บอร์ด ‘เอสซีบี เอกซ์’ เคาะจ่ายปันผลปี 2565 อีกหุ้นละ 5.19 บาท รวมทั้งปีจ่ายปันผล 6.69 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 22,528 ล้านบาท พร้อมจัดสรรกำไรอีก 15,018 ล้านบาท เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1
บมจ.เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX (ชื่อหลักทรัพย์ SCB) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัทในการประชุมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีมติเห็นควรเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2565 และการจ่ายเงินปันผล ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม โดยบริษัทจะพิจารณาถึงผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการงดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2564 และการงดจัดสรรกำไรสุทธิเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มดำเนินกิจการและยังไม่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนในปี 2564
ภายหลังดำเนินการปรับโครงสร้างกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565 ทำให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้น 99.06% ของธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทจึงเริ่มรับรู้รายได้จากเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทในกลุ่ม
และเพื่อเป็นการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น บริษัทจึงขอเสนอการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 6.69 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 60% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม
โดยคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติดังนี้
- การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2565 ไว้เป็นทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 3,400 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียน
- การจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 6.69 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 22,528 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของกำไรสุทธิสำหรับปี 2565 ตามงบการเงินรวม
โดยที่บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท รวมเป็นเงิน 5,051 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทจะจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนี้อีกหุ้นละ 5.19 บาท รวมเป็นเงิน 17,477 ล้านบาท โดยการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามข้อบังคับของบริษัท ตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 18 เมษายน 2566 (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเริ่มขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 17 เมษายน 2566) และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ เงินปันผลดังกล่าวข้างต้นจ่ายจากกำไรที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% ซึ่งผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนได้ในอัตรา 20/80 ของเงินปันผลที่ได้รับ
นอกจากนี้ คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิสำหรับปี 2565 ที่เหลือจากการจ่ายเงินปันผลข้างต้นจำนวน 15,018 ล้านบาท เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1 Capital: CET1) ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนทั้งสิ้นของบริษัท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 (ตามที่ประมาณการไว้) มีจำนวนทั้งสิ้น 449,925 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.51 ของประมาณการสินทรัพย์เสี่ยง และเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของมีจำนวนทั้งสิ้น 423,305 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.35 ของประมาณการสินทรัพย์เสี่ยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- SCB EIC คาดนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทยปีนี้ ‘ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน’ พร้อมมองความเสี่ยงโลกถดถอยเริ่มลดลงจาก 3 ปัจจัย
- SCB CIO มองเงินบาทสิ้นปีแตะ ‘33-34 บาทต่อดอลลาร์’ แนะนักลงทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
- SCBX โชว์กำไรสุทธิปี 65 จำนวน 3.75 หมื่นล้าน โต 5.5% รับรายได้ดอกเบี้ยพุ่ง ขณะที่ ttb กวาดกำไรทะลุ 1.4 หมื่นล้าน เพิ่มจากปีก่อน 36%