึ่ง

 

“แต่มีสัญญาณจากข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งชี้ให้เห็นว่ามีความน่าจะเป็น ‘ชัชชาติเอฟเฟกต์’ ที่ทำให้คู่แข่งขันทางการเมืองแตกกระจายเป็นส่วนย่อยๆ ไร้พลังสู้ เกิดขึ้นในการสู้รบทางการเมืองระดับชาติได้คือ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เข้มแข็ง ในขณะที่พรรคคู่แข่ง เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกปั่นกระแสทำลายให้อ่อนแอ ทั้งจากภายในฝ่ายรัฐบาลเอง ฝ่ายค้าน และฝ่ายอื่นๆ จึงอาจจะเห็นภาพเพื่อไทยแลนด์สไลด์เกิดขึ้นได้จริงก็เป็นไปได้ เหมือนชัยชนะที่ชัชชาติทำได้มาแล้ว” ผศ.ดร.นพดลกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising