×

SAWAD – ปรับเรตติ้งขึ้นเล็กน้อย

19.05.2023
  • LOADING...
SAWAD

เกิดอะไรขึ้น:

หลังการประชุมนักวิเคราะห์สำหรับ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) InnovestX Research ได้ปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ของ SAWAD เพิ่มขึ้นจาก 30% สู่ 71% หลังจากปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อที่ SAWAD เองเพิ่มขึ้นสู่ 35% เพื่อสะท้อนสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 17%QoQ ใน 1Q66 

 

และมีสินเชื่อเพิ่มเข้ามาอีก 2.0 หมื่นล้านบาท (36% ของสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2565) จากการรวมงบของบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด (FM) เข้ามาในงบการเงินรวมในช่วงกลางปีนี้ (สิ้นเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคม) หลังจากซื้อหุ้น 49% ใน FM คืนจากธนาคารออมสิน (GSB) ซึ่งจะทำให้ SAWAD มีสัดส่วนการถือหุ้นใน FM เพิ่มขึ้นเป็น 98% 

 

ขณะที่คาดว่า NIM จะลดลงในปี 2566 และปี 2567 โดยมีสาเหตุมาจากผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลงและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อจะถูกฉุดรั้งโดยการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% (มีผลวันที่ 10 มกราคม 2566) และการรวมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ของ FM ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ราว 15% (ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและโฉนดที่ดิน และสินเชื่อส่วนบุคคล) เข้ามา 

 

ทั้งนี้หลังจากเข้าซื้อหุ้นของ FM SAWAD วางแผนปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น ภายใต้ข้อตกลงร่วมกับ GSB FM จะยังคงสามารถกู้เงินจาก GSB ในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม แต่ไม่สามารถนำเงินที่ได้จาก GSB ไปปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 18% ได้ จึงคาดว่า NIM จะลดลง 131 bps ในปี 2566 (หลักๆ ถูกบิดเบือนโดยการรวมงบกำไรขาดทุนครึ่งปี เทียบกับการรวมงบดุลเต็มปีของ FM เข้ามาในงบการเงินรวม) และ 29 bps ในปี 2567 

 

ส่วนอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลง ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบจากการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ SAWAD จึงลดอัตราค่าคอมมิชชันสำหรับดีลเลอร์ลง 50% เพื่อชดเชยการปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลดลง จึงคาดว่าการรวมงบของ FM เข้ามาในงบการเงินรวมของ SAWAD จะส่งผลทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ของบริษัทลดลงเล็กน้อยผ่านทางการประหยัด VAT ค่าธรรมเนียมการจัดการและค่าธรรมเนียมการแนะนำ และคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงจาก 47.7% ในปี 2565 สู่ 46.9% ในปี 2566 และ 45.3% ในปี 2567 

 

สำหรับการตั้งสำรอง SAWAD คาดการณ์ Credit Cost ในระดับปกติที่ 1-1.3% (1.4% ใน 1Q66) ในปี 2566 เทียบกับ 0.2% ในปี 2565 จึงคาดการณ์ Credit Cost ที่ 2% สำหรับปี 2566 และ 3% สำหรับปี 2567 บริษัทยังคงติดตามหนี้อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุม NPL 

 

บริษัทคาดว่าอัตราส่วน NPL จะอยู่ที่ 2.5-2.7% ในปี 2566 (เทียบกับระดับปกติที่ 4%) ขณะที่ InnovestX Research คาดว่าอัตราส่วน NPL จากสินเชื่อเช่าซื้อจะเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำในปัจจุบันที่ 2% (เทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันที่ 7%) หลังจากที่มีการเร่งขยายสินเชื่อในปี 2565 และ 1Q66 

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น SAWAD ปรับลดลง 11.76%WoW อยู่ที่ 52.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 2.60%WoW อยู่ที่ระดับ 1,526.69 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

ในปี 2566 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 13% โดยเกิดจาก NIM ที่ลดลง (ได้รับผลกระทบจากการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น) การตั้งสำรองเพิ่มขึ้น สินเชื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลงจากการลด OPEX เพื่อรับมือกับการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ได้ปรับเรตติ้งสำหรับ SAWAD ขึ้นสู่ Neutral และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นและราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยปรับประมาณการกำไรปี 2566 และปี 2567 เพิ่มขึ้นปีละ 5% เพื่อสะท้อนการซื้อหุ้น FM คืนมาจาก GSB และการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อที่ SAWAD เองเพิ่มขึ้น ซึ่งหนุนให้ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 53 บาท สู่ 55 บาทต่อหุ้น (PBV 2.65 เท่า หรือ PE ปี 2566 ที่ 15 เท่า)

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ 1. ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูงและการเร่งขยายสินเชื่อ, 2. ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ 3. ความเสี่ยงด้านกฎหมาย


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising