×

บ้านรู้ใจ: Prop Tech เทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยก้าวไกลแค่ไหน?

15.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 mins read
  • Prop Tech ย่อมาจาก Property Technology’ เป็นนวัตกรรมความก้าวหน้าซึ่งนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมตั้งแต่บ้านอัจฉริยะ เทคโนโลยีซึ่งช่วยในเรื่องของขั้นตอนการซื้อ ขาย จอง เช่า การดำเนินการในพื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงการชำระเงินและบริการหลังการขาย
  • เทรนด์ของ บ้านอัจฉริยะ ในตะวันตกนั้นดำเนินมาได้นานหลายปีแล้ว แต่สำหรับเมืองไทยของเรานั้นยังไม่กว้างขวางสักเท่าใดนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะข้อจำกัดในสมัยก่อนซึ่งทำให้ราคาค่อนข้างสูง แต่กำลังมีแนวโน้มว่าจะถูกลงด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ดังจะเห็นได้ว่าเริ่มมีผู้ประกอบการชั้นนำในประเทศไทยที่ตื่นตัวและนำเรื่องของ Intelligent Home และ Prop Tech มาเป็นจุดเด่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่กันมากขึ้น

     ด้วยผลกระทบของ Digital Transformation ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แวดวงอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย รวมถึงผู้คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยกันอยู่น่าจะได้ยินคำว่า Prop Techกันบ่อยครั้งขึ้น

     ว่ากันว่าหลังจากที่ FinTechหรือเทคโนโลยีนวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งมาแรงและมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต่อไปนี้ Prop Techก็อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกัน และนั่นคงจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็น บ้านของผู้คนยุค 4.0 ในปัจจุบันไม่มากก็น้อย

 

Prop Tech คืออะไร

     ‘Prop Tech ย่อมาจาก Property Technologyหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Real Estate Technologyเป็นนวัตกรรมความก้าวหน้าซึ่งนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมตั้งแต่ Smart Homeหรือ บ้านอัจฉริยะไปจนถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของขั้นตอนการซื้อ ขาย จอง เช่า การดำเนินการในพื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงการชำระเงินและบริการหลังการขาย

 

Photo: mangpor2004/ShutterStock

 

Prop Tech ทำอะไรได้บ้าง

     สำหรับคำถามนี้ เราสามารถแบ่งได้เป็น  3  ข้อใหญ่ๆ

     1. ช่วยเพิ่มความสะดวกในเรื่องการซื้อขาย

     สมัยก่อนเวลาที่จะซื้อบ้านหรือคอนโดฯ เราก็มักจะต้องตระเวนไปยังสำนักงานขายหรือบ้านตัวอย่าง มีการต่อคิวแย่งใบจองกันวุ่นวาย แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยนี้ เราจึงไม่ต้องลำบากเช่นนั้นอีกต่อไป เพราะ Prop Tech จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในแบบที่ตนต้องการได้ทั้งในเรื่องของสเปกและทำเล

     อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดคือ Virtual Reality ซึ่งเมื่อนำมาปรับใช้กับแวดวงอสังหาริมทรัพย์ก็จะสามารถช่วยในเรื่องของการซื้อขายได้เป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ผู้บริโภคสามารถรับชมห้องตัวอย่างเสมือนจริงได้ราวกับชมห้องตัวอย่างจริงๆ อยู่ นอกจากนี้ยังสามารถจองยูนิตและโครงการที่ต้องการได้ผ่านทางระบบออนไลน์ ไปจนถึงการดำเนินงานด้านสินเชื่อและทำธุรกรรมOnline Paymentชำระเงินผ่านทางออนไลน์

 

     2. ทำให้บ้านเป็น บ้านอัจฉริยะ อันเปี่ยมสุข

     หลายคนคงน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า Smart Home Solutionหรือ Intelligent Homeซึ่งเป็นเทรนด์ในการประยุกต์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ Internet of Thingsมาเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ว่าเจ้าของบ้านจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสั่งการความเป็นไปต่างๆ ภายในบ้านได้ผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดไฟ, รดน้ำต้นไม้, สั่งดูกล้องวงจรปิดจากโทรศัพท์มือถือ, ปลดล็อก, ตั้งเวลาให้อาหารสัตว์เลี้ยง และอีกสารพัด ฯลฯ

     โดยเทรนด์ของ บ้านอัจฉริยะ ในตะวันตกนั้นเริ่มมีการพูดถึงและดำเนินระบบ Home Automation มานานหลายปีแล้ว แต่สำหรับเมืองไทยของเรานั้นยังไม่กว้างขวางสักเท่าใดนัก ด้วยส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะข้อจำกัดในสมัยก่อนซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่กำลังมีแนวโน้มว่าจะมีราคาถูกลงด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไป ดังจะเห็นได้ว่าเริ่มมีผู้ประกอบการชั้นนำในประเทศไทยที่ตื่นตัวและนำเรื่องของ Intelligent Home และ Prop Tech มาเป็นจุดเด่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่กันมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งการเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสุขให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย

 

Photo: Alexander Kirch/ShutterStock

     

     3. ช่วยในเรื่องบริการหลังการขาย

     หลายครั้งที่ผู้ซื้อหลายรายต้องผิดหวังจากการประสบปัญหาหลังการขาย เมื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์นำ Prop Tech ไปปรับใช้ แอปพลิเคชันต่างๆ จะช่วยทำให้การสื่อสารระหว่างลูกบ้านและนิติบุคคลของโครงการเป็นไปได้อย่างสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารความเป็นไปต่างๆ ภายในโครงการ ฟีดแบ็กจากลูกบ้าน ไปจนถึงการจองบริการต่างๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น การขอใช้บริการช่างหรือคนดูแลบ้าน การชำระเงิน ฯลฯ ตลอดจนการฝากขายหรือเช่า ซึ่งจะช่วยให้ดำเนินการเรื่องต่างๆ เป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น จึงเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้อยู่อาศัยและนักลงทุน

 

 

FYI
  • จากการเก็บข้อมูลของ Crunchbase ซึ่งเป็นฐานข้อมูลของสตาร์ทอัพ พบว่านักลงทุนทั่วโลกลงทุนใน Prop Tech รวมกันกว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นเงินลงทุนในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 950 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • SC Asset มองเห็นถึงความสำคัญของ Prop Tech โดยนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้กับทั้งโครงการที่เน้นหลัก Human-Centricซึ่งคำนึงถึงความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย และลงทุนกับสตาร์ทอัพอย่าง Fixzyแพลตฟอร์มที่จะช่วยเหลือในเรื่องบริการหลังการขาย
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising