×

ไทยพาณิชย์รุกคืบตลาด QR Code เชียงใหม่ หวังดันยอดร้านค้าใช้ทะลุ 7 แสนปีหน้า

04.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins read
  • ตั้งแต่ออกจาก Sandbox และผ่านเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ก็มียอดผู้ใช้บริการ QR Code ฝั่งผู้ประกอบการรวมกว่า 50,000 รายแล้ว โดยสิ้นปีนี้พวกเขาตั้งเป้าจะเพิ่มยอดผู้ใช้เป็น 200,000 รายให้ได้ และคาดว่าปีหน้า ยอดผู้ใช้งานรวมน่าจะเพิ่มกว่า 700,000 รายได้ไม่ยาก
  • กลยุทธ์ที่ไทยพาณิชย์ใช้ในการเจาะตลาด QR Code ช่วงแรกคือการบุกตามหัวเมือง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และเน้นจับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่กำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะเปิดรับเทคโนโลยีได้ง่าย
  • ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารหันมาใช้บริการ QR Code ของไทยพาณิชย์มากขึ้นคือการแจ้งยอดเงินเข้าแบบเรียลไทม์ผ่าน Line Connected ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเงินสมัครค่าบริการ SMS Alert
  • ไทยพาณิชย์เชื่อว่า การที่ธนาคารทั่วประเทศไทยทุกแห่งให้ความสำคัญกับการทำตลาด QR Code ด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดและแข่งกันทำโปรโมชัน จะทำให้สังคมไร้เงินสด (cashless society) เกิดขึ้นได้จริง แต่ทั้งนี้ควรจะกระจายกันทำตลาดเพื่อให้ไม่เกิดการกระจุกตัว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในแต่ละปี ประเทศไทยต้องสูญเสียเม็ดเงินมูลค่ากว่าแสนล้านบาทไปกับกระบวนการหมุนเวียนเงินสดที่นับรวมเริ่มต้นตั้งแต่การผลิตธนบัตรกระจายสู่จุดต่างๆ จนกระทั่งนำมาเผาทำลาย


ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แถลงข่าวเปิดตัว Standard QR Code หรือ QR Code มาตรฐานกลางที่ใช้เหมือนๆ กันทั้งประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคและผู้ค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านการสแกน QR Code ช่วยลดต้นทุนในการใช้เงินสด ก่อนจะเปิดประตูสู่ cashless society หรือสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ


ผ่านมาจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 5 ธนาคารยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย นำโดย ธนาคารไทยพาณิชย์,​ ธนาคารกสิกรไทย,​ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารออมสิน ก็ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานโดย ธปท. เป็นอันหลุดออกจาก Sandbox และลั่นระฆังรบสู่ศึกการให้บริการทำธุรกรรมด้วย QR Code อย่างเต็มรูปแบบทั่วประเทศไทยทันที


สำหรับ SCB หรือธนาคารไทยพาณิชย์ นับตั้งแต่เริ่มทำตลาด QR Code เป็นระยะเวลารวมกว่า 20 วัน (นับจนถึง 4 พฤศจิกายน) มียอดผู้ค้าใช้งานระบบธุรกรรมรูปแบบนี้อย่างถล่มทลาย โดยมีการเปิดเผยว่ายอดผู้ใช้งานทุกวันนี้รวมทั้งประเทศของไทยพาณิชย์อยู่ที่ 50,000 ร้านค้า โดยปีนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะจบปีด้วยยอดผู้ใช้งานจำนวน 200,000 ร้านค้า ขณะที่ปีหน้า ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าจะเพิ่มยอดผู้ใช้งานหน้าใหม่อยู่ที่ 500,000 ราย (รวมทั้งหมด 700,000 ราย) ซึ่งถือว่าเป็นยอดที่สูงพอสมควรกับการร่างใบเบิกทางไปสู่สังคมไร้เงินสดในช่วงเริ่มต้นเช่นนี้

 

 

เน้นเจาะสถานที่ท่องเที่ยวและสถาบันการศึกษา สร้างกระแสการรับรู้ QR Code Payment

1 ธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ได้บุกมาเปิดสังคมไร้เงินสด สร้างเทรนด์ของการทำธุรกรรมด้วย QR Code ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านแคมเปญ ‘ม่วนแต้ๆ แค่สแกน’ โดยเน้นทำตลาดกับร้านค้า แหล่งช้อปปิ้งท้องถิ่น ตลาด การคมนาคมขนส่งด้วยรถแดง ตู้บริจาคในวัด ตลอดจนร้านค้า ร้านอาหารในมหาวิทยาลัย ผ่านการทำการตลาดด้วยคาแรกเตอร์ ‘แม่มณี’ (พ้องเสียงกับคำว่า ‘มานี้-Money’) นางกวักชวนลูกค้าเข้ามาใช้ QR Code


แน่นอนว่ากลยุทธ์ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ใช้ในช่วงหว่านเมล็ดพันธ์ุสังคมไร้เงินสดคือการบุกทำตลาด ณ จังหวัดใหญ่ๆ และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละภูมิภาคเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น การลงไปทำตลาด QR Code ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, จังหวัดเชียงใหม่ กับผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ โดยที่ในอนาคตก็เล็งบุกตลาดในจังหวัดอื่นๆ เช่น ชลบุรี ขอนแก่น และภูเก็ตอีกด้วย ซึ่งจะเน้นไปที่เมืองซึ่งถูกวางให้เป็น smart city เป็นลำดับแรกๆ


นอกจากร้านค้าท้องถิ่นต่างๆ ไทยพาณิชย์ก็ยังให้ความสำคัญกับร้านค้าและโรงอาหารในมหาวิทยาลัยไม่แพ้กัน เนื่องจากมองกลุ่มนักศึกษาและคนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่จะช่วยกระจายความตระหนักรู้ของการสแกน QR Code ซื้อขายสินค้าแทนการใช้เงินสดไปอยู่ในวงที่กว้างขึ้น จนทำให้คนรอบข้างรู้สึกเปิดรับกับเทคโนโลยีการทำธุรกรรมรูปแบบนี้มากขึ้น ซึ่งในเชียงใหม่ก็มีการทำ MOU ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้วด้วย

 

 

อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์​ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดแผนก Retail Products และ Retail Payments ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้ความเห็นว่า “ต้องบอกว่าผู้ประกอบการต่างจังหวัดให้การยอมรับเทคโนโลยีรูปแบบนี้สูงมาก แต่เวลาที่เราไปเปิดตลาดใหม่ๆ เราจะเริ่มจากที่มหาวิทยาลัยเป็นหลัก เพราะมองว่าการเปิดรับเทคโนโลยีของเด็กรุ่นใหม่จะเปิดกว้างมากกว่าคนรุ่นเก่า เราจึงเริ่มจากมหาวิทยาลัยเป็นหลัก แล้วจึงค่อยๆ กระจายออกไปรอบนอก”

 

 

จป้ำด้วยฟีเจอร์แจ้งเงินเข้าผ่านไลน์แบบฟรีๆ! ไม่ต้องเสียค่าบริการ SMS Alert

สำหรับหมัดเด็ดที่ไทยพาณิชย์เตรียมใช้ในการดึงดูดผู้ค้าและลูกค้าของธนาคารให้หันมาใช้ระบบการสแกน QR Code คือฟีเจอร์การแจ้งเตือนยอดเงินเข้าผ่าน Official Account ‘SCB Connect’ ที่ทำได้ง่ายๆ และไม่ต้องเสียค่าบริการ SMS Alert ให้วุ่นวายแต่อย่างใด ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ไทยพาณิชย์ถือเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีฟีเจอร์นี้

 

 

ธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสด้านการตลาดเผยว่า “เราเป็นธนาคารเจ้าเดียวที่มี Line Connected แจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี เพราะ pain point ของร้านค้าคือต้องการทราบว่าเงินเข้าธนาคารหรือไม่จากการรับเงินผ่าน QR Code เพราะบางทีลูกค้าโชว์หน้าจอ เครื่องก็อาจจะยังไม่ชัวร์


“ที่สำคัญ เราเชื่อว่าธนาคารหลายๆ แห่งยังไม่น่าจะมีฟีเจอร์นี้ในเร็วๆ นี้แน่นอน เพราะพวกเขาอาจจะเสียรายได้จากค่าสมัครใช้บริการ SMS แจ้งเตือน (SMS Alert) ที่แม้ค่าบริการแจ้งเตือนธุรกรรมผ่านข้อความบนโทรศัพท์มือถือจะอยู่ระหว่าง 10-20 บาท แต่บางธนาคารก็สามารถทำรายได้จากจุดนี้ถึง 1,000 ล้านบาท ส่วนของเราก็ถือว่ารายรับจากช่องทางนี้อยู่ในหลักหลายร้อยล้านบาทอยู่เหมือนกัน แต่เรามองเรื่องปัญหาของลูกค้าเป็นหลัก ถ้าเราไม่เปิดฟีเจอร์นี้ให้ลูกค้าใช้แบบฟรีๆ เขาก็อาจจะยังไม่สนใจใช้ QR Code ซึ่งการใช้ไลน์เป็นเครื่องมือแจ้งเตือนการทำธุรกรรมที่ไม่เสียต้นทุนค่าใช้จ่ายเลย”

 

 

นอกจากนี้ ไทยพาณิชย์ยังได้ลงทุนติดตั้งแท็บเล็ตพร้อมแอปพลิเคชัน ‘Merchant mPOS’ ซึ่งถูกพัฒนาโดย Digital Ventures เพื่อใช้ในการแสดงผลยอดเงินเข้าได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย


อย่างไรก็ดี ธนาเชื่อว่าการที่ธนาคารทุกแห่งในประเทศไทยกระโจนเข้ามาทำการตลาดของ cashless society มากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศไทยและผู้ใช้งาน เนื่องจากเป็นการปลุกกระแสนี้ให้เกิดการรับรู้โดยทั่วกัน และก็น่าจะไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดในการตามรอยประเทศจีนสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ

 

 

“ถามว่ากังวลไหม ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเรื่องพร้อมเพย์มันยังไม่จางไปจากความคิดคนไทย ซึ่งช่วงที่ QR Code เปิดตัวออกมา มันก็อาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมขนาดนั้น แต่ด้วยตัวอย่างจากประเทศจีนที่ทำให้เรารับรู้ข่าวสารทุกวัน เราก็เชื่อว่าในที่สุดแล้วไทยจะเดินตามเขาได้ทันนะ และสังคมไร้เงินสดก็น่าจะเกิดได้จริง


“จริงๆ ระบบนิเวศของมันค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้วนะ ด้วยความที่เป็น QR Code มาตรฐานที่ใช้กัน ประกอบกับผู้ใช้งานบางส่วนก็มีพื้นฐาน Alipay มาก่อนแล้ว ซึ่งธนาคารในบ้านเราก็มีหลายแห่งที่พร้อมให้บริการและมีข้อมูลเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันเลยเอื้อให้การทำธุรกรรมรูปแบบนี้เกิดมากๆ


“สิ่งที่ผมคิดว่าตอนนี้คือน่าจะทำให้ QR Code มันเกิดขึ้นได้เร็วกว่าเดิม คือฝั่งตัวผู้ใช้งาน ถ้า 5 ธนาคารวิ่งกันรัวๆ แบบนี้ ไม่นานมันก็จะชัดขึ้น ขอแค่ให้มีการแข่งขัน มันก็จะโตเร็วแน่นอน นอกจากนี้ร้านค้าสะดวกซื้อก็จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มยอดผู้ใช้งาน QR Code ได้อีกทางด้วย”


ด้านอภิพันธ์มองว่าธนาคารแต่ละแห่งจะต้องกระจายช่องทางในการเจาะตลาด ไม่เข้าหาผู้ประกอบการที่ใช้ระบบ QR Code ของธนาคารอื่นแล้ว เพื่อให้ได้ยอดร้านค้าที่มีจำนวนมากขึ้น ไม่ซ้ำซ้อนกัน


“ทุกธนาคารต้องออกมาช่วยกัน อย่าไปทุ่มอยู่ที่ร้านเดียวกัน เช่น สมมติเราเจอร้านค้าที่เขาทำ QR Code กับธนาคารอื่นอยู่แล้ว เราก็จะหนีไปหาร้านอื่นแทน ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่เกิดการกระจาย พอกระจายเยอะ ผู้ใช้งานก็จะได้เห็นมากขึ้น ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องโปรโมชันที่ใช้ในการดึงดูดทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย”

 

 

ผู้ค้าหลายรายพอใจ QR Code เผยขายของง่ายขึ้นกว่าเดิม

โดยโปรโมชันที่ไทยพาณิชย์จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการซื้อขายสินค้าและบริการด้วยการใช้ QR Code สำหรับผู้ซื้อในเชียงใหม่ช่วงระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคมคือ ‘ช้อป 300 บาท ได้แคชแบ็กคืน 50 บาท’ และสำหรับผู้ค้าคือ เมื่อขายได้ครบ 1,000 บาท ก็จะได้รับแคชแบ็กเพิ่มทันทีอีก 100 บาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดเงินที่สูงพอสมควร


และสำหรับลูกค้าไทยพาณิชย์ทั่วประเทศที่ใช้ QR Code ช้อปป้ิงสินค้าและบริการครบ 300 บาทต่อเซลล์สลิปในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม ก็จะได้รับเงินคืน 60 บาทอีกด้วย


จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการบางส่วนที่หันมาใช้ระบบการทำธุรกรรมด้วย QR Code ก็พบว่า ผู้ค้าหลายรายต่างก็รู้สึกพึงพอใจในความสะดวกสบาย ความง่ายในการใช้งาน และความรวดเร็วของการทำธุรกรรมรูปแบบนี้ เนื่องจากบางส่วนก็คุ้นเคยกับการใช้ระบบ QR Code ของ Alipay ในการรับเงินจากลูกค้าชาวจีนกันมาบ้างแล้ว

 

 

ผ่องพรรณ ชุ่มภิรมย์ เจ้าของร้านขายของฝากในตลาดวโรรส ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว THE STANDARD ว่า “ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีบัญชีของไทยพาณิชย์มาก่อน แต่พอน้องพนักงานมาให้ข้อมูลเราก็สนใจ แล้วก็ลองสมัครดู หลังจากนั้นเวลาขายของมันก็ทำให้สะดวกและเร็วขึ้น มีลูกค้าหลายคนเขาก็มาถามหา QR Code เหมือนกัน เพราะเมื่อก่อนเวลาเขาไม่ได้พกเงินสดมาก็จะถามหาตู้ ATM กัน แต่ทุกวันนี้ก็จ่ายผ่านระบบนี้ได้แล้ว”


นอกจากนี้ไทยพาณิชย์ก็ยังจับมือกับ Alipay ผู้ให้บริการจากประเทศจีน เพื่อเป็นตัวกลางในการทำให้เงินของผู้บริโภคชาวจีนเดินทางถึงมือผู้ค้าในประเทศไทยได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

 

 

กัณณิกา บัวจีน ผู้จัดการศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง บอกว่า “บางครั้งเรามีปัญหาในเรื่องการรับเงินจากลูกค้าต่างชาติ เรารู้สึกว่าทำไมลูกค้าจากจีนถึงไม่มีช่องทางในการโอนเงินผ่านตัวแทนจากประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เงินถึงมือเราช้า แต่พอไทยพาณิชย์เข้ามาช่วยดูแลในด้านนี้ก็ทำให้เราสบายใจมากขึ้น


“ลูกค้าถามเรื่อง QR Code มานานแล้ว แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นกับธนาคารไหนดี ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมพอดีที่เราได้มาเจอไทยพาณิชย์ ซึ่งโดยรวมแล้วหลังจากใช้งานมาก็ทำให้เห็นเลยว่าการค้าขายมันทำได้ง่ายและเร็วขึ้น”


มองภาพรวมในอนาคต หากสังคมไร้เงินสดเกิดขึ้นจริงในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมและเต็มรูปแบบ ก็จะช่วยให้ไทยลดต้นทุนค่าสิ้นเปลืองของการหมุนเวียนเงินสดได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค


ทั้งนี้ธนามองว่า ประโยชน์ที่จะได้รับนอกเหนือจากผลพลอยได้ที่กล่าวมา ยังรวมถึงการเอื้อประโยชน์ให้วงการสตาร์ทอัพไทยยกระดับพัฒนาไปอีกขั้นด้วย “ผมคิดว่าถ้า QR Code มันเกิดได้ก็จะทำให้สตาร์ทอัพไทยมีไอเดียในการสร้างธุรกิจแบบใหม่ๆ ได้ด้วย อย่างประเทศจีนเขามีสตาร์ทอัพ 12,000 ราย แต่ไทยเราพัฒนามา 6 ปีแล้ว กลับมีแค่ 700-800 ราย ซึ่งถ้าสังคมไร้เงินสดเกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ sharing economy หรือ machine ต่างๆ ก็จะเกิดได้ง่าย”

 


เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องแรงงานมนุษย์อาจถูก disrupt จากการเข้ามาของเทคโนโลยีรูปแบบนี้ อภิพันธ์มองว่าประโยชน์ของ QR Code คือการช่วยเสริมความแม่นยำและป้องกันการทุจริตในการทำธุรกิจมากกว่า


“เรามองว่า QR Code จะเข้ามาช่วยเสริมด้านความปลอดภัยและความแม่นยำให้กับผู้ค้ามากกว่า เพราะเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เงินเข้าบัญชีผู้รับเต็มกระเป๋าแน่นอน ไม่เกิดการทุจริตของลูกจ้าง ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถเช็กยอดเงินได้อีกด้วย”


สำหรับผู้ค้าหรือผู้ที่สนใจจะทำระบบ QR Code ของตัวเองก็สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ SCB Call Center โทร 0 2 777 7567 โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่าการทำระบบ QR Code นี้สามารถทำได้ง่ายๆ ในระยะเวลาแค่ 2 นาทีเท่านั้น!

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X