×

พาณิชย์-เกษตรฯ กดปุ่มจ่ายเงินส่วนต่าง ช่วยประกันรายได้ชาวสวนยางทั่วประเทศวันนี้

01.11.2019
  • LOADING...
thailand Issuer CreditRating

วันนี้ (31 ตุลาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับการยางแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ชี้แจงการจ่ายเงินวันแรก โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง

 

จุรินทร์ กล่าวว่า ถือโอกาสสวัสดีพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่มาประชุมกันอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแห่งนี้ และชาวสวนยางทั่วทั้งประเทศอีกครั้ง วันนี้เป็นวันแรกที่มีการจ่ายเงินส่วนต่างไปถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางทุกคนตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล 

 

โดยนโยบายประกันรายได้ไม่ใช่นโยบายประกันราคา หลายคนยังเข้าใจสับสน ที่บอกว่าไม่ใช่เพราะว่าราคานั้นประกันไม่ได้ เพราะจะขัดกับหลักการขององค์การการค้าโลก (WTO) ราคาจึงต้องเป็นไปตามกลไกตลาด นั่นก็คือขึ้นอยู่กับผลผลิต ถ้าผลผลิตมาก ความต้องการใช้น้อยราคาก็ต่ำ ถ้าผลผลิตน้อย ความต้องการใช้มากราคาก็สูงขึ้น

 

อดีตที่ผ่านมาก่อนมีรัฐบาลนี้ เกษตรกรชาวสวนยางจะมีรายได้ทางเดียว คือรายได้จากการขายยางตามราคาตลาด ซึ่งมีปัญหาเพราะราคายางทั่วโลกตกต่ำ และมีผลกระทบกับประเทศไทยด้วย ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้น้อยลง ตรงนี้จึงเป็นที่มาของโยบายรัฐบาลชุดนี้ ที่ได้จัดให้มีโครงการประกันรายได้ขึ้นมา

 

จากนี้ไปเกษตรกรจะมีรายได้ทางที่สองด้วย คือรายได้จากเงินส่วนต่างที่รัฐบาลนี้จะจ่ายให้กับชาวสวนยางทั่วประเทศ ในหนึ่งปีฤดูกาลผลิตรัฐบาลจะโอนให้ทุกสองเดือน และจะดำเนินการไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้ 

 

การคำนวณการประกันรายได้ให้เอารายได้ที่ประกันเป็นตัวตั้ง รัฐบาลชุดนี้ประกันรายได้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่กิโลกรัมละ 60 บาท และน้ำยางสด 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วยที่ 23 บาทต่อกิโลกรัม 

 

จุรินทร์กล่าวต่อไปว่า โดยยางแผ่นดิบที่กิโลกรัมละ 60 บาทเป็นตัวตั้ง แล้วเอาราคาตลาดเป็นตัวลบ รัฐบาลประกันรายได้ให้ชาวสวนยางหัวละไม่เกิน 25 ไร่ ขึ้นอยู่กับผลผลิตของเกษตรกรว่าได้กี่กิโลกรัม และจะเป็นเงินส่วนต่างที่เกษตรกรได้รับ

 

เช่น ถ้าเกษตรกรผลิตยางแผ่นดิบชั้นสามประกันรายได้กิโลละ 60 บาท แล้วเกษตรกรมีสวนยาง 25 ไร่พอดี ก็จะได้รับเงินส่วนต่าง 10,515 บาท และในหนึ่งฤดูกาลผลิตจะโอนให้ทุกสองเดือน โดยเงินงวดต่อไป 10,515 บาท ส่วนยางก้อนถ้วย กรณี 25 ไร่ ได้รับ 6,810 บาท และรัฐบาลจะโอนให้ทุกสองเดือน โดยงวดแรกคือวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 งวดต่อไปวันที่ 1 มกราคม 2563 และงวดต่อไปงวดที่ 3 วันที่ 1 มีนาคม 2563 

 

รัฐบาลจะดำเนินการไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่มีรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ถือว่านโยบายประกันรายได้ชาวสวนยางเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อวุฒิสภา และเป็นคำมั่นสัญญาต่อเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศไว้แล้ว เราใช้เวลาแค่ 98 วันก็โอนเงินส่วนต่างได้ ทำได้ไวและทำได้จริง

 

“สำหรับเกษตรกรบัตรสีชมพูมีสิทธิได้เงินส่วนต่างหรือไม่ ผมถามท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ซึ่งท่านก็ตอบว่าได้ครับ โดยขออย่างเดียวคือขอให้ปลูกจริง แจ้งจริงว่าปลูกชนิดไหน กี่ไร่ ไม่ใช่ทำยางก้อนถ้วยแต่ไปแจ้งทำยางแผ่นดิบ อย่างนี้ไม่ได้ เพราะเงินส่วนต่างไม่เท่ากัน การยางฯ จะเข้าไปตรวจสวน จากนั้น ธ.ก.ส. จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีพี่น้องเกษตรกร ทำให้เกษตรกรมีเงินเข้ากระเป๋าสองด้าน ด้านที่หนึ่งคือการขายได้ตามราคาตลาด และเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าขวา ทำให้มีรายได้สองกระเป๋า และรัฐบาลชุดนี้ยังมีนโยบายเสริมที่ต้องดึงให้ราคายางในประเทศสูงขึ้นด้วย” จุรินทร์ กล่าว 

 

ประการแรกคือ อีก 1 เดือนข้างหน้าพาเกษตรกรสู่การประเมินสวนยางยั่งยืน คือการที่จะเปิดโอกาสให้เกษตรกรชาวสวนยางไม่ต้องพึ่งพาต้นยางอย่างเดียวในพื้นที่ แต่เปิดโอกาสให้ปลูกพืชแซม

 

ประการที่สอง จะเพิ่มการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดยส่งเสริมให้มีการลงทุนอุตสาหกรรมยางเพื่อมาผลิตผลิตผลในประเทศมากขึ้น อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีข่าวดีที่ภาคตะวันออก คือจะมีการตั้งโรงงานขยายการผลิตอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท จะทำยางพารา จะใช้ยางในประเทศมากขึ้น ขายดียิ่งขึ้น

 

สำหรับภาคราชการ จากนี้ไปการยางฯ จะนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อรายงานให้รัฐมนตรีทราบว่า ที่เคยสัญญาว่าจะนำยางไปทำถนน ไปทำสนามกีฬา ทำไปแล้วมากน้อยอย่างไรเพื่อกระตุ้นการใช้ยางภายในประเทศ เราจะได้ราคายางที่ดีขึ้น และกระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการที่จะทำอย่างไรให้ยางไทยส่งออกไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น ภายใต้นโยบายของตนและรัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ต้องช่วยขายยางให้พี่น้องเกษตรกร 

 

“และที่สำคัญ ผมไปอินเดียมาเมื่อไม่กี่วันก่อน เราสามารถพานักลงทุนไปเปิดตลาดยางที่อินเดียได้สำเร็จ ขายยางได้ 100,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศ 9,000 กว่าล้านบาท จากนี้ไปอีกไม่กี่วันกลางเดือนพฤศจิกายน หลังประชุมอาเซียน ผมขออนุญาตท่านเฉลิมชัยไปบุกตลาดยางที่ตุรกีและเยอรมนี และมั่นใจว่าจะมีข่าวดีให้กับพี่น้อง สุดท้ายนี้มั่นใจว่าการสั่งการของท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัยบวกการยางอีกไม่กี่วันข้างหน้าเราจะมีข่าวดีให้เกษตรกรชาวสวนยาง เราจะขายยางในปริมาณที่มากมายทีเดียว จะแถลงข่าวให้ทราบเมื่อได้เซ็นสัญญาไม่เกินกลางเดือน

 

“ขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่จะได้รับเงินส่วนต่างครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้ผมและท่านเฉลิมชัยสามารถทำนโยบายประกันรายได้ชาวสวนยางได้ไวและทำได้จริง” จุรินทร์ ประกาศ ท่ามกลางเสียงปรบมือของเกษตรกร

 

ด้านเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายในส่วนของการประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในพืช 5 ชนิด คือ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพด ซึ่งจนกระทั่งถึงวันนี้ เป็นระยะเวลา 98 วันที่รัฐบาลชุดนี้ทำได้ไวทำได้จริง

 

นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 อนุมัติโครงการประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางระยะที่หนึ่ง ซึ่งนับจากวันนั้นจนกระทั่งถึงวันนี้ ที่ชาวสวนยางได้รับเงินจากการประกันรายได้ ใช้เวลาทั้งสิ้นเพียง 16 วัน

 

เฉลิมชัยกล่าวต่อไปว่า วันนี้ถือเป็นวันที่จดจำไว้ว่า สิ่งที่รัฐบาลได้สัญญาไว้ในการที่จะประกันรายได้เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร เราสามารถทำตามคำพูดและดำเนินการจนกระทั่งเงินมาถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางได้

 

สำหรับหลักเกณฑ์ของการจ่ายเงินคือ เอาเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทยก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2512 และเปิดโอกาสให้เกษตรกรตามหลักเกณฑ์ที่การยางแห่งประเทศไทยกำหนด คือยางอายุ 7 ปีขึ้นไป และเปิดหน้าดินแล้วรายละไม่เกิน 25 ไร่ ได้ทั้งเอกสารบัตรสีเขียวและบัตรสีชมพูทั้งสิ้น จำนวน 1,711,252 ราย พื้นที่สวนยางรวม 17,201,391 ไร่ หรือประมาณ 86% ของพื้นที่ทั้งหมด ปริมาณยางที่จะประกันรายได้ (ยางแห้ง) 240 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี หรือ 20 กิโลกรัมต่อไร่ต่อเดือน ระยะเวลาดำเนินการ (เดือนตุลาคม 2562 ถึงกันยายน 2563) ระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน (เดือนตุลาคม 2562 ถึงมีนาคม 2563) จ่ายเงินชดเชย 2 เดือน 1 ครั้ง

 

โดย ธ.ก.ส. ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยาง งวดที่ 1 จ่ายระหว่าง วันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2562, งวดที่ 2 จ่ายระหว่างวันที่ 1-15 มกราคม 2563 และงวดที่ 3 จ่ายระหว่างวันที่ 1-15 มีนาคม 2563 โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวนร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40  

 

สำหรับบรรยากาศที่อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เต็มไปด้วยตัวแทนของเกษตรกรจากทุกภาคร่วม 1,000 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ พร้อมผู้บริหารระดับสูงทุกหน่วย ซึ่งเงินส่วนต่างนั้นจะเริ่มต้นจ่ายรอบแรก วันที่ 1 พฤศจิกายนจน ถึง 15 พฤศจิกายน เนื่องจากว่าจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีอย่างถูกต้องทุกบัญชี

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising