THE STANDARD เคยเกริ่นไปแล้วครั้งหนึ่ง เกี่ยวกับ ‘บ้านอัจฉริยะ’ หรือ ‘Smart Home Solution’ ซึ่งเป็นเทรนด์การประยุกต์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ‘Internet of Things’ ที่ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตมาเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือระบบรักษาความปลอดภัย (อ่านบทความ: บ้านรู้ใจ: Prop Tech เทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยก้าวไกลแค่ไหน?)
คอลัมน์บ้านรู้ใจในสัปดาห์นี้ THE STANDARD ขอพาคุณไปรู้จักกับ 5 เทคโนโลยีที่อยู่อาศัย ซึ่งช่วยให้คุณมีบ้านแบบ Smart Home ได้อย่างง่ายๆ สามารถทำได้เลย ไม่จำเป็นต้องหรูหราไฮเทคเหมือน ‘Openarch’ โมเดลบ้านฉัจริยะมีชื่อของบริษัท Openarch หรือ ‘บ้านอนาคต’ ที่ทางไมโครซอฟท์ลงทุนออกแบบโปรแกรมใหม่เพื่อควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านโดยเฉพาะ
1. มี ‘Amazon Echo’ ก็เหมือนมีพ่อบ้านคนสนิท
อุปกรณ์สั่งงานด้วยเสียงในตระกูลของ Amazon Alexa (คล้ายกับ Siri ของ iPhone นั่นแหละ) สามารถเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ Smart Home อื่นๆ ได้แบบครบวงจร ไม่ว่าจะการเปิดปิดไฟ กล้องวงจรปิด รดน้ำต้นไม้ สั่งอาหารจานด่วน หรือปรับเปลี่ยนลิสต์เพลงตามอารมณ์ของคุณในแต่ละช่วงเวลา วิธีการสั่งงาน ก็แค่เริ่มต้นด้วยคำพูดว่า ‘Alexa’ แล้วตามด้วยคำสั่งต่างๆ เช่น “Alexa, play some music.” เป็นอาทิ
นอกจากการทำงานเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง จุดเด่นอีกอย่างของ ‘Amazon Echo’ คือสามารถจำโทนเสียง และน้ำเสียงของผู้พูดได้ ยิ่งคุณใช้งานมากเท่าไร อุปกรณ์ก็ยิ่งจำได้ และปรับตัวเข้าหาคุณมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ ‘Amazon Echo’ มีขายตาม Whole Foods ทุกสาขา และในอนาคตข้างหน้า แว่วมาว่าปลายปีนี้ Amazon เตรียมปล่อยฟีเจอร์ ‘โทรหากันฟรี’ ระหว่างเครื่องในตระกูล Amazon Alexa ในแต่ละบ้านด้วย
2. ‘Nest Protect’ เครื่องตรวจจับควันที่มากกว่าแค่ส่งสัญญาณเตือน
ปัญหาฟืนไฟเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยาก แต่ควบคุมได้ ยิ่งมีอุปกรณ์ดีๆ คุณจึงไม่ต้องกังวลเลยว่า ชีวิตและทรัพย์สินจะไม่ปลอดภัย Nest Protect คือ เครื่องตรวจจับควัน ซึ่งพัฒนาให้ฉลาดกว่าแค่ส่งสัญญาณเตือนภัยแบบปกติ ทั้งยังคงสามารถโต้ตอบและรับคำสั่งเป็นภาษาพูดได้ สามารถแยกแยะได้ว่าควันชนิดใดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
และเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยเครื่องก็จะส่งสัญญาณฉุกเฉินไปยังสถานีดับเพลิงได้ทันทีผ่านมือถือระบบ Smartphone แถมยังราคาไม่แพง สนนราคาเพียง 99 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,800 บาท ไม่ว่าคุณจะนอนหลับหรือหมดสติเพราะควันไฟ ก็มีคนช่วยได้ทันท่วงที
3. จะร้อนหรือหนาว ‘Nest Thermostat’ ช่างรู้ใจ
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในค่าย Nest ที่ช่วยให้เราสบาย ผ่อนคลายมากขึ้นไปอีกเวลาพักผ่อนอยู่กับบ้าน เมื่อเจ้า ‘Nest Thermostat’ สามารถปรับอุณหภูมิภายในบ้านได้อย่างรู้ใจ จะแดดร้อน ฝนตก พายุ เจ้าอุปกรณ์ทรงกลมจะจัดสรรอุณหภูมิให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรา แน่นอนว่าช่วงแรกต้องมีการปรับตัวกันนิดหน่อย แต่รับรองว่าสะดวก สบาย และคุ้มค้า
ยิ่งซื้อมาใช้คู่กับ Nest Protect เวลาส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านเกิดความร้อนผิดปกติ Nest Thermostat จะส่งสัญญาณเตือนไปยังโทรศัพท์เจ้าของบ้าน และส่งสัญญาณเฝ้าระวังไปให้อุปกรณ์ Nest Protect ตื่นตัว เพื่อหากเกิดไฟไหม้จะได้จัดการได้ทันที อะไรจะดีขนาดนั้น!
4. อยากได้แสงแบบไหน ‘Philips Hue’ จัดให้เป็นหมื่นเฉด
เหมาะมากสำหรับขาปาร์ตี้ หรือเจ้าของบ้านอารมณ์ศิลป์ที่อยากปรับเปลี่ยนบรรยากาศบ้านได้ตามใจ ‘Philips Hue’ เป็น Internet of Things รุ่นแรกๆ ที่หาซื้อง่ายและราคาถูกมาก จึงเป็นนิยมตั้งแต่เปิดตัวมาจนถึงปัจจุบัน
สรรพคุณเด่นๆ มีตั้งแต่ฟังก์ชันพื้นฐานอย่าง ตั้งเวลาเปิด-ปิด จากที่ไหนก็ได้ในโลก สามารถปรับเฉดแสงได้เป็นหมื่นสี จะเฉดไหน เข้มอ่อนขนาดใดก็ปรับได้หมด ไม่ว่าจะเป็นแสงเปรี้ยวเท่ฉูดฉาดแบบปาร์ตี้ หรือส้มนัวยามอาทิตย์อัสดงก็เนรมิตได้เช่นกัน และหากคุณเป็นพวกบ้างาน หรือคนทำงานที่ต้องติดต่อสื่อสารตลอดเวลา เมื่อตั้งให้เชื่อมต่อกับ ‘IFTTT’ หรือ ‘If This Then That!’ แอปพลิเคชันมีชื่อที่เอาไว้จัดสรรสิ่งต่างๆ ซึ่งคุณสามารถตั้งระบบไฟเตือนให้กะพริบทุกครั้งที่อีเมลเข้า หรือตั้งเตือนเวลาอบขนม รดน้ำต้นไม้ สารพัด
5. Canary ฮีโร่ประจำบ้าน
ระบบเตือนภัยอัจฉริยะ ที่สามารถแจ้งเตือนคุณได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ โดย Canary ที่เรียนรู้และเปรียบเทียบกิจกรรมต่างๆ ของคุณในแต่ละวัน ถ้ามีอะไรผิดแปลกระบบจะส่งสัญญาณแจ้งไปทันทีผ่านแอปพลิเคชัน เจ้าของสามารถตรวจเช็กภาพได้สดๆ ผ่านจอโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์พกพา จากนั้นจะกดบันทึกเก็บไว้เป็นหลักฐาน หรือกดสัญญาณเสียงระดับ 90+ เดซิเบล ให้ฮีโร่บอกกล่าวบ้านเพื่อนก็ได้ อุปกรณ์ชิ้นนี้ติดตั้งง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อสายใดๆ แค่วางไว้ยังจุดที่ต้องการ และเชื่อมต่อผ่านแอปฯ ในมือถือ ไม่กี่นาทีก็ใช้งานได้แล้ว
- เพื่อการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพตามหลัก Human Centric มากที่สุด SC Asset จึงก้าวเข้าสู่ SC 4.0 โดยมีนโยบายสร้างบ้านที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ผนวกเทคโนโลยีการสื่อสารที่เชื่อมต่อโลกเพียงเสี้ยววินาที กลายเป็นนวัตกรรม ‘บ้านรู้ใจ’ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดของลูกบ้าน