สิงคโปร์ประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ติดอยู่ในมิชลิน ไกด์เป็นครั้งแรกก่อนหน้าบ้านเราไปเมื่อปี 2016 ทำให้ซีนร้านอาหารแดนลอดช่องคึกคักเป็นพิเศษ แต่ถึงกระนั้นเทรนด์อาหารใหม่ที่กำลังมาแรงในสิงคโปร์กลับไม่ใช่ร้านที่อยู่ในไกด์บุ๊กของมิชลิน แถมยังไม่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารเสียด้วยซ้ำ
ปี 2017 กลับเป็นปีที่เหล่าเชฟต่างพร้อมใจกันเปิดบ้าน เชิญคนรักอาหารเข้าไปรับประทานอาหารฝีมือเชฟอย่างใกล้ชิด หรือในสไตล์ Chef’s Table ในราคาที่ย่อมเยากว่าหากกินในภัตตาคาร โดยเชฟจะจัดเตรียมมื้ออาหารเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากร้านอาหาร นั่นคือการทำอาหารสดใหม่ที่บ้าน โดยจัดลิสต์เมนูความอร่อยที่ทำขึ้นเอง และหมุนเวียนเปลี่ยนทุกวันขึ้นอยู่กับความพอใจของเชฟหรือแขกที่จองโต๊ะมาล่วงหน้า
สำหรับเมืองอย่างสิงคโปร์ที่คับคั่งไปด้วยร้านอาหารหรูและตัวเลือกในการกินดื่มชั้นยอดอย่างหลากหลายแล้ว นี่ถือเป็นการเปิดประสบการณ์กินดื่มที่น่าตื่นเต้น เพราะคนกินได้ใช้เวลาใกล้ชิดกับเชฟผู้ปรุงอาหารในบรรยากาศที่เป็นกันเองมากขึ้นอีกด้วย
Lynnette’s Kitchen
หนึ่งในผู้นำเทรนด์อาหาร Private Dining ของสิงคโปร์ คือ Lynnette’s Kitchen นำโดยเชฟลินเนตต์ เซียห์ นักไวโอลินที่เป็นที่รู้จักประจำวง Singapore Symphony Orchestra โดยเธอจะเปิดประตูต้อนรับแขกจำนวน 17 คนในอพาร์ตเมนต์ย่านเตียงบาห์รู ปรุงอาหารยุโรปผสมเปอรานากัน ที่มีตั้งแต่ริซอตโตเห็ดไปจนถึงข้าวผัดบัวห์ เคลวก ซึ่งเป็นเมนูบ้านๆ ที่หาไม่ได้ในร้านอาหารชั้นยอด นอกจากนี้ว่ากันว่าวันดีคืนดีเธออาจโชว์ไวโอลินหลังจบอาหารหวานให้ได้ชมอีกด้วย
Fatfuku
Fatfuku คืออีกร้านอาหาร นำโดยนักเขียนอาหารชาวสิงคโปร์ แอเน็ตต์ ทัน ผู้เกิดโตในสังคมเปอรานากัน แต่คลุกคลีอยู่กับเพื่อนชาวลูกครึ่งยุโรปเอเชีย ทำให้อาหารของแอเน็ตต์มีความแตกต่าง อาทิ สแปมกับซุปกะหล่ำปลี หรือแกงกะหรี่เผ็ดร้อนถึงใจที่เธอเผยว่า “เมนูแบบนี้หารับประทานยากเว้นแต่จะไปกินที่บ้านคนรู้จัก”
Lynnette’s Kitchen
แต่หากคิดว่าคราวหน้าที่ไปสิงคโปร์คุณจะเดินเข้าไปฝากท้องที่บ้านของเชฟสักคนแล้วล่ะก็ อาจต้องคิดใหม่ เพราะเทรนด์นี้หาใช่ทุกคนจะได้รับสิทธิ์ เพราะกว่าจะได้เดินผ่านเข้าประตูบ้านของเชฟส่วนตัวเหล่านี้ คุณอาจต้องส่งอีเมลซ้ำแล้วซ้ำอีก ทิ้งข้อความในวอยซ์เมล กระทั่งร่อนจดหมายส่วนตัว หรืออ้างอิงบุคคลที่แนะนำให้คุณรู้จักชื่อเชฟก็เป็นได้ โดยมักใช้เวลาจองล่วงหน้าราวๆ 2-4 สัปดาห์ (น้อยกว่าจองคิวไปกิน Gaggan เสียอีก) แต่เมื่อได้รับบัตรเชิญแล้วล่ะก็ คนที่เคยไปว่ากันว่าคุ้มค่าแก่ความยากลำบากในการสำรองที่นั่ง เพราะนอกเหนือจากอาหารอร่อยๆ สไตล์ Home Cooking แล้ว คุณจะยังได้รับประสบการณ์ดีๆ ที่แตกต่างจากการรับประทานอาหารเดิมๆ อีกด้วย
ส่วนใครไม่อยากบินไปไกลถึงแดนลอดช่อง สามารถลองรับประสบการณ์อินเทรนด์แบบสิงคโปร์ที่บ้านเรามีมาสักพักแล้วได้ที่นี่
Chef’s Table by Chef Art
อาหารตะวันตกโดยเชฟอาร์ต-ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ อดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นเชฟอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ ก่อนกลับมาเป็นที่ปรึกษาด้านอาหารให้เครือบุญรอด
รายละเอียด: instagram.com/cheftablebychefart
The Table by Chef Pam
อาหารฝรั่งเศส อเมริกัน และเอเชีย ฝีมือเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม เชฟเจ้าของรางวัล Asia’s Youth Hope Cooking Competition 2011
รายละเอียด: The Table — BY CHEF PAM
หรือประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Private Dining
Gula
อาหารสเปนและยูโรเปียนอาว็องการ์ดฝีมือเชฟจาโคโบ อาสเตรย์ อดีตเชฟร้าน elBulli ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลินในสเปน
รายละเอียด: gulabangkok.com
Storehouse Dining
อาหารตะวันตกแนวคอนเทมโพรารีผสมกลิ่นอายตะวันออก โดยเชฟม้อ-พรทิพย์ อภิสิทธิ์เสรีกุล ได้แรงบันดาลใจจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เธอเคยไปตั้งแต่มหาสมุทรอินเดียไปจนถึงแอตแลนติก
รายละเอียด: โทร. 08 6384 3400 หรือ Storehouse Dining
- เปอรานากัน คือ กลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีนที่มีวัฒนธรรมผสมผสาน และสร้างวัฒนธรรมแบบใหม่ขึ้นมา โดยเป็นการนำเอาส่วนดีระหว่างจีนกับมลายูมารวมกัน