แค่ได้ยินว่า ‘โซดาสิงห์’ แบรนด์ที่เต็มไปด้วยพลังของความสดใหม่ ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้จะอยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน แบบฉบับของ ‘ความซ่าตัวจริง’ จะจับมือกับ Dry Clean Only แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ที่หยิบเสื้อเก่ามาดัดแปลงใหม่จนไปไกลระดับโลก เปิดตัว Limited Edition รู้เลยว่าคอลเล็กชันนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

เพราะโซดาสิงห์เขาเป็นตัวจริงเรื่องไอเดียว้าวซ่าไม่สิ้นสุด DNA ของแบรนด์ก็ย้ำชัดแล้วว่า ‘อยู่ที่ไหนก็ซ่าได้’ และไอเดียซ่าๆ ที่เพิ่งไปชวน มิสเตอร์การ์ตูน ศิลปินช่างสักระดับโลก ออกแบบฉลากลิมิเต็ดเอดิชัน กระแสความซ่าก็ยังไม่จางหาย Limited Edition ที่จับมือกับ Dry Clean Only ในครั้งนี้จึงยิ่งตอกย้ำแบรน์ที่ไม่เคยหยุดซ่า

ด้าน Dry Clean Only แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยที่ดังไกลไปทั่วโลกแถมยังมีความซ่าไม่น้อยหน้ากัน ด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ เสื้อผ้าทุกตัวจะมีความสนุก แปลก แหวกแนว ไม่ต่างอะไรกับงานศิลปะที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ ถึงขนาดดาราระดับฮอลลีวูดอย่าง Beyonce, Rihanna และ Camila Cabello เป็นแฟนแบรนด์ตัวจริง

เบสท์-ปฏิพัทธ์ ชัยภักดี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dry Clean Only บอกว่า ซิกเนเจอร์ของแบรนด์คือความสนุกและการใส่ใจในการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตกว่าจะออกมาเป็นเสื้อหนึ่งตัว “จริงๆ ซิกเนเจอร์ของแบรนด์อาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่เราหาแรงบันดาลใจที่ได้มาจากทุกอย่างรอบตัว การใช้ชีวิต คนรอบตัว เพื่อนที่ชอบฟังในช่วงนั้นๆ สถานที่ที่ไป ทุกอย่างเป็นแรงบันดาลใจของเราได้หมด อย่างการหาวัสดุก็พยายามหาวัสดุแปลกๆ หรือที่มีอยู่แล้วในท้องตลาดก็ได้ แต่จะนำมาใช้ในรูปแบบใหม่ๆ หรือวางในตำแหน่งใหม่ๆ”

Dry Clean Only เป็นแบรนด์แรกๆ ของไทยที่สนใจแนวคิด Upcycle หรือการนำเสื้อผ้าเก่ามาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานใหม่ แต่สำหรับเบสท์ แนวคิด Upcycle ของแบรนด์ไม่จำกัดที่ของเก่าเสมอไป ของใหม่บางชนิดก็นำมาทำงานได้ แค่ต้องนำมาผสมในสัดส่วนที่ลงตัว ความชัดเจนในจุดยืนของแบรนด์จึงนำไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนด้วยเช่นกัน

“คาแรกเตอร์ลูกค้าของเราคือต้องมีความมั่นใจ อย่างที่บอก งานของเราบางครั้งก็นำเสื้อผ้าหรือของเก่ามาใช้ มันก็จะมีจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สมบูรณ์ เช่น เสื้อขาด เสื้อดำ เสื้อเป็นรู คนที่เลือกหยิบเสื้อผ้าเรามาใส่จะรู้ว่าความไม่เพอร์เฟกต์คือเสน่ห์”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ Dry Clean Only ที่ Collab กับแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นหรือแบรนด์ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เบสท์บอกว่า ความท้าทายคือการสร้างเอกลักษณ์ของการ Collab ขึ้นมาให้ได้ “มันต้อง Win Win ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ของแบรนด์เราและแบรนด์ที่เราทำงานด้วยเพื่อหาตรงกลาง โดยที่ไม่ให้สูญเสียความเป็นแบรนด์เราและส่งเสริมอีกแบรนด์ มันต่างจากการดีไซน์งานของตัวเองแน่นอน เพราะเราต้องไปศึกษาประวัติและคาแรกเตอร์ของแบรนด์นั้นๆ มาตีโจทย์ อะไรทำได้ อะไรไม่ควรทำ สีไหนใช้ไม่ได้ และใครคือกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ เป็นกลุ่มเดียวกับแบรนด์เราหรือเปล่า ทุกอย่างถูกนำมาคิดก่อนจะร่างแบบออกมา

“อย่างการทำงานกับโซดาสิงห์ สำหรับเรารู้สึกสนุกมาก เพราะ DNA ของแบรนด์เขาสนุกและเปิดกว้าง เราเลยได้ Explore ไอเดียได้เยอะและไกลมากๆ สำคัญที่สุดคือแบรนด์ไม่จำกัดอะไรเราเลย ให้อิสระกับเราเต็มที่ เลยยิ่งทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นคอลเล็กชันที่เราสนุกกับการทำงานมาก

“เราเลือกเล่นกับความคลาสสิกของโลโก้สิงห์ เพราะเราโตมากับโลโก้นี้ และสิงห์คือ Thai Pride เป็นความภูมิใจของเรา ความวินเทจของแบรนด์ ของโลโก้ ยิ่งพอเอาโลโก้สิงห์มาวางบนเสื้อยืดวินเทจที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรา เลยกลายเป็นความลงตัว Win Win เหมือนที่บอก”

เบสท์ยังบอกด้วยว่า งานทุกชิ้นใน The Infinite Mix Collection ยังคงเป็นไอเท็มที่ยูนีก เพราะทำมือทุกชิ้น ผลิตจากวัสดุ เนื้อผ้า และมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ทำให้เสื้อผ้าทุกตัวมีเรื่องราวและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ทั้งแนวคิดและวิธีการทำงานที่บาลานซ์ระหว่างศิลปะกับการตลาดได้อย่างลงตัว ไม่แปลกที่แบรนด์ Dry Clean Only จะดังไกลระดับโลก เบสท์ฝากถึงดีไซเนอร์หรือแบรนด์ที่ต้องการก้าวไปตลาดโลก จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีภาพที่ชัดว่าอยากเห็นใครใส่เสื้อเรา อยากเห็นเสื้อเราขายที่ไหน และเป็นตัวของตัวเอง “หาตัวเองให้เจอครับ เพราะตัวเลือกในตลาดต่างประเทศมีเยอะมาก คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าคนจะซื้อเสื้อเราเพราะอะไร ทำไมเขาจะต้องเลือกเรา ดังนั้นสไตล์และเอกลักษณ์ของแบรนด์ต้องแข็งแรงไม่ว่าคุณจะทำตลาดในไทยหรือต่างประเทศ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของขั้นตอนการทำงาน ต้องมีทีมที่ดีและการมีพาร์ตเนอร์ที่ดีก็ช่วยได้มากเช่นกัน”

The Infinite Mix Collection ไอเท็ม Limited Collection ‘ความซ่าผสมได้ไม่สิ้นสุด’ ของ ‘โซดาสิงห์’ และ Dry Clean Only ในครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นเพื่อตอกย้ำจุดยืนของการเป็นแบรนด์น้ำโซดาแบรนด์แรกของไทยที่นำเสนอสินค้าคุณภาพแบบฉบับ ‘ความซ่าตัวจริง’ จนได้รับการยอมรับว่าเป็น Iconic Brand ที่มาพร้อมภาพลักษณ์สดใหม่ ไม่เคยหยุดนิ่ง เต็มไปด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดแนวคิดในฐานะ ‘The Best Mixer’ แบรนด์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค สานต่อแคมเปญ Mix Infinity ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี สู่การสร้างสรรค์คอลเล็กชันสุดพิเศษในรูปแบบ Everyday Fashion Items นำโลโก้ ‘โซดาสิงห์’ ไปผสมกับกลิ่นอายวินเทจของแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น Dry Clean Only ดีไซน์ให้อยู่บนเสื้อยืด แจ็กเก็ต และเสื้อกันหนาว ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ทั้งลวดลาย สี ขนาด เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว

วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกแล้ววันนี้ทาง https://singhasodacollection.com