จบไปแล้วสำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยทัพนักกีฬาไทยคว้าไปทั้งหมด 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง
โดย THE STANDARD ได้รวบรวมไฮไลต์ตลอดเวลา 2 สัปดาห์มาให้ทุกท่านได้ย้อนชมบรรยากาศการแข่งขันในครั้งนี้กันอีกครั้ง
- บิว-ภูริพล บุญสอน ลมกรดอนาคตของวงการกรีฑาไทย
หลังจากที่ ภูริพล บุญสอน สร้างชื่อเสียงด้วยการทำลายสถิติประเทศไทยทั้งระยะ 100 และ 200 เมตร ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ศรีสะเกษเกมส์ ครั้งนี้ลมกรดวัย 16 ปีจากไทย สร้างผลงานที่น่าประทับใจในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งแรกของตัวเขาเอง
โดยเริ่มต้นจากรอบคัดเลือก 200 เมตรชาย เขาได้ทำลายสถิติซีเกมส์ของ ว่าที่ ร.ต. เหรียญชัย สีหะวงษ์ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่บรูไน ปี 1999 ที่เคยทำไว้ 20.69 วินาที ด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 20.41 วินาที
ต่อด้วยรอบชิงชนะเลิศ 200 เมตรชาย เขาก็ทำลายสถิติซีเกมส์ของตัวเองในวันเดียวกัน ด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 20.37 วินาที สร้างสถิติใหม่ในวันเดียวกัน พร้อมคว้าเหรียญทองซีเกมส์แรกให้กับทัพกรีฑาไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ที่เวียดนาม
ต่อด้วยประเภท 100 เมตรชาย ภูริพลก็คว้าเหรียญทองซีเกมส์เหรียญที่ 3 ให้กับตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 10.44 วินาที
ด้วยวัยเพียง 16 ปี ภูริพลได้รับการยกย่องจาก World Athletics ในการแข่งขันประเภท 200 เมตรชาย ที่เขาทำเวลา 20.37 วินาที ซึ่งกรีฑาโลกเปิดเผยว่า เมื่อเทียบอายุกันในวัยนี้ มีเพียง ยูเซน โบลต์ เจ้าของ 8 เหรียญทองโอลิมปิก และ เออร์ริยอน ไนท์ตัน นักวิ่งจากสหรัฐอเมริกา ที่ทำเวลาได้เร็วกว่าภูริพลในวัยเดียวกัน
หลังจบการแข่งขันทุกรายการ ภูริพลได้เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่าไอดอลในวงการวิ่งของเขาก็คือ ยูเซน โบลต์
ซึ่งหลังจากนี้ ทางสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะส่งนักกีฬาทั้ง บิว ภูริพล และ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน เจ้าของ 4 เหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ ไปแข่งขันในกรีฑาชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่แฟนกีฬาไทยและแฟนกรีฑาทั่วโลกเฝ้าติดตามดาวดวงใหม่ที่คาดว่าจะเป็นอนาคตของวงการ ทั้งกรีฑาไทยและกรีฑาโลก
- ‘บัวขาว’ สมบัติ บัญชาเมฆ กับบทบาทผู้จัดการทีมซีเกมส์ครั้งแรก
ซีเกมส์ครั้งนี้เริ่มต้นด้วยทีมคิกบ็อกซิ่งไทยที่ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการส่งทั้งหมด 12 รุ่น ได้เหรียญรางวัลทั้งหมด 12 รุ่น แบ่งเป็น 2 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง
โดยมี ‘บัวขาว’ สมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยชื่อดังมารับบทเป็นผู้จัดการทีมที่คอยช่วยเหลือ แบ่งปันประสบการณ์ และโค้ชนักกีฬาระหว่างการแข่งขันจนประสบความสำเร็จในซีเกมส์หนแรกของเขาเอง
- บาสเกตบอล 3×3 หักอกเจ้าภาพทั้ง 2 ประเภทในวันเดียวกัน
วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา บาสเกตบอลทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองได้ 2 ประเภท จากการแข่งขัน 3×3 ทั้งชายและหญิง
โดยเริ่มจากทีมนักแม่นห่วงหนุ่มไทย ที่ปราบฟิลิปปินส์ แชมป์เก่าเมื่อครั้งก่อนไปด้วยสกอร์ 21-17 มาในรอบ 4 ทีมสุดท้าย ก่อนจะสามารถคว้าเหรียญทองเพิ่มให้กับทัพนักกีฬาไทย ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพเวียดนามไป 19-17 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครองในบาสเกตบอล 3×3 ชาย
ต่อด้วยทีมนักแม่นห่วงสาวทีมชาติไทย ที่ผ่านรอบ 4 ทีมสุดท้ายด้วยการเอาชนะฟิลิปปินส์ แชมป์เก่าเมื่อครั้งที่แล้ว 21-14 คะแนน มาในรอบชิงชนะเลิศ ช่วยกันเล่นชู้ตทำแต้มใส่คู่แข่งเจ้าภาพเวียดนาม ก่อนที่จะเบียดเอาชนะไปได้อย่างสูสี 21-19 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครองในบาสเกตบอล 3×3 หญิง
- พรชัย เค้าแก้ว เพิ่มสถิติเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ไปเป็น 18 เหรียญในวัย 40 ปี
หากจะพูดถึงนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในระดับซีเกมส์ คงหนีไม่พ้น พรชัย เค้าแก้ว นักตะกร้อทีมชาติไทย ที่ครั้งนี้คว้าเพิ่มไป 2 เหรียญทองจากทั้งประเภททีมชุดและทีมเดี่ยว ทำให้สิริรวมทั้งหมดเขาคว้าเหรียญทองซีเกมส์ไปแล้ว 18 เหรียญ จากการลงแข่งขันทั้งหมด 10 สมัย
- ฟุตบอลชายกับเหรียญเงินที่ฝ่ายบริหารจัดการต้องถูกตั้งคำถาม
ผลงานเหรียญเงินซีเกมส์ของฟุตบอลชายทีมชาติไทยในศึกซีเกมส์ครั้งนี้ นับเป็นผลงานที่ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากครั้งนี้แม้ว่าจะนักเตะชั้นนำหลายคนมาร่วมลงแข่งขัน
แต่คำถามคาใจหลายฝ่ายคือ เกิดอะไรขึ้นกับฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ที่มีเวลาการเตรียมพร้อมน้อยเกินไป จน มาโน โพลกิง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังเกมรอบชิงชนะเลิศ เปิดเผยว่า
“ผมกับโค้ช พัคฮังซอ มีสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ผมมีเวลาเตรียมทีมแค่วันเดียว ไม่มีเวลาซ้อม แต่มาถึงตรงนี้ได้ก็ต้องภูมิใจในตัวผู้เล่นทุกคน ไม่มีใครอยากแพ้ ซึ่งผมก็เคารพในตัวโค้ชพัคและเคารพแฟนบอลเวียดนามทุกคน”
- วอลเลย์บอลหญิงไทยกับแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 15
วอลเลย์บอลหญิงไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 นับเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาลงแข่งขันโดยไม่มีนักกีฬาระดับตำนานอย่าง 7 เซียน แต่สุดท้ายก็สามารถสานต่อตำนานในระดับอาเซียนได้สำเร็จด้วยการเอาชนะเจ้าภาพเวียดนามในรอบชิงชนะเลิศไป 3-0 เซ็ต สกอร์ 25-20, 25-14, 25-14 ทีมชาติไทยครองเหรียญทอง 15 สมัย และเป็นสมัยที่ 13 ติดต่อกัน
- ‘ต๋อง ศิษย์ฉ่อย’ วัฒนา ภู่โอบอ้อม คว้าเหรียญทองซีเกมส์สมัยแรก จากการลงเล่นซีเกมส์ครั้งแรก
หนึ่งวันก่อนพิธีปิดการแข่งขันซีเกมส์ ในการแข่งขันสนุกเกอร์ชายรอบชิงชนะเลิศ ใช้ระบบการแข่งขัน 4 ใน 7 เฟรม ระหว่าง วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ในวัย 52 ปี ลงสนามพบกับ ลิม ก๊อก เลียน นักสนุกเกอร์จากมาเลเซีย
ซึ่งผลปรากฏว่า ต๋อง ศิษย์ฉ่อยเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-2 เฟรม คว้าเหรียญทองซีเกมส์สมัยแรกให้กับตนเองได้สำเร็จในการลงแข่งขันซีเกมส์ครั้งแรก
- อีสปอร์ตกับผลงาน 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง
ทัพอีสปอร์ตไทย ที่แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยดราม่าการประกาศรายชื่อทัพนักกีฬาทีมชาติไทย
แต่ครั้งนี้พวกเขาก็ยังทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม จากผลงาน 2 เหรียญทอง ทั้ง FIFA Online 4 และ ROV
โดยเฉพาะทีม ROV ไทย อัดทีมเจ้าภาพ (แชมป์ลีกเวียดนามล่าสุด) ที่ก่อนแข่งซีเกมส์ถูกยกเป็นเต็ง 1 ในรายการ Arena of Valor International Championship 2022 (AIC) ที่จะจัดเดือนมิถุนายนนี้
THE STANDARD ขอขอบคุณทัพนักกีฬาทีมชาติไทยชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ทุกคน
ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 นับเป็นสิ่งที่ทัพนักกีฬาไทยในภาพรวมทำได้ตามเป้าหมาย นั่นคือความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาประเภทที่เป็นสากล และจบอันดับ 2 รองจากเจ้าภาพในตารางสรุปเหรียญรางวัลครั้งนี้
THE STANDARD จึงอยากที่จะขอขอบคุณทุกความสำเร็จ ทุกการเสียสละ และทุกการแข่งขันที่ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแข่งขันในปีนี้
ผลการแข่งขันคือสิ่งที่ชี้วัดความสำเร็จของการฝึกซ้อมตลอดทั้งปีที่ผ่านมาสำหรับนักกีฬา และผลการแข่งขันในระดับซีเกมส์คือตัวชี้วัดสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เรียนรู้จากความสำเร็จและล้มเหลวในครั้งนี้ เพื่อก้าวไปข้างหน้าสู่มหกรรมใหญ่ที่รอคอยพวกเราอยู่ต่อจากนี้ในระดับเอเชียนเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศกำหนดวันแข่งขันใหม่ในเร็วๆ นี้
